วันนี้วันศุกร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๘ วันศุกร์ชีวิตต้องมีความสุขกันทุกท่านนะครับ วันนี้ผู้เขียนขอนำเสนอหนังสือ "รู้ธรรม รู้ทัน ภัยธรรมชาติ" หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ หน้า ๕๒ ได้กล่าวว่า
"เรื่อง ความไม่เชื่อต่อผลของกรรมดีกรรมชั่ว เรื่องไม่เชื่อในภพชาติในการเกิดใหม่ ความไม่เชื่อในเรื่องอย่างนี้เป็นความเห็นเฉพาะตัวเท่านั้น .... ถึงจะไม่เชื่อในส่ิงเหล่านี้ก็ไม่เป็นไร ข้อสำคัญให้เราทำดีเอาไว้ในชีวิตนี้ก็แล้วกัน เพราะการทำดี การพูดดี และมีความเห็นที่เป็นธัมมาธิปไตยนี้ต่างหาก ที่จะเป็นเส้นทางให้จิตได้รับผลในทางที่ดี"
และ หน้า ๕๓
" ถ้ามีความเห็นเป็นอัตตาธิปไตยในทุกเรื่อง จะเข้าข้างตัวเอง จะเป็นเหตุให้เกิดปัญหาแก่ตัวเองและสังคมส่วนรวมที่เรียกร้องความสมานฉันท์ ความรักสามัคคีให้เกิดขึ้น แต่ไม่หยุดความก้าวร้าว กล่าวคำนินทาว่าร้ายซึ่งกันและกันจะให้ความสมานฉันท์เกิดขึ้นได้อย่่างไร เล่า นี่คือเอาอัตตาธิปไตยเป็นหลักยืนโดยไม่รู้ตัว ความสมานฉันท์ในกลุ่มน้อยกลุ่มใหญ่จึงเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย"
จากข้อคิดของท่านหลวงพ่อทูล เบื้องต้น ทำให้ผู้เขียนประทับใจอย่างสิ่งด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมี ๒ คำ คือ ๑.ธัมมาธิปไตย และ ๒.อัตตาธิปไตย ซึ่งผู้เขียนชอบเป็นพิเศษจะเห็นว่าข้อคิดคำสอนของหลวงพ่อทูล ในหนังสือ "รู้ธรรม รู้ทัน ภัยธรรมชาติ" เป็นส่ิงที่เราทุกคนอาจจะต้องให้ความสำคัญและตระหนักให้ดีว่า เมื่อไรก็ตามที่เรารู้ธรรม (อย่างเข้าใจลึกซึ้งน้อมนำไปปฏิบัติให้ดี) รู้ทัน (ในธรรมชาติว่าเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ไม่เที่ยงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสลายไปในที่สุด) จะทำให้เราสามารถมีความสุขได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเกิดภัยใดๆ ขึ้นก็ตาม นอกจากนั้น หากว่าสังคมไทยเลือกใช้นำระบบ "ธัมมาธิปไตย"มาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันทุกด้าน ผู้เขียนเชื่อว่า จะเป็นสิ่งที่ดีอย่างที่หลวงพ่อทูลได้กล่าวไว้ข้างต้น และเป็นธรรมเนียมว่า ก่อนจากกันเช่นเคยว่า ผู้เขียนขออนุญาตนำเสนอกาพย์ยานี ๑๑ ไว้เพื่อให้ผู้อ่านได้กรุณาช่วยพิจารณา ครับ
ธัมมาธิปไตย อยู่ที่ไหนใครรู้บ้าง
สิ่งดีเป็นแบบอย่าง เป็นหนทางดีต่อจิต
อัตตาธิปไตย อย่าสนใจและใกล้ชิด
หนีไกลย่อมไม่ผิด ไม่มีมิตรอย่างแน่นอน
ก้าวร้าวและนินทา ย่อมนำพาเพื่อนจากจร
เพื่อนพ้องไม่อาวรณ์ ขอวิงวอนคิดพูดดี
รู้ธรรมให้รู้ทัน จะสุขสันต์ในชีวี
รู้ธรรมยิ่งมากมี ไปที่ดีมีความสุข
รู้ภัยธรรมชาติ ให้สามารถหนีจากทุกข์
ทุกอย่างมีสิ้นสุด ไม่เคยหยุดหมุนเรื่อยไป
ชีวิตจะมีค่า นำธัมมาธิปไตย
สังคมมีน้ำใจ ตลอดไปมีสุขเอย
ปภาวีร์
๒๓ มกราคม ๒๕๕๘
FB : ธรรมะเพื่อชีวิต โดย ปภาวีร์
"เรื่อง ความไม่เชื่อต่อผลของกรรมดีกรรมชั่ว เรื่องไม่เชื่อในภพชาติในการเกิดใหม่ ความไม่เชื่อในเรื่องอย่างนี้เป็นความเห็นเฉพาะตัวเท่านั้น .... ถึงจะไม่เชื่อในส่ิงเหล่านี้ก็ไม่เป็นไร ข้อสำคัญให้เราทำดีเอาไว้ในชีวิตนี้ก็แล้วกัน เพราะการทำดี การพูดดี และมีความเห็นที่เป็นธัมมาธิปไตยนี้ต่างหาก ที่จะเป็นเส้นทางให้จิตได้รับผลในทางที่ดี"
และ หน้า ๕๓
" ถ้ามีความเห็นเป็นอัตตาธิปไตยในทุกเรื่อง จะเข้าข้างตัวเอง จะเป็นเหตุให้เกิดปัญหาแก่ตัวเองและสังคมส่วนรวมที่เรียกร้องความสมานฉันท์ ความรักสามัคคีให้เกิดขึ้น แต่ไม่หยุดความก้าวร้าว กล่าวคำนินทาว่าร้ายซึ่งกันและกันจะให้ความสมานฉันท์เกิดขึ้นได้อย่่างไร เล่า นี่คือเอาอัตตาธิปไตยเป็นหลักยืนโดยไม่รู้ตัว ความสมานฉันท์ในกลุ่มน้อยกลุ่มใหญ่จึงเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย"
จากข้อคิดของท่านหลวงพ่อทูล เบื้องต้น ทำให้ผู้เขียนประทับใจอย่างสิ่งด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมี ๒ คำ คือ ๑.ธัมมาธิปไตย และ ๒.อัตตาธิปไตย ซึ่งผู้เขียนชอบเป็นพิเศษจะเห็นว่าข้อคิดคำสอนของหลวงพ่อทูล ในหนังสือ "รู้ธรรม รู้ทัน ภัยธรรมชาติ" เป็นส่ิงที่เราทุกคนอาจจะต้องให้ความสำคัญและตระหนักให้ดีว่า เมื่อไรก็ตามที่เรารู้ธรรม (อย่างเข้าใจลึกซึ้งน้อมนำไปปฏิบัติให้ดี) รู้ทัน (ในธรรมชาติว่าเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ไม่เที่ยงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสลายไปในที่สุด) จะทำให้เราสามารถมีความสุขได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเกิดภัยใดๆ ขึ้นก็ตาม นอกจากนั้น หากว่าสังคมไทยเลือกใช้นำระบบ "ธัมมาธิปไตย"มาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันทุกด้าน ผู้เขียนเชื่อว่า จะเป็นสิ่งที่ดีอย่างที่หลวงพ่อทูลได้กล่าวไว้ข้างต้น และเป็นธรรมเนียมว่า ก่อนจากกันเช่นเคยว่า ผู้เขียนขออนุญาตนำเสนอกาพย์ยานี ๑๑ ไว้เพื่อให้ผู้อ่านได้กรุณาช่วยพิจารณา ครับ
ธัมมาธิปไตย อยู่ที่ไหนใครรู้บ้าง
สิ่งดีเป็นแบบอย่าง เป็นหนทางดีต่อจิต
อัตตาธิปไตย อย่าสนใจและใกล้ชิด
หนีไกลย่อมไม่ผิด ไม่มีมิตรอย่างแน่นอน
ก้าวร้าวและนินทา ย่อมนำพาเพื่อนจากจร
เพื่อนพ้องไม่อาวรณ์ ขอวิงวอนคิดพูดดี
รู้ธรรมให้รู้ทัน จะสุขสันต์ในชีวี
รู้ธรรมยิ่งมากมี ไปที่ดีมีความสุข
รู้ภัยธรรมชาติ ให้สามารถหนีจากทุกข์
ทุกอย่างมีสิ้นสุด ไม่เคยหยุดหมุนเรื่อยไป
ชีวิตจะมีค่า นำธัมมาธิปไตย
สังคมมีน้ำใจ ตลอดไปมีสุขเอย
ปภาวีร์
๒๓ มกราคม ๒๕๕๘
FB : ธรรมะเพื่อชีวิต โดย ปภาวีร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น