ช่วยกันกิน ช่วยกันล้าง
เราทุกคนเกิดมาล้วนจะต้องกินเพื่อความอยู่รอดของชีวืต การกินถือว่าจะต้องมีวัฒนธรรม ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ แต่ละประเทศ แต่ละเวลา ตามลักษณะของชาติพันธ์ อาหารก็เช่นกันมีความแตกต่างกันไป การกินอาหารถ้าหากมีอาหารจำนวนมากเพียงพอเราก็ช่วยกันกิน แต่หากมีอาหารไม่พอเราต้องช่วยกันหาของกิน และเมื่อกินเสร็จแล้วเราทุกคนควรจะต้องช่วยกันล้างภาชนะที่ใส่ของกิน เพื่อใช้ในครั้งต่อไป
เราทุกคนเกิดมาล้วนจะต้องกินเพื่อความอยู่รอดของชีวืต การกินถือว่าจะต้องมีวัฒนธรรม ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ แต่ละประเทศ แต่ละเวลา ตามลักษณะของชาติพันธ์ อาหารก็เช่นกันมีความแตกต่างกันไป การกินอาหารถ้าหากมีอาหารจำนวนมากเพียงพอเราก็ช่วยกันกิน แต่หากมีอาหารไม่พอเราต้องช่วยกันหาของกิน และเมื่อกินเสร็จแล้วเราทุกคนควรจะต้องช่วยกันล้างภาชนะที่ใส่ของกิน เพื่อใช้ในครั้งต่อไป
แต่ที่ผู้เขียนนำเสนอวันนี้ ได้ไปเห็นกิกรรมหนึ่งที่วัดเวฬุวัน จังหวัดขอนแก่น ซี่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมมีนักเรียน นักศีกษามาศึกษาปฏิบัติธรรมมารวมกันฝึกตั้งแต่เช้าตื่นนอนชำระร่างกาย รับประทานอาหารร่วมกัน อาหารเหมือนกัน หลังจากนั้นต่างคนร่วมกันทำความสะอาดภาชนะที่ใส่อาหารเพื่อใช้ในครั้งต่อไป ดังนั้น จะเห็นว่ากิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าสิ่งใดก็แล้วแต่ ถ้าหากเมื่อเราร่วมกันทำแล้วจะสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น เป็นระเบียบ
ด้วยเหตุดังกล่าว การช่วยกันกิน ช่วยกันล้าง ถ้าหากเปรียบในทางพุทธศาสนาแล้ว การกินความหิวเป็น กิเลสอย่างหนึ่ง เมื่อมีกิเลสแล้วเราต้องล้างกิเลสให้หายไปทุกเมื่อ การล้างมนุษย์เราควรจะต้องล้างกิเลสต่างๆ ออกให้สิ้น ล้างความสกปรก ล้างสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ล้างสิ่งที่ไม่ดี ดังนั้น เราทุกคนมาช่วยกันกินให้น้อยลงดีหรือเปล่าครับ และมาช่วยกันล้างให้มากยิ่งขึ้น นั้นคือ ช่วยกันลดกิเลสให้มากที่สุด และช่วยกันล้างกิเลสให้หายไปจากตัวเรา
มนูญ ศรีวิรัตน์
มนูญ ศรีวิรัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น