การแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งระดับโลกระดับชาติ หรือ ระดับไหนแล้วแต่ เวลาที่อีกฝ่ายหนึ่งยิงประตูขึ้นนำแล้ว เราจะสังเกตสีหน้าของกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายได้อย่างชัดเจนว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก ฝ่ายที่ขึ้นนำสีหน้าหน้าตาจะมีแต่ความสุขยิ้มแย้มสนุกสนาน แต่ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายหนึ่งที่สีหน้ามีแต่ความเศร้าหมอง ไม่มีรอยยิ้ม โดยเฉพาะถ้าหากใกล้หมดเวลาของการแข่งขัน สีหน้าลักษณะต่างๆ ที่แสดงออกมานั้น บ่งบอกถึง ความหมดหวัง ในใจก็อาจจะคิดว่าทีมของตัวเองอาจจะสามารถยิงประตูเพิ่ม ยิงประตูตีเสมอ หรือยิงประตูเพิ่มแซงเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ แฟนบอลบางคนทนไม่ไหว หมดหวังกับผลการแข่งขันดังกล่าวอาจจะเดินออกจากสนามการแข่งขันไป โดยไม่รอว่าสิ้นเสียงนกหวีดของกรรมการผู้ตัดสินใจจะเกิดขึ้นเมื่อไร จะเห็นว่า อาการหมดหวังนี้ ทำให้ผู้นั้นมีแต่ความทุกข์ในจิตใจ กระวนกระวาย กับเวลาที่ยังเหลืออยู่
จะเห็นว่า จากที่กล่าวมาข้างต้น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการหมดหวังนั้นมีสองประการ คือ หนึ่ง เรื่องเป้าหมาย หรือ จุดประสงค์ หรือ สิ่งที่หวังไว้ และ สอง เรื่องของเวลา ซึ่งทั้งสองปัจจัยนั้นจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับความหมดหวังพอสมควร นั้นหมายความว่า ถ้าหากเราเป้าหมาย จุดประสงค์ สิ่งที่หวังไว้ ความหวังที่สูงเกินความสามารถของเรา โอกาสที่เราจะประสบความสำเร็จที่ตั้งไว้ย่อมมีน้อยมากเช่นกัน เรื่องของเวลาก็เช่นเดียวกันถ้าหากเราตั้งเป้าหมาย จุดประสงค์ หรือสิ่งที่หวังไว้สูงเกิน แต่เวลามีน้อย โอกาสที่เราจะประสบความสำเร็จก็ย่อมมีน้อยเช่นกัน แต่บางครั้ง ถ้าหากเรายังมีเวลาเหลืออยู่ แต่เรายังไม่บรรลุเป้าหมายหรือสิ่งที่หวังไว้ แต่เรา หมดหวัง ที่จะเดินต่อสู้ต่อไป ณ เวลานั้น จิตใจของเราจะรู้สึกว่า เป้าหมายนั้นมันไกลเหลือเกินเป็นไปไม่ได้
แต่ท่านเชื่อหรือเปล่าว่า เมื่อไรก็ตามที่เวลาของเรายังไม่หมดลงไป ความหวัง (เป้าหมาย สิ่งที่หวังไว้) ก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ ขอเพียงแต่เราจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งแน่วแน่เด็ดเดี่ยว บอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาทุกนาที ทุกวินาที ทุกเสี้ยววินาทีว่าเราจะต้องทำให้ได้ ด้วยเหตุนี้ เราเมื่อไรก็ตามที่เราหรือท่านมีความรู้สึกว่าหมดหวังในเรื่องใดๆ (ทั้งที่เวลายังไม่ได้หมด ยังไม่ได้สูญสิ้นลงไป) เราลองมาฝึกจิตใจ ฝึกจิตของเราให้มีความรู้สึกว่า เรายังทำได้ เราจะต้องไปให้ถึง เหมือนกันโฆษณาสินค้าบางประเภทที่บอกว่า เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชนเท่านั้น ซึ่งเวลานั้นไม่เคยหยุดนิ่ง เพียงแต่จิตใจของเรานั้นเองที่หยุดนิ่งไปบางช่วงบางขณะว่า เราหมดหวังแล้ว เราสิ้นหวังแล้ว แต่อย่าลืมว่า นั้นเป็นเพียงช่วงขณะเวลาสั้นๆ มากในจิตของเรา ถ้าหากสั่งจิตของเราว่า เราทำได้ เราจะต้องไปให้ถึง รับรองได้ว่า ความหมดหวัง จะไม่เกิดขึ้น จะมีเพียงความหวังที่เกิดขึ้นมาแทนที่
เราสามารถจะหยุดเวลาได้ทำเวลาให้ช้าลงได้ ถ้าหากเราฝึกจิตของเราให้สติ ความรวมเร็วในการทำงาน ในการปฏิบัติก็ย่อมจะเกิดขึ้น และเมื่อเป็นเช่นนั้น เป้าหมาย จุดประสงค์ หรือ สิ่งที่เราหวังไว้ ก็สามารถบรรลุได้และประสบความสำเร็จในที่สุด แน่นอนครับการฝึกจิตของเราให้มีสติเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่หากเรามาลองฝึกกันโดยมีความหวัง และบอกตัวเองว่า เราจะไม่มีวันหมดหวังในเรื่องดังกล่าว เชื่อได้เลยว่า ในชีวิตของเรานี้ โอกาสที่จะเกิดความหมดหวังมีน้อยมาก
สำหรับท่านใดที่กำลังหมดหวังในเรื่องใดๆ ในชีวิต ก็ขอให้ลองมาคิดมาฝึกจิตของเราให้บอกตัวเราว่า เวลายังไม่หมด เวลายังมีอีกมาก เวลาที่เหลือ เราสามารถทำได้ และต้องทำให้ได้ ด้วยจิตที่เป็นหนึ่งเดียวในเป้าหมายของเรา ด้วยจิตที่มั่นคงแน่วแน่ ด้วยจิตที่มีสติ ด้วยจิตที่บริสุทธิ์ เราจะไม่มีวันหมดหวังในชีวิตนี้ วันนี้เป็นต้นไปเราจะบอกตัวเองว่า ในชีวิตนี้ เราจะไม่หมดหวังในเรื่องใดๆ แต่บางครั้งก็อย่า หวังหมดไปทุกอย่างก็แล้วกัน
มนูญ ศรีวิรัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น