"วิชาสุดท้ายที่คนตายไม่ได้เรียน"
ชื่อหนังสือดังกล่าวน่าสนใจอย่างยิ่งเขียนโดย ราช รามัญ เนื่องจากหากว่า "ตาย" แล้วย่อมไม่ได้เรียน แล้ววิชาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ดังนั้น ก่อนที่จะตายเราทุกคนควรจะต้องให้ความสำคัญในการเรียนวิชานี้ (หาซื้ออ่านตามร้านหนังสือนะครับ)
"การพบกันก็เพื่อจาก"
พบกันก็เพื่อจาก อาจจะยากพบกันใหม่
พบกันต้องจากไป แล้วเมื่อไรจะพบกัน
พบกันนับว่าบุญ เกิดพระคุณดีต่อกัน
ต้องจากในสักวัน ได้พบกันก็เพื่อจาก
พบกันในวันนี้ ร่วมทำดีเต็มสามารถ
ทำดีร่วมให้มาก เมื่อต้องจากมีแต่ดี
พบกันร่วมบุญกรรม น้อมพระธรรมนำชีวี
พบกันจากวันนี้ เจออีกทีมีสุขเอย
"ถ้าเรารู้จักการปล่อยวาง ชีวิตของเราก็จะมีความสุข"
ปล่อยวางจะพบสุข หนีห่างทุกข์อย่างนิรันดร์
ปล่อยวางอย่าผูกพัน สิ้นสัมพันธ์เรื่องไม่ดี
ปล่อยวางอยู่ที่ใจ ปล่อยได้ไหวยิ่งจะดี
ปล่อยวางสุขฤดี นำวิถีสู่หลุดพ้น
ปล่อยวางคือยุติ ใช้สติอย่างอดทน
ปล่อยวางโดยไม่สน ลองหาค้นด้วยจิตดี
ปล่อยวางในทุกสิ่ง พบสุขจริงในชีวี
ปล่อยวางให้ดีดี สุขอย่างดีแน่นอนเอย
"ได้ปริญญาทางโลก แต่ไร้ปริญญาทางใจ"
ปริญญาทางโลก ไม่ได้โชคต้องเรียนรู้
อ่านเขียนตำราดู เพื่อให้รู้ตามกฎเกณฑ์
ปริญญาทางใจ ต้องเข้าใจธรรมให้เป็น
ทางโลกอาจจะเด่น ธรรมไม่เป็นไร้ความหมาย
ทางใจในธรรมะ มีมานะทั้งหญิงชาย
ทางใจไม่เดียวดาย ธรรมก่อนตายในเรื่องดี
ทางใจปริญญา ทรงคุณค่าธรรมอย่างดี
ทางใจทำความดี ธรรมวิถีดียิ่งเอย
ครับ ข้างต้นเป็นบางส่วนของหนังสือ ""วิชาสุดท้ายที่คนตายไม่ได้เรียน" นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งในการใช้ชีวิตของคนเรา ซึ่งจริงๆ แล้วในโลกใบนี้มีหลายสิ่งที่หลายอย่างที่เราจะไม่ทราบไม่รู้ไม่เข้าใจธรรมชาติ
เช่นเดียวกัน เมื่อเช้าวันนี้ (๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๗) คุณพ่อของผู้เขียนได้เล่าให้ฟังว่า
"มีญาติที่ทะเลาะกันเกี่ยวกับสมบัติของพ่อแม่ พี่น้องท้องเดียวกันต้องมาโกรธกันเพราะสมบัติ เงินๆ ทอง"
และคุณพ่อของผู้เขียนก็ได้กล่าวต่อไปว่า
"ธรรมชาติกำหนดไว้แล้ว ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้หรอก"
ผู้เขียนเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าวข้างต้น ดีใจอย่างยิ่งและคิดว่าคุณพ่อของผู้เขียนน่าจะเข้าใจเรื่อง "วิชาสุดท้ายที่คนตายไม่ได้เรียน" ทั้งที่ท่านไม่ได้อ่านหนังสือเล่มดังกล่าว
คนเรามนุษย์เราหากว่าก่อนตายได้ศึกษาบางอย่างให้ท่องแท้เข้าใจเกี่ยวกับ "ธรรมชาติ และ ธรรมะ" ย่อมจะพบกับความสุขอย่างแน่นอนครับผม ลองค้นหาวิชาสุดท้ายกันเอาเองนะครับ เพราะอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ เนื่องจากในโลกนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเหลือเกินที่จะต้องเรียนรู้ แต่เชื่อว่าท่านผู้อ่านทุกท่านคงจะสามารถพิจารณาว่า "วิชาอะไรเป็นวิชาสุดท้ายของท่านเอง"
ก่อนจบในวันนี้ คงจะต้องขออนุญาตทิ้งบทกลอนไว้เป็นธรรมเนียมเหมือนเคย ดังนี้ ครับ
วิชาที่ต้องเรียน ต้องหมั่นเพียรให้เข้าใจ
ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่ ไม่ว่าใครควรศึกษา
วิชาที่สุดท้าย อย่าเสียดายอ่านตำรา
ธรรมะต้องค้นหา พร้อมนำพามาสู่ตน
วิชาอันสุดยอด ดีตลอดเกี่ยวกับคน
ทุกอย่างล้วนน่าสน ต้องอดทนใฝ่ในธรรม
วิชาที่ล้ำเลิศ แสนประเสริฐน่าจดจำ
ธรรมะจิตน้อมนำ เป็นประจำสุขแน่เอย
มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๗
Facebook: www.facebook.com/mpsrivirat
Blog : msrivirat.blogspot.com
เช่นเดียวกัน เมื่อเช้าวันนี้ (๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๗) คุณพ่อของผู้เขียนได้เล่าให้ฟังว่า
"มีญาติที่ทะเลาะกันเกี่ยวกับสมบัติของพ่อแม่ พี่น้องท้องเดียวกันต้องมาโกรธกันเพราะสมบัติ เงินๆ ทอง"
และคุณพ่อของผู้เขียนก็ได้กล่าวต่อไปว่า
"ธรรมชาติกำหนดไว้แล้ว ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้หรอก"
ผู้เขียนเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าวข้างต้น ดีใจอย่างยิ่งและคิดว่าคุณพ่อของผู้เขียนน่าจะเข้าใจเรื่อง "วิชาสุดท้ายที่คนตายไม่ได้เรียน" ทั้งที่ท่านไม่ได้อ่านหนังสือเล่มดังกล่าว
คนเรามนุษย์เราหากว่าก่อนตายได้ศึกษาบางอย่างให้ท่องแท้เข้าใจเกี่ยวกับ "ธรรมชาติ และ ธรรมะ" ย่อมจะพบกับความสุขอย่างแน่นอนครับผม ลองค้นหาวิชาสุดท้ายกันเอาเองนะครับ เพราะอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ เนื่องจากในโลกนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเหลือเกินที่จะต้องเรียนรู้ แต่เชื่อว่าท่านผู้อ่านทุกท่านคงจะสามารถพิจารณาว่า "วิชาอะไรเป็นวิชาสุดท้ายของท่านเอง"
ก่อนจบในวันนี้ คงจะต้องขออนุญาตทิ้งบทกลอนไว้เป็นธรรมเนียมเหมือนเคย ดังนี้ ครับ
วิชาที่ต้องเรียน ต้องหมั่นเพียรให้เข้าใจ
ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่ ไม่ว่าใครควรศึกษา
วิชาที่สุดท้าย อย่าเสียดายอ่านตำรา
ธรรมะต้องค้นหา พร้อมนำพามาสู่ตน
วิชาอันสุดยอด ดีตลอดเกี่ยวกับคน
ทุกอย่างล้วนน่าสน ต้องอดทนใฝ่ในธรรม
วิชาที่ล้ำเลิศ แสนประเสริฐน่าจดจำ
ธรรมะจิตน้อมนำ เป็นประจำสุขแน่เอย
มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๗
Facebook: www.facebook.com/mpsrivirat
Blog : msrivirat.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น