บ่ายเมื่อวาน (๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๗) ณ วัดสระประสานสุข ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังเตรียมงานพิธีวางศิลาฤกษ์ฌาปนาสถาน (เมรุ) สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่บุญมี โชติปาโล ในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ผู้เขียนได้มีโอกาสนั่งคุยกับท่านถวัลย์ เรียนวิริยกิจ ประธานคณะกรรมการฝ่ายเหรัญญิกฯ (งานพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ท่านเล่าให้ฟังว่า
“ที่ผ่านมาได้เข้ามารับใช้หลวงปู่บุญมีขณะที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ นับว่าเป็นบุญวาสนาอย่างยิ่ง แล้วท่านก็เล่าต่อไปว่า “ผมเองมีความศรัทธาพระสายวัดป่า เมื่อ ๔ ปีที่แล้วผมได้สร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมสำนักสงฆ์ เริ่มจากซื้อที่ดิน ๑๐ กว่าไร่ และซื้อต่อเพิ่มเติมเป็น ๓๐ ไร่ ตอนนี้ มีศาลาปฏิบัติธรรม ห้องน้ำ โรงทาน ที่เป็นแบบมาตรฐานเรียบง่ายตามรูปแบบของวัดหนองป่าพง ซึ่งสถานที่ดังกล่าวนี้จะมีพระสงฆ์สายวัดหลวงป่าพงมาปฏิบัติธรรมและญาติโยม ซึ่งผมคิดว่าเสร็จเรียบร้อยพร้อมแล้ว ผมเลยต้องกลับมาช่วยงานหลวงปู่บุญมี”
เมื่อท่านถวัลย์ได้เล่าถึงตอนนี้ ผู้เขียนนึกในใจว่า คนแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างยิ่ง มีเงินมีทองแล้วทำเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ผู้เขียนสังเกตใบหน้าของท่านถวัลย์ว่าเมื่อท่านเล่าไปท่านก็มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสดูมีความสุขอย่างยิ่ง
ท่านถวัลย์ได้เล่าต่อว่า
“เมื่อตอนหลวงปู่บุญมียังมีชีวิตอยู่นั้น ได้มีโอกาสเข้ามาหาหลวงปู่หลังจากที่เลิกงาน และเมื่อวาระสุดท้ายของหลวงปู่บุญมี ก็ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆๆ กับหลวงปู่ โดยวันนั้น (วันศุกร์ที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ ๒๕๔๗) เมื่อพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุเสด็จเยี่ยมอาการอาพาธของหลวงปู่ แล้วพระองค์ได้เสด็จกลับโดยภรรยาของผมตามส่งเสด็จฯ ไปด้วย ส่วนผมนั่งรอภรรยาที่กุฏิของหลวงปู่ สักครู่ภรรยาของผมได้โทรศัพท์มาสอบถามผมว่าหลวงปู่เป็นอย่างไรบ้าง ผมตอบว่า ท่านเข้านอนพักผ่อนเหมือนปกติ ซึ่งผมไม่ได้คิดอะไรมาก แต่อีกสักครู่ คุณหมอกวี ไชยศิริ ผู้อำนวยการ รพ. สรรพสิทธิประสงค์อุบลฯ (ขณะนั้น) ได้บอกผมว่าหลวงปู่ได้ละสังขารแล้ว”
ท่านถวัลย์ยังได้เล่าต่ออีกดังนี้
“ในวันสุดท้ายที่หลวงปู่บุญมีจะละสังขารนั้น มีคนบอกผมว่า ขณะที่หลวงปู่นอนอยู่นั้นท่านได้ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ๓ ครั้ง ซึ่งผมไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร แต่คิดว่าคงจะมีอะไรสักอย่าง ครับ ในวาระสุดท้ายของหลวงปู่ผมได้อยู่ใกล้ท่าน นับว่าเป็นบุญของผม และงานพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ผมจะทำอย่างเต็มกำลังความสามารถในส่วนที่ได้รับผิดชอบ”
นั่นเป็นเรื่องราวที่ผู้เขียนได้รับฟังจากท่านถวัลย์ เรียนวิริยกิจ จึงขออนุญาตบันทึกไว้เพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับลูกศิษย์ลูกหาทุกท่านของหลวงปู่บุญมี โชติปาโล
มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๗
Facebook: www.facebook.com/mpsrivirat
Blog : msrivirat.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น