ครับ ผู้เขียนวันนี้โชคดีอีกครั้งที่ได้พบรู้จักกับภรรยาท่านถวัลย์ เรียนวิริยะกิจ (ประธานคณะกรรมการฝ่ายเหรัญญิกพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่บุญมี โชติปาโล อ่านเรื่องราว เรื่องดีๆ (เกี่ยวกับหลวงปู่บุญมี) ๑ )
โดยท่านถวัลย์ได้แนะนำให้ผู้เขียนรู้จักภรรยาของท่าน โดยที่ท่านถวัลย์ได้เกริ่นนำเกี่ยวกับพระที่ห้อยคอที่เป็นเหรียญของหลวงปู่บุญมีรุ่นที่ ๑ หายจากคอ
โดยท่านถวัลย์ได้แนะนำให้ผู้เขียนรู้จักภรรยาของท่าน โดยที่ท่านถวัลย์ได้เกริ่นนำเกี่ยวกับพระที่ห้อยคอที่เป็นเหรียญของหลวงปู่บุญมีรุ่นที่ ๑ หายจากคอ
ผู้เขียนได้ยินท่านถวัลย์กล่าวไปก็นึกในใจว่า "เรื่องอะไร" "เป็นไปได้อย่างไร"
และเมื่อผู้เขียนยกมือไหว้แฟนท่านถวัลย์ (คือ ท่านพิราวรรณ เรียนวิริยะกิจ รองประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี) ท่านพิราวรรณ ได้กรุณาเล่าต่อเกี่ยวกับเรื่องของพระที่ห้อยคอหายว่า
"เป็นเหรียญของหลวงปู่บุญมีรุ่น ๑ ที่ใส่กรอบเหลี่ยมทองอย่างดี อยู่ดีๆๆ ปรากฏว่าองค์พระดังกล่าวได้หายจากกรอบโดยไม่รู้ว่าหายไปเมื่อไร ทั้งที่กรอบพระก็ไม่ได้แตกแยกออกจากกัน ทำให้ต้องรีบมาหาหลวงปู่บุญมี โชติปาโล ที่วัดฯ เมื่อมาพบท่านหลวงปู่บุญมี ท่านได้มีเมตากรุณา และบอกว่า เมื่อสามีภรรยามีแต่ทะเลาะกัน พระท่านก็ไม่อยู่ด้วยหรอก หากเลิกทะเลาะกันเดียวก็กลับได้มาเหมือนเคย"
"หลังจากนั้นมา พี่กับเฮีย ก็ไม่ทะเลาะกัน แต่ในใจคิดว่าแล้วจะได้องค์พระกลับมาได้อย่างไร"
"เวลาผ่านไป เมื่อคุณแม่พี่ได้แบ่งของมีค่าให้ลูกๆ โดยการจับฉลาก พี่ก็ไม่คิดอะไรมากและมีสิ่งที่เห็นแล้วอยากได้เช่นกัน แต่ปรากฏว่า ผลการจับฉลากพี่ได้สิ่งที่เล็กทีสุด เป็นกล่องที่เล็กที่สุด และไม่ทราบว่าข้างในเป็นอะไร และเมื่อเปิดกล่องออกมาปรากฏว่า เป็นเหรียญองค์พระหลวงปู่บุญมีรุ่น ๑ ทำให้พี่ดีใจอย่างยิ่งที่ได้สิ่งที่ต้องการมีค่ากลับคืนมา และทำให้ชีวิตครอบครัวของพี่ได้พบเจอสิ่งดีๆ เรื่อยมา"
ครับ นั่นเป็นเพียงบางส่วนที่ได้รับฟังจากกัลยาณมิตรผู้ที่จิตศรัทธาต่อหลวงปู่บุญมี โชติปาโล อย่างแท้จริง โดยทั้งครอบครัวเรียนวิริยะกิจมีจิตศรัทธาที่เปี่ยมล้นและมีความพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อถวายแด่หลวงปู่ฯ
เรื่องราวดังกล่าวข้างตนเป็นข้อคิดอันดีอย่างยิ่งในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตครอบครัวที่จะต้องมีความเมตตากรุณาต่อกันเป็นมิตรต่อกันไม่ทะเลาะกัน และเมื่อทุกคนมี "เมตตา กรุณา" ต่อกันไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ในชุมชน ในหมู่บ้าน ในตำบล ในอำเภอ ในจังหวัด ในประเทศ และในโลกใบนี้ย่อมจะเกิดสันติสุขมีความสุขอย่างยั่งยืนในที่สุด
มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗
Facebook: www.facebook.com/mpsrivirat
Blog : msrivirat.blogspot.com
๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗
Facebook: www.facebook.com/mpsrivirat
Blog : msrivirat.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น