Nuffnang Ads

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เราและนาย

หลายวันก่อนได้ดูข่าวกีฬาฟุตบอลทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ปรากฏว่าเห็นนักฟุตบอลผู้จัดการทีมและเพื่อนๆ ไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมและขอโทษเพื่อนนักฟุตบอลอีกทีมที่ได้รับบาดเจ็บ​ (ขาหักสองท่อน)​จากการปะทะกันในเกมส์แข่งขันที่ไม่ได้มีเจตนา ภาพข่าวดังกล่าวมีเพลงประกอบด้วย คือ เพลง "เราและนาย" ของนักร้องชื่อเสกโลโซ ผู้อ่านท่านใดที่ยังไม่เคยฟังเพลงนี้ ลองฟังได้ที่นี้ครับ  ท่อนที่ซึ้งกัน คือ "เราและนาย" 

แต่ที่ผู้เขียนจะขออนุญาตเเพิ่มเติมจากข่าวข้างต้นและเพลงดังกล่าว คือ คำว่า "เราและนาย"  เราและนายดังกล่าวผู้เขียนหมายถึง เรา หมายถึง ตัวเรา ส่วนนาย หมายถึง เจ้านาย  ซึ่งบางคนอาจจะเป็นทั้งเจ้านายและลูกน้อง

เจ้านาย ความหมาย ค่อนข้างที่จะเป็นส่ิงที่อยู่สูงเหลือเกิน เพราะเนื่องจากเป็น เจ้า ซึ่งสมัยก่อนนั้น คือ ผู้ที่เราจะต้องให้ความเคารพนับถือเพราะเนื่องจากเป็นบุคคลที่ทำงานเพื่อแผ่นดินรับใช้พระมหากษัตริย์  ดังนั้น เจ้านายเราจะต้องให้ความเคารพนับถือยำเกรง ซึ่งเจ้านายเป็นผู้ที่ให้อาชีพแก่เรา มอบหมายงานให้เราทำ จ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับเรา ดังนั้น จะเห็นว่าเจ้านายนั้นให้ทั้งคุณและโทษ​​ (ถ้าหากเราทำผิด ย่อมจะถูกลงโทษ นั้่งเอง)  แต่สำหรับ ลูกน้อง เป็นคำที่มาจาก ทั้ง ลูก รวมกับ น้อง ดังนั้น จะเห็นว่าลูกน้องเป็นบุคคลที่เป็นทั้ง ลูก และ น้อง สำหรับเจ้านาย  ที่เป็นลูก คือ เจ้านายจะต้องดูแลให้มีความเจริญเติบโต ให้ความอบอุ่น ที่เป็นน้อง คือ เจ้านายจะต้องดูแลให้ความเอ็นดู ดูแลเปรียบเสมือนน้องแท้ของเจ้านาย 

จากข้างต้น ผู้อ่านเห็นหรือยังว่า "เราและนาย"​ จะต้องทำงานด้วยกันให้ความเคารพนับถือเชื่อฟังสำหรับคนที่เป็นเรา (ลูกน้อง) และสำหรับเจ้านายก็ต้องให้ความรักความอบอุ่นดูแลเรา (ลูกน้อง) ให้ดี ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากในทุกหน่วยงานจะมี "เราและนาย" ก็ขอให้เป็น เราและนาย ที่เข้าใจกันและกัน เข้าใจบทบาทของทั้ง เรา​(​ลูกน้อง)​ และเจ้านาย ซึ่งถ้าทั้งสองไม่ว่าจะเป็นเราและนายเข้าใจกันเป็นอย่างดี หน่วยงานนั้นสังคมการทำงานร่วมกันนั้นก็จะมีแต่ความสุข ดั่งเนื้อเพลงบางช่วงบางตอนของเพลง "เราและนาย"​ที่ว่า

จากวันนี้ จะมีเรา เราและนาย 
จดจำไว้ตลอดไป ไม่ทิ้งกัน 
หากมีเราจะมีนายร่วมทางไม่มีไหวหวั่น 


ดังนั้น ขอให้เราคนไทยทุกคนมาเป็น "เราและนาย" ที่จะร่วมเดินทางพัฒนาประเทศของเราให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไปตลอดไป
มนูญ​ ศรีวิรัตน์






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น