ลองอ่านตามรูปภาพต่อไปนี้
*********************
ผู้ที่มี "ความพอ" แล้ว ย่อมมีความพอใจในภาวะและฐานะของตน จนกระทั่งไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องนำตนไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น
*********************
เชื่อว่าทุกท่านเมื่อได้อ่านคติธรรมคำสอนเกี่ยวกับ "ความพอ" ข้างต้นแล้ว คงจะสามารถทำให้ทุกท่านได้ข้อคิดอย่างดีในการที่จะ "พอ"
และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตาพิจารณาแนะนำเพิ่มเติมเพื่อการปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป ดังนี้
ความพอไม่ต้องรอ จิตต้องพอให้จงได้
ความพอเป็นอย่างไร แล้วทำไมไม่เคยพอ
พอใจในภาวะ และฐานะจะต้องพอ
แล้วทำอย่างไรหนอ เพื่อให้พอก่อสิ่งดี
เปรียบเทียบกับผู้อื่น จิตต้องตื่นฝืนให้ดี
พอแล้วในทันที ขอแค่นี้ดีเกินไป
มองดูรู้ตัวตน โดยไม่สนอดทนใจ
ธรรมะมีเร็วไว เมื่อเข้าใจให้พอดี
ความพอฝืนที่จิต พร้อมนึกคิดชิดธรรมดี
เกิดพอทุกนาที สุขชีวีที่มีพอ
พอใจในตัวเรา ทุกข์หนักเบาเศร้าไม่ต่อ
มีธรรมไม่ต้องรอ มีความพอขอสุขเอย
*********************
เชื่อว่าทุกท่านเมื่อได้อ่านคติธรรมคำสอนเกี่ยวกับ "ความพอ" ข้างต้นแล้ว คงจะสามารถทำให้ทุกท่านได้ข้อคิดอย่างดีในการที่จะ "พอ"
และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตาพิจารณาแนะนำเพิ่มเติมเพื่อการปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป ดังนี้
ความพอไม่ต้องรอ จิตต้องพอให้จงได้
ความพอเป็นอย่างไร แล้วทำไมไม่เคยพอ
พอใจในภาวะ และฐานะจะต้องพอ
แล้วทำอย่างไรหนอ เพื่อให้พอก่อสิ่งดี
เปรียบเทียบกับผู้อื่น จิตต้องตื่นฝืนให้ดี
พอแล้วในทันที ขอแค่นี้ดีเกินไป
มองดูรู้ตัวตน โดยไม่สนอดทนใจ
ธรรมะมีเร็วไว เมื่อเข้าใจให้พอดี
ความพอฝืนที่จิต พร้อมนึกคิดชิดธรรมดี
เกิดพอทุกนาที สุขชีวีที่มีพอ
พอใจในตัวเรา ทุกข์หนักเบาเศร้าไม่ต่อ
มีธรรมไม่ต้องรอ มีความพอขอสุขเอย
ปภาวีร์
๒ ธันวาคม ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น