โดน เป็นสิ่งที่เราทุกท่านทราบกันดีและรู้จักกันดี เนื่อง โดน หมายถึง การกระทบกระทั่ง กระทบกระแทก การสัมผัสถูกต้อง หรือ ถูก
สำหรับ คำว่า โดนดังกล่าว อยู่ตัวเดียวโดดๆ มักจะไม่มีความหมายสักเท่าไร แต่ถ้าหากเมื่อไรก็ตามที่มีคำอื่นๆ มาอยู่ด้วยแล้วละก็ จะทำให้โดนมากยิ่งขึ้น เช่น โดนต่อย (ถูกคนอื่นชกต่อย) โดนตี (ถูกคุณครูลงโทษโดยการตี) เป็นต้น
แต่วันนี้ผู้เขียนอยากจะเขียนเกี่ยวกับ โดน + ใจ = โดนใจ ซึ่งโดนใจน่าจะหมายถึง การที่กระทำใดๆ สักอย่างแล้วเกิดความสนใจประทับใจพอใจในการกระทำสิ่งนั้น ตัวอย่างเช่น นักศึกษานำเสนอผลงานเพื่อขอสำเร็จการศึกษาได้ประทับใจอาจารย์ที่ปรึกษา ก็อาจจะเรียกว่า “โดนใจ” ก็ได้ หรือ วัยรุ่นแถวสยามแต่งตัวซะแบบทำให้เป็นที่สนใจสำหรับผู้คนที่พบเห็น ก็อาจจะเรียกว่าได้ว่า “โดนใจวัยรุ่น”
สำหรับการที่เราจะกระทำเพื่อให้เกิด โดนใจ สำหรับคนอื่นนั้น เป็นเรื่องที่เราทุกคนควรจะทำเพราะจะทำให้คนอื่นที่ว่านั้นเกิดความสนใจพอใจประทับใจและมีความสุขในสิ่งที่เราได้กระทำ คนที่เป็นลูกหากประพฤติปฏิบัติตัวให้เป็นที่พอใจประทับใจสำหรับพ่อแม่ ก็จะเป็นที่โดนใจสำหรับพอใจ เช่นเดียวกัน นักเรียนทำหน้าที่ของตัวเองในการศึกษาเล่าเรียนได้อย่างดียิ่งทั้งการเรียน การกีฬา การช่วยเหลือกิจกรรมโรงเรียนด้วยจิตอาสา ก็เป็นที่โดนใจสำหรับคุณครู หรือ ลูกน้องทำงานด้วยความตั้งใจใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายทำงานด้วยจิตที่แน่วแน่และจิตบริการ ก็จะเป็นที่โดนใจสำหรับเจ้านาย หรือ แม้กระทั่งเจ้านายทำงานปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมิตรเอื้อเฟื้อใส่ใจลูกน้อง ก็จะเป็นที่โดนใจให้กับลูกน้องเช่นกัน
โดนใจ ที่ว่าจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราทำสิ่งใดก็ตามแต่ด้วยในหน้าที่ที่กำหนดไว้อย่างถูกต้องเป็นระเบียบระบบ ไม่ทำให้ใครได้รับความเดือดร้อนและที่สำคัญ คือ ทำแล้วเกิดความสุขทั้งกับตัวเรา คนรอบข้างคนอื่นๆ และประการสำคัญ คือ จะต้องทำด้วยจิตที่มีสาธารณะจิตอาสาเพื่อส่วนร่วมเพื่อผลประโยชน์ของหน่วยงาน ของสังคม ของประเทศชาติ โดยการทำด้วยจิตดังกล่าวนั้นเป็นจิตที่บริสุทธิ์ไม่หวังผลตอบแทนใด (แล้วจะมีหรือไม่เนี้ย คนแบบนี้) ดังนี้แล้ว ถ้าหากจะให้โดนใจกับใคร เราก็ควรจะโดนใจกับตัวของเราเสียก่อน นั้นคือ เราควรจะทำในสิ่งที่น่าสนใจที่ทำให้ตัวเราพอใจประทับและมีความสุข เมื่อเป็นอย่างนั้น ค่อยขยายผลไปสู่งานที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วเราจะเป็นที่โดนใจของทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวของเรา
ที่นี้ เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนอีสาน (คนบ้านเดียวกัน) ถ้าหากเมื่อไรก็ตามที่เราคนอีสานพูดว่า โดนเหลือเกิน จะหมายความว่า ใครหรือเรากระทำการใดๆ ด้วยเวลาที่นานเหลือเกิน กล่าวคือ ใช้เวลาหรือสูญเสียเวลาในการทำงานเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น บักจ่อยเจ้านายใช้ให้พิมพ์งานหนังสือเชิญประชุมหัวหน้าส่วนราชการ บักจ่อยใช้เวลาไปประมาณ ๓ ชั่วโมง เจ้านายก็อาจจะบอกว่า “โดนเหลือเกิน” ซึ่งเรียกว่า ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เวลาทำงานก็อย่าให้ “โดน” นะครับ เพราะเดี๋ยวท่านจะโดนอีกแล้ว (เหมือนกับใครบางคนที่เจ้านายบ่นให้ ก็มักจะพูดว่า “โดนอีกแล้วเรา”) บางครั้งก็มีคำที่เรียกว่า “โดนทั้งขึ้นและทั้งล่อง” (น่าจะเป็น ขึ้นเหนือและล่องใต้) ซึ่งผู้เขียนเข้าใจว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามโดนตลอด แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เราก็เปลี่ยนจากโดนดังกล่าวให้เป็นที่ “โดนใจ” สำหรับเจ้านายหรือหัวหน้าให้ได้ แล้วเราก็จะไม่โดนอีก สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนเป็นที่โดนใจของทุกๆ คนนะครับ
มนูญ ศรีวิรัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น