ตอนแรกที่ผู้เขียนได้คิดจะเขียนเกี่ยวกับยิ่งให้ ก็ยิ่งได้ นั้น ก็คิดเหมือนกันว่าจะเขียนอย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการสื่อความหมายให้ได้ดีมากที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่ผู้เขียนคิดว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะ ยิ่งให้ ก็ยิ่งได้ กับ ยิ่งได้ ก็ยิ่งให้ นั้นจะให้ความหมายที่ใกล้เคียงกัน
ยิ่งให้ เป็นอย่างไรกันแน่ ให้ การให้ เป็นสิ่งที่เรามนุษย์ทุกคนควรจะต้องมีประจำตัวเอง เพราะให้เป็นสิ่งที่เรามีอะไรอยู่ เราเอาออกจากตัวเรานำไปสู่คนอื่นๆ เพื่อคนอื่นได้รับประโยชน์ (ผู้เขียนขอเน้นนะครับ ว่าได้รับประโยชน์เกิดความสุข) ไม่ใช่เรามีอะไรแล้วเอาออกจากตัวเราไปสู่คนอื่นแล้วผู้ที่ได้รับเขาไม่ได้ประโยชน์เกิดความเดือดร้อน
ให้ ยิ่งให้เท่าไรเราก็จะรู้สึกเองว่า มันเกิดความสุขที่ไม่รู้ตัว ยิ่งเราฝึกให้บ่อยๆ ทุกเวลาๆ ทุกสถานที่ๆ การให้ดังกล่าวก็จะกลาย เป็นการได้ ซึ่งการได้ที่ว่านั้น คือ การได้ความสุขที่เป็นความสุขจริงๆ เกิดกับจิตของเรา และเมื่อไรก็ตามที่เราให้ หรือ เกิดการให้อีก จิตของเราจะรู้สึกโดยอัตโนมัติว่า การให้ดังกล่าว เราจะต้องทำแล้วทำอีก จึงเป็นที่มาของ ยิ่งให้ ก็ยิ่งได้ (ให้ประโยชน์แก่ผู้อื่นๆ ก็จะได้ความสุขกับคืนมา ให้มาก ก็ยิ่งได้มากเท่านั้น) แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าหากเราให้ความทุกข์แก่คนอื่นมากเท่าไร ก็ยิ่งจะได้รับความทุกข์กลับคืนมาเท่าเดิม และอาจจะมากกว่าเดิมก็ได้ ดั่งที่มีกล่าวไว้ว่า "ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว" ดังนี้แล้ว ผู้เขียนก็เลยคิดว่า เราทุกคนน่าจะฝึกปฏิบัติ "ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัวเรา"
ตัวอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนประสบพบมา ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวกับข้างต้นหรือไม่ แต่เป็นความจริงที่ผู้เขียนพึ่งจะประสบมา กล่าวคือ ผู้เขียนไปติดต่อทำธุรธรรมเกี่ยวกับที่ดิน (ณ สำนักงานที่ดินแห่งหนึ่งในประเทศไทยของเรา) สำนักงานนี้มีขนาดเล็ก แต่มีผู้คนมาใช้บริการจำนวนมาก ไม่มีความสมดุลกันเลยระหว่างจำนวนเจ้าหน้าที่ และผู้มาใช้บริการ ผู้เขียนก็ใช้บริการตามปกติตามแถวคิวที่กำหนดไว้ ในใจก็สงสารเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาไม่ได้หยุดพัก ไม่ได้แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ เพราะผู้เขียนก็เผ้าสังเกตอยู่ตลอดเวลา ยิ้มให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ จิตก็ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน แต่ความวุ่นวายก็เกิดขึ้น เพราะผู้มาใช้บริการต่างๆ คนก็ต่างๆ จะให้เอกสารของตัวเองเสร็จสิ้นกระบวนการเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีทั้งเจ้าหน้าที่บริษัท เจ้าหน้าที่ธนาคารที่มารับจำนอง บรรยากาศภายในสำนักวุ่นวายมากๆๆๆ ผู้เขียนก็ได้แต่ใจเย็นและคอยให้กำลังทุกคนเอาใจช่วยทุกคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ในจิตใจของผู้เขียนรู้สึกสงสารเจ้าหน้าที่ที่ดินเป็นอย่างมาก (เพราะไม่รู้จะฟังใคร) และคิดว่า เจ้าหน้าที่ที่ดินน่าจะเป็นข้าราชการที่มีความเครียดเป็นอย่างมากเลยที่เดียว ผู้เขียนได้แต่นั่งรอ เอาใจช่วย ยิ้มให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน และแล้วในที่สุด เอกสารของผู้เขียนเสร็จสิ้นกระบวนความด้วยความรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆ ซึ่งผู้เขียนคิดว่า การที่เราให้กำลังใจแก่ใคร ยิ้มให้กับใคร เอาใจช่วยเขา น่าจะเป็นพลังอย่างหนึ่งเหมือนกันในการช่วยเขาเหล่านั้นให้มีพลังเช่นกัน การให้ดังกล่าว ทำให้ผู้เขียนไม่ต้องเป็นทุกข์กับการนั่งคอย เกิดความสุขในการให้ ตัวอย่างเช่นนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า หากเราสามารถทำได้ต่อเหตุการณ์ต่างๆ เราก็จะเกิดความสุข ต่อทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์สถานการณ์รอบข้างเรา ก็ขอให้ผู้อ่านได้ลองดูนะครับ
ที่นี้ เราลองมาดูเรื่องยิ่งได้ ยิ่งให้ อาจจะเป็นเรื่องของเศรษฐีมีสตางค์ที่ยิ่งได้มีเงินทองมากมาย แล้วพวกเขายิ่งให้บริจาคกับผู้ยากไร้ ดังตัวอย่างเช่น เจ้าของ Microsoft เจ้าของ Facebook เป็นต้น พวกเศรษฐีดังกล่าวยิ่งเขาได้เงินทองมากมายจากธุรกิจของเรา แล้วพวกเขาก็ให้กลับคืนสู่สังคมผู้ยากไร้ การยิ่งได้ ยิ่งให้ ดังกล่าวก็ยิ่งจะทำให้เกิดความสุขได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่ท่านผู้อ่านได้ (เงินทอง) มามากๆ แล้ว ก็ลองให้มากๆ นะครับ แล้วท่านจะประสบพบกับความสุขที่หาซื้อด้วยเงินทองไม่ได้
ปีใหม่ใกล้จะถึงนี้ ก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่านลองทำ ยิ่งให้ ก็จะยิ่งได้ และ ลอง ยิ่งได้ ก็จะยิ่งต้องให้ ดูนะครับแล้วท่านจะมีความสุขในปีใหม่ ปีกระต่ายทองคำ
มนูญ ศรีวิรัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น