ดี เป็นคำที่มนุษย์ทราบและรู้ว่าหมายถึงอะไร และมนุษย์เราทุกคนก็ควรจะต้องฝึกปฏิบัติและทำในสิ่งดีๆ กล่าวสำหรับ ดี การทำดี เป็นการกระทำ (หรือ) ปฏิบัติที่เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและคนอื่นๆ ไม่ทำให้ตัวเราและคนอื่นๆ ได้รับความเดือดร้อน และประการสำคัญคือ เมื่อทำดีแล้วเกิดความสุขใจในการทำ ดังนั้น จะเห็นว่า การทำดี เป็นสิ่งที่เราทุกคนจะต้องทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และควระทำอยู่ทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี พูดง่ายๆ คือ ทำดีทุกเวลา สรุปง่ายๆ สำหรับ ดี การทำดี น่าจะหมายถึง การกระทำ (หรือปฏิบัติ) ในการใดๆ ก็ตามแต่ที่เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อผู้อื่น ต่อองค์กร ต่อสังคม ต่อประเทศชาติ โดยที่การกระทำนั้นๆ จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนมาให้ตัวเอง ให้ครอบครัว ให้ผู้อื่น ให้องค์หร ให้สังคม ให้ประเทศชาติ และจะต้องกระทำเป็นประจำสมำ่เสมอทุกเวลา ที่มีคนเคยบอกว่า คิดดีแล้วก็จะต้องทำดี ด้วย
พระพุทธเจ้าได้สั่งสอนไว้ว่า ทำดีย่อมได้รับแต่สิ่งดีๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่าบางครั้งเราทำดีแต่ยังไม่อาจจะเห็นผลของการทำดี แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นสำหรับผู้ที่กระทำดี คือ เกิดความสุขขึ้นมาในจิตใจมีความอิ่มบุญ อิ่มใจที่ได้ทำดี นี้แหละที่เรียกว่า ผลของการทำดีโดยไม่ต้องรอเวลา หลายๆ คนอาจจะเคยบ่นว่า ทำดีแล้วไม่เห็นได้ดีเลย มีแต่ถูกด่า ถูกว่าให้ แต่ท่านเชื่อผู้เขียนหรือไม่ว่า สิ่งที่หนึ่งที่อยู่ในจิตใจของท่าน คือ ท่านรู้ตัวเองว่าเราได้ทำดีที่สุดแล้ว (นั้นหมายความว่า ท่านได้ทำประโยชน์ ไม่สร้างความเสียหาย ความเดือดร้อนเกิดขึ้น) ท่านย่อมจะมีความสุขในการทำ ถึงแม้ว่าจะมีคนว่าก็ตามแต่ (แต่ตัวเรารู้ที่ดีสุด)
ที่นี้ มีดูคำว่า ปาก เป็นอวัยวะที่ใช้สำหรับรับประทานอาหาร ใช้เปล่งเสียงวาจาในการสื่อสารสร้างความเข้าใจในการทำงาน ปาก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ปาก เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ความสุขที่ได้จากขับร้องเพลง ปาก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้รับรู้ถึงรสอาหารที่อร่อย ปาก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราจะต้องใช้ในการแสดงความสุข (โดยการยิ้ม) จะเห็นว่า ปาก นั้น มีประโยชน์มากกมายมหาศาล (ถ้าหากเราใช้ในทางที่ถูกที่ควร) แต่บางครั้งก็เกิดโทษเหมือนกัน เช่น ใช้ปากหาเรื่องในการว่ากล่าวให้ร้ายคนอื่นให้เกิดความเสียหายและเดือดร้อน เป็นต้น
ที่นี้ เรามาลองผสม คำว่า ดี กับ ปาก ลองดูว่าจะเป็นอย่างไร ผู้อ่านท่านใดที่มีปากที่ดี ก็จะเป็นศรีแก่ตัว ความหมาย คือ เวลาพูดออกไปกล่าวออกไปก็มีเรื่องแต่ดีๆ เกิดสิ่งดีๆ ต่อทุกคน อาชีพหนึ่งที่ใช้ปาก และควรจะต้องใช้ให้ดี คือ อาชีพความเป็น ครู อาจารย์ ในการสั่งสอนลูกศิษย์ นักเรียน นักศึกษา ถ้าหากครูใช้ปากพูดสอนลูกศิษย์ให้ความรู้ในสิ่งที่ดีๆ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อการศึกษาของไทย ครูใช้ปากดุด่าลูกศิษย์ด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อให้ลูกศิษย์ได้รับแต่สิ่งดีๆ การดุด่าดังกล่าวก็เป็นเรื่องที่ดีเพื่อให้ลูกศิษย์ได้จดจำนำไปปรับปรุงตัวเองในการเรียนในการใช้ชีวิต
แต่บางครั้ง ถ้าหาก ดี กับ ปาก เป็นไปในลักษณะที่เรียกว่า ดีแต่ปาก ลักษณะอย่างนี้จะไม่เป็นที่ต้องการของเพื่อนร่วมงานหรือคนในองค์กรหน่วยงาน เพราะความหมายของดีแต่ปาก คือ มีแต่พูดออกไปแต่ทำงานไม่เป็นหรือไม่ทำงาน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เป็นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานจริงไม่รู้เรื่องนั้นๆ เรื่องงานที่ทำอยู่จริง ซึ่งในสังคมไทยอาจจะมีผู้คนลักษณะแบบนี้มากกมายเช่นกัน คือ ดีแต่ปาก โดยที่ถ้าหากองค์กรใดหน่วยงานใดมีคนที่มีลักษณะดีแต่ปากจำนวนมาก อาจจะทำให้องค์กรหน่วยงานนั้นไม่มีความเจริญก้าวหน้า เพราะไม่มีคนทำงาน ไม่มีคนดีที่ลงมือทำจริงปฏิบัติจริง หากปล่อยให้องค์กรหน่วยงานใดมีคนดีแต่ปากจำนวนมากๆ ไม่ช้าไม่เร็วองค์กรหน่วยงานนั้น ก็คงจะต้องล่มสลายไปเพราะปาก
มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำให้คนที่ดีแต่ปากปรับปรุงตัวของเขาเอง เพราะคงจะไม่มีใครสามารถไปบอกเขาได้ ผู้เขียนก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดี แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่าน่าจะทำได้ คือ เราไม่ต้องไปสนใจพวกเขาเหล่านั้น เพราะตราบใดที่พวกเขาดีแต่ปาก พวกเขาก็จะไม่มีความสุขในการกระทำใดๆ ก็ตามแต่ เพราะพวกเขาก็จะมัวแต่ดีแต่ปาก ในใจของพวกเขาก็จะรุ่มร้อนไม่เป็นสุขเกิดความทุกข์ที่จะใช้ปากในการทำงาน ดังนั้น เมื่อเราเปลี่ยนแปลงพวกเขาไม่ได้ เราก็ควรจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ให้เป็นพวกที่ดีแต่ปาก วิธีการง่ายๆ คือ ทำงานในส่วนที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด (ให้เกิดประโยชน์ตามเวลาที่กำหนด ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองหน่วยงาน สังคม) แล้วเราก็จะเป็นคนที่คนอื่นใช้ปากกล่าวถึงตัวเราว่า เป็น คนดี
มนูญ ศรีวิรัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น