ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน " ภาวนามยปัญญา- ญาณทรรศน์ สมเด็จพระสังฆราชฯ" คติธรรมคำสอนในเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เกี่ยวกับเรื่อง "ทางให้เกิดความรู้ อันเรียกว่า ภาวนามยปัญญา" ซึ่งสามารถรับฟังได้จาก YouTube ต่อไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=QY_YCV3G4kM&nohtml5=False
แต่เก่าก่อนมา ก็ใช้ทางหูคือสดับฟัง อันเป็นทางให้เกิดปัญญา อันเรียกว่า สุตามยปัญญา มีตัวอักษรมีหนังสือ ก็ใช้หนังสือสำหรับอ่านด้วยตา และใช้มโนคือใจ สำหรับตรึกนึกคิดพิจารณา ให้เกิดความรู้ อันเรียกว่า จินตามยปัญญา และนอกจากนี้ก็ศึกษา ด้วยการปฏิบัติทดสอบประกอบกระทำทางทวารทั้ง ๓ คือ
ทางกาย ทางวาจา ทางใจ เป็นทางให้เกิดความรู้ อันเรียกว่า ภาวนามยปัญญา
คติธรรมคำสอนในเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชฯ ในเรื่องของ "ภาวนามยปัญญา" เป็นการที่ต้องกระทำผ่าน กาย วาจา ใจ ซึ่งทั้ง ๓ สิ่งดังกล่าวนั้น เราสามารถที่ปฏิบัติได้โดยต้องเริ่มที่ใจเป็นเบื้องต้น แล้วทางกาย วาจา ก็จะตามมาในที่สุด หากไม่ฝึกปฏิบัติคงจะไม่เกิดความรู้ ดังนั้น คงจะต้องเป็นหน้าที่ของแต่ละท่านที่จะได้ตรองพิจารณาดูว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะต้อง "ภาวนามยปัญญา"
และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านเพื่อได้โปรดเมตตาพิจารณาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนาแก้ไขให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป ดังนี้
แต่เก่าก่อนมีมา ภาวนามยปัญญา
ตรึกนึพิจารณา พร้อมศึกษาพาให้มี
ทุกอย่างต้องฝึกฝน ฝึกอดทนสนให้ดี
ความรู้คู่ชีวี ยิ่งจะดีมีทุกคน
ทางกายวาจาใจ ธรรมเข้าใจในกมล
ความรู้มีมากล้น สู่ทางพ้นอันตราย
ใจต้องเริ่มดีก่อน ดีทุกตอนให้มากมาย
ดีทำนำทางกาย ยิ่งไม่สายอายต้องทำ
ปฏิบัติภาวนา สิ่งมีค่าพาเห็นธรรม
ตรองดูอยู่ประจำ ลงมือทำนำเจริญ
ปัญญาพาสุขใจ นำปลอดภัยให้เพลิดเพลิน
ธรรมะอย่าหมางเมิน สรรเสริญดำเนินเอย
https://www.youtube.com/watch?v=QY_YCV3G4kM&nohtml5=False
แต่เก่าก่อนมา ก็ใช้ทางหูคือสดับฟัง อันเป็นทางให้เกิดปัญญา อันเรียกว่า สุตามยปัญญา มีตัวอักษรมีหนังสือ ก็ใช้หนังสือสำหรับอ่านด้วยตา และใช้มโนคือใจ สำหรับตรึกนึกคิดพิจารณา ให้เกิดความรู้ อันเรียกว่า จินตามยปัญญา และนอกจากนี้ก็ศึกษา ด้วยการปฏิบัติทดสอบประกอบกระทำทางทวารทั้ง ๓ คือ
ทางกาย ทางวาจา ทางใจ เป็นทางให้เกิดความรู้ อันเรียกว่า ภาวนามยปัญญา
คติธรรมคำสอนในเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชฯ ในเรื่องของ "ภาวนามยปัญญา" เป็นการที่ต้องกระทำผ่าน กาย วาจา ใจ ซึ่งทั้ง ๓ สิ่งดังกล่าวนั้น เราสามารถที่ปฏิบัติได้โดยต้องเริ่มที่ใจเป็นเบื้องต้น แล้วทางกาย วาจา ก็จะตามมาในที่สุด หากไม่ฝึกปฏิบัติคงจะไม่เกิดความรู้ ดังนั้น คงจะต้องเป็นหน้าที่ของแต่ละท่านที่จะได้ตรองพิจารณาดูว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะต้อง "ภาวนามยปัญญา"
และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านเพื่อได้โปรดเมตตาพิจารณาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนาแก้ไขให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป ดังนี้
แต่เก่าก่อนมีมา ภาวนามยปัญญา
ตรึกนึพิจารณา พร้อมศึกษาพาให้มี
ทุกอย่างต้องฝึกฝน ฝึกอดทนสนให้ดี
ความรู้คู่ชีวี ยิ่งจะดีมีทุกคน
ทางกายวาจาใจ ธรรมเข้าใจในกมล
ความรู้มีมากล้น สู่ทางพ้นอันตราย
ใจต้องเริ่มดีก่อน ดีทุกตอนให้มากมาย
ดีทำนำทางกาย ยิ่งไม่สายอายต้องทำ
ปฏิบัติภาวนา สิ่งมีค่าพาเห็นธรรม
ตรองดูอยู่ประจำ ลงมือทำนำเจริญ
ปัญญาพาสุขใจ นำปลอดภัยให้เพลิดเพลิน
ธรรมะอย่าหมางเมิน สรรเสริญดำเนินเอย
ปภาวีร์
๖ กันยายน ๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น