เดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆ ปีเป็นเดือนแห่งความรัก และสัปดาห์นี้จะเริ่มต้นเข้าสู่สัปดาห์แห่งความรัก สำหรับปี พ.ศ.๒๕๕๔ วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ เป็นวัน Valentine ที่ผู้คนส่วนมากโดยเฉพาะวัยรุ่นรู้จักกันดี
สำหรับความรักผู้เขียนคิดว่าเราทุกท่านก็รู้จักกันดีเป็นอย่างมาก ความรักที่มีต่อคุณพ่อคุณแม่ในฐานะของลูก ก็อยากจะให้ท่านมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ส่วนผู้ที่เป็นพ่อแม่ก็มอบความรักให้กับลูกในทุกอย่างที่จะทำได้ทั้งความเป็นห่วง ความกังวล ความอะไรต่างๆ มากมายที่พ่อแม่จะมอบให้ และสิ่งหนึ่งที่คนเป็นพ่อและแม่ต้องการจะมอบให้ คือ ต้องการมอบความรักให้ลูกเพื่อให้ลูกเป็นคนดีเจริญเติบโต มีอาชีพการงานหน้าที่ที่ดีมั่นคง กล่าวได้ว่าความรักของพ่อแม่ คือ ความรักที่มีแต่ให้ และจะให้ไปตลอดชีวิตของท่าน
ความรักนั้นมีหลายประเภท ผู้เขียนเองก็ไม่ได้เป็นผู้ที่สันทัดหรือเชี่ยวชาญสักเท่าไร แต่ผู้เขียนเชื่อว่าเราทุกคนที่เกิดมานั้นล้วนประสบพบรักในหลายรูปแบบ บางท่านก็มีความรักตั้งแต่เด็กๆ ที่เรียนกว่า ความรักเด็กๆ เติบโตขึ้นมาก็พบกับความรักอีกแบบที่เป็นแบบวัยรุ่นในวัยเรียนทั้งระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย และเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทำงานก็เป็นความรักอีกแบบหนึ่ง
อย่างไรก็ดี เมื่อมีรัก มีความรักเกิดขึ้น ก็ย่อมมีอีกสิ่งหนึ่งที่คู่กันเสมอ นั้นคือ ความผิดหวัง ความไม่สมหวัง ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์ตามมาในที่สุด ผู้เขียนเชื่อว่าเราทุกคนไม่อยากจะเกิดความผิดหวังความทุกข์กันหรอก เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วมันไม่มีความสุขเลย จิตใจก็เฝ้าคิดเฝ้าคอยย้อนกลับถึงอดีตที่ผ่านมาว่า “ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้” บางคนก็โทษสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ยิ่งทำให้เกิดทุกข์เกิดกรรมต่อกันเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น
ความรักเป็นสิ่งที่ดี ที่เราสามารถมอบให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างของเราได้ ความรักง่ายๆ คือ ต้องการเห็นคนอื่นๆ (เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเรียน เพื่อน หรือ เจ้านาย ลูกน้อง) มีความสุข ต้องการให้คนอื่นๆ ได้รับแต่ความสุข กล่าวง่ายๆ คือ หากว่าเราคิดดีแล้ว ย่อมจะเกิดความรักขึ้นมาได้ง่ายเช่นกัน อีกประการหนึ่ง คือ ความรักที่มีต่อสถาบัน ซึ่งสถาบันในที่นี้ คือ ครอบครัว โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ที่ทำงาน จังหวัด และประเทศชาติของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ของเราที่เราทุกคนชาวไทยให้ความรักเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
ความรักที่อาจจะเป็นทุกข์ ผู้เขียนคิดว่าความรักที่ต้องการเป็นเจ้าของ เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราต้องการอะไรและต้องการเป็นเจ้าของให้ได้ ก็จะเกิดกิเลสความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขอเสนอว่าหากเราทุกคนลองประยุกต์เรื่องของความรัก ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราฯ ที่ว่า (๑) การมีเหตุผล (มีเหตุผลในความรักที่เกิดขึ้น) (๒) การมีความพอประมาณ (มีความพอประมาณในความรักไม่มากไปไม่น้อยไป) และ (๓) การมีความภูมิคุ้มกัน (ทำความเข้าใจร่วมกันในความรักที่เกิดขึ้น เพื่อให้เป็นความรักที่ยั่งยืนร่วมกัน) ภายใต้หลักของความซื่อสัตย์และมีคุณธรรม ซึ่งผู้เขียนคิดว่า หากเราทุกคนเลือกที่รักอะไรก็ตามแต่ หากได้ลองใช้หลักข้างต้นดูก็น่าจะเกิดประโยชน์และความสุขในความรักนะครับ
ดังนั้น ในโอกาสที่เป็นเดือนแห่งความรัก ผู้เขียนก็ขออวยพรให้ทุกคนได้ประสบพบรักตามหลักข้างต้น และเมื่อเรารักใครแล้วก็ขอให้รักอย่างมีความสุขนะครับ และหากจะลองฟังเพลงนี้ ก็จะมีความสุขเช่นกัน "ความรักเจ้าเอย"
มนูญ ศรีวิรัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น