เรื่องของ "ข้อเท้า" เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำคัญคนเรา สำหรับผมเองมีปัญหาเรื่อง "ข้อเท้าซ้าย" มาหลายสิบปีแล้ว เพราะเนื่องจากเมื่อตอนสมัยเด็กๆ (ชั้นประถมศึกษา) เล่นฟุตบอลก็ใช้เท้าซ้ายนี่แหละ (เนื่องจากเป็นคนที่ถนัดซ้าย หมายถึง เล่นกีฬา ใช้กำลัง ใช้เท้าซ้าย แขนซ้าย แต่ สองอย่างที่ใช้ขวา คือ รับประทานอาหารและเขียนหนังสือ) พอมามัธยมศึกษาก็เริ่มเล่นบาสเกตบอล ซึ่งก็ต้องใช้ข้อเท้าเป็นส่วนมากในการวิ่งและกระโดด จนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายก็เล่นให้ทีมบาสเกตบอลโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย และเล่นเป็นตัวแทนทีมบาสเกตบอลเยาวชนจังหวัดร้อยเอ็ด พอมาถึงระดับอุดมศึกษาก็มีโอกาสได้เล่นบาสเกตบอลให้ทีมมหาวิทยาลัยขอนแก่น (พ.ศ.๒๕๒๘-๒๕๓๑)
ที่นี้ ขอกลับมาที่เรื่อง "ข้อเท้า" (ยังไม่ถึง "ข้อกรรม" นะครับ) จำได้ว่าในช่วง พ.ศ.๒๕๒๙ ทีมมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ลงเล่นกับทีมจังหวัดอุดรธานี ณ โรงยิมมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผมก็ได้มีโอกาสลงเล่น แต่ว่าผมเกิดโชคร้ายข้อเท้าพลิกอย่างรุนแรง แต่ไม่ถึงกับเอ็นฉีกหรือขาด หรือแตกหัก เข้าใจว่าตอนนั้นรักษาธรรมดาก็หาย ในที่สุดก็ใช้เวลาในการรักษาดูแลข้อเท้าอยู่เป็นเวลาพักหนึ่ง ข้อเท้าก็กลับมาเป็นปกติ (อาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะเนื่องจากเวลาเล่นกีฬาก็มีความรู้สึกว่าจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น) ผมก็ยังเล่นกีฬาเหมือนเดิมแต่อาจจะไม่ดีเหมือนเดิม
เวลาล่วงเลยมาหลายสิบปี จนอายุมากยิ่งขึ้น "ข้อเท้า" ของผมจำเป็นจะต้องใช้อยู่เป็นประจำทั้งเดินทั้งวิ่ง (แต่วิ่งนี่ ไม่ค่อยจะได้วิ่งสักเท่าไรนัก) เกิดมีปัญหามีความรู้สึกว่า "ข้อเท้า" มันมีเสียงดังเวลาหมุนข้อเท้าและจะปวดส้นเท้าอยู่เป็นประจำ สรุปง่ายๆ ว่า "ข้อเท้ามีปัญหา" ต้องคอยดูแลเป็นอย่างดี ก่อนนอนจะต้องคลายข้อเท้า (เส้นเอ็น) ตอนเช้าตื่นนอนก็ต้องหมุนข้อเท้าให้เข้าที่เพื่อจะไม่ให้มีปัญหาส่งผลต่อเส้นเอ็นไปถึงหัวเข่า เอว และซีกซ้ายทั้งหมด (ซึ่งจริงๆ ปัญหาของเส้นเอ็นต่างๆ ของร่างกายมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันไปทั้งหมด ดังนั้น จะต้องดูแลเรื่องของเส้นเอ็นข้อต่างๆ ให้ดีๆ ครับ)
เป็นอันว่าเรื่องของข้อเท้าคงจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ และคงจะแย่ลงไปตามระยะเวลาสังขารของเราอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้เพราะทุกอย่างไม่เที่ยงเกิดมาแล้วย่อมดับไปในที่สุด ซึ่งอีกอย่างหนึ่งน่าจะเป็นเพราะกรรมที่ตัวเราอาจจะทำเรื่องข้อเท้าไว้ในอดีตหรือชาติก่อน จึงนำมาสู่ที่เรียกว่า "ข้อกรรม" หรือผมเคยไปกระทำข้อเท้าของใครไว้ เจ้ากรรมนายเวร (ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ตามแต่) เขาจึงยังไม่อโหสิกรรมอภัยให้ ก็ได้แต่หวังว่า "ข้อเท้า" "ข้อกรรม" ดังกล่าวจะดีขึ้นในสักวัน เพราะผมเชื่อว่าบางครั้งบางเรื่องที่เกิดกับตัวเราแล้วไม่หายสักทีคงจะเป็นเรื่องของกรรมเก่าที่เราได้กระทำไว้ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ)
สุดท้ายนี้ หากท่านใดที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพก็ขอให้ท่านหายไวๆ ทำจิตใจให้ผ่องใส่มีความสุขทำบุญกุศลแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ "ให้อโสสิกรรม อภัยต่อกันและกัน" แล้วทุกอย่างจะเกิดสุขอย่างยั่งยืน ครับ
มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๑๙ เมษายน ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น