Nuffnang Ads

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

ความกดดัน

เมื่อปีที่ผ่านมาผู้เขียนได้เขียนเกี่ยวกับเรื่อง "กด กลด แล้วก็ กฎ " (อ่านได้ที่นี้) แต่สำหรับวันนี้มีอยากจะเขียนเกี่ยวกับ "ความกดดัน" เพราะมีความรู้สึกว่าถูกกดดันเหลือเกิน ที่ถูกกดดันเพราะมีพลังจากภายนอกที่มีกำลังมากมายกว่าพลังที่เรามีอยู่ เราก็เลยมีความรู้สึกว่า "ถูกกดดัน"

นอกจากนั้น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (วันเสาร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๔) ได้อ่านบทความบทความหนึ่งในมติชนสุดสัปดาห์ มีผู้กล่าวว่า "หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเรา เราจะทำอะไรทำอย่างไร เราจะต้องทำสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิต" คำพูดดังกล่าวที่ทำให้ผู้เขียนมีความรู้สึกว่า "ความกดดัน" นั้น มันไม่มีค่าเอาเสียเลย ไม่มีพลังเอาเสียเลย ไม่มีแรงกำลังเอาเสียเลย ความกดดันใดๆ ก็ตามแต่ หากเข้ามาหาตัวเราเมื่อไร เราก็มักจะเกิดความทุกข์ร้อนทั้งกายทั้งใจ และมักจะนำไปสู่การที่ทำให้ตัวเราร้อนลุ่มทั้งภายในและภายนอก

อย่างไรก็ดี หากว่าเราลองคิดใหม่ว่า "หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเรา แล้วเราจะต้องมั่วไปทุกข์ร้อนกับความกดดันนั้นทำไมกัน" "เรามาคิดลองทำในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขที่สุดในชีวิต ทำอะไรที่เราอยากจะทำที่สุดเกิดความสุขในการทำที่สุดไม่ดีกว่าหรือ"

ก่อนที่กล่าวถึงความกดดัน ผู้เขียนขออนุญาตกล่าวถึงสิ่งที่มีอยู่ร่างกายมนุษย์ของเราซึ่งมีธาตุทั้ง ๔ ในร่างกาย คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อไรก็ตามที่ตัวเรามีธาตุดินที่ไร้ประโยชน์จำนวนมากเกินไป ซึ่งธาตุดินอันนี้เกิดจากการที่เรารับประทานอาหารที่เกินความต้องการของร่างกาย (เช่น แป้ง ไขมัน) ธาตุดินดังกล่าวก็จะไปสะสมในอวัยวะต่างๆ ของร่างกายของเรา เมื่อเป็นอย่างนั้น อาจจะทำให้น้ำในร่างกายของเราเสียความสมดุล (ธาตุน้ำ เลือด น้ำที่หล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ เสียสมดุล) และส่งผลต่อระบบลมที่อยู่ในร่างกายของเรา ลมที่ว่าคือ ระบบการหายใจ (ธาตุลม) และหากระบบสมดุลของน้ำในร่างกาย ระบบลมในร่างกายเสียสมดุลไปแล้ว แน่นอนย่อมจะมีผลต่อธาตุไฟในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ เกิดความโกรธ เกิดความทุกข์ และในที่สุด เกิดสภาวะที่เรียกว่า "ความกดดัน" ในจิตใจ

จะเห็นว่า "ความกดดัน" อาจจะเกิดจากความเสียสมดุลของธาตทั้ง ๔ ในร่างกายของตัวเรา อย่างไรก็ตาม "ความกดดัน" อาจจะสามารถเกิดจากสาเหตุอื่นอีกที่ตัวเรารับรู้ได้จากทวารทั้ง ๖ คือ หู ตา ลิ้น จมูก กาย (ผิวหนัง) และใจ ตัวอย่างเช่น ในที่ทำงานเรามักจะได้ยินเสียงดุด่าจากผู้บังคับบัญชาเป็นประจำ (และที่สำคัญ คือ เสียงดังเอามากๆ) หรือ ในสถานที่บางแห่งมีกลิ่นเหม็นของปฏิกูลต่างๆ มาก เป็นต้น

"ความกดดัน" ทำให้ความทุกข์จะทุกข์น้อยทุกข์มากก็แล้วแต่แรงดันที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากว่าเราปล่อยว่างไม่สนใจความกดดันดังกล่าวที่เกิดขึ้น จะทำให้เราไม่เกิดความทุกข์ ตรงกันข้ามตัวเราอาจจะเกิดความสุขด้วยซ้ำ หากใครมากดดันเราเขาคนนั้นยิ่งจะเหมือนถูกกดดันมากกว่าตัวเราหลายร้อยเท่า เพราะในจิตใจของเขามีแต่จะคิดว่าทำอย่างไรจะให้เราเป็นผู้แพ้ ให้เราเป็นผู้ที่ได้รับความสูญเสีย ให้เราเป็นผู้ที่เป็นทุกข์

ดังนั้น ความกดดัน ใครจะกด ใครจะดัน ก็ชั่งหัวมัน (ท่านใดอยากจะทราบเกี่ยวกับเรื่อง "ชั่งหัวมัน" เชิญ Click ที่นี่)
ไม่ต้องไปสนใจ ปล่อยวาง และปล่อยว่าง ด้วย ก็น่าจะดี ผู้เขียนเองก็มีแต่เขียนมั่วแต่พูด ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน แต่เราก็จะต้องเรียนรู้จะต้องฝึกปฏิบัติให้ได้นะครับ ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่เราได้มาโดยง่ายๆ แม้กระทั่งเกิดเป็นคน ก็ใช่ว่าจะเกิดกันง่ายๆ จะต้องทำบุญกุศลกี่ชาติที่ผ่านมาก็ไม่รู้ ทำชั่วทำกรรมชั่วเมื่อไรรับรองได้ว่าอาจจะไม่ได้เกิดเป็นคนอีกหรอกครับท่าน (อย่ากดดันกันเลย)

ครับ สุดท้ายนี้ หากเมื่อไรถูกกดดัน ก็อย่าไปกดดันคนอื่นเขาต่อนะครับ เพราะเดี๋ยวความกดดันมันจะกลับมาดันเราในทุกๆ ด้าน ทุกๆ เรื่อง ทุกๆ เวลา แล้วเมื่อนั้นท่านจะไม่มีแรงดันในร่างกาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น