เมื่อปีที่ผ่านมาผู้เขียนได้เขียนเกี่ยวกับเรื่อง "กด กลด แล้วก็ กฎ " (อ่านได้ที่นี้) แต่สำหรับวันนี้มีอยากจะเขียนเกี่ยวกับ "ความกดดัน" เพราะมีความรู้สึกว่าถูกกดดันเหลือเกิน ที่ถูกกดดันเพราะมีพลังจากภายนอกที่มีกำลังมากมายกว่าพลังที่เรามีอยู่ เราก็เลยมีความรู้สึกว่า "ถูกกดดัน"
นอกจากนั้น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (วันเสาร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๔) ได้อ่านบทความบทความหนึ่งในมติชนสุดสัปดาห์ มีผู้กล่าวว่า "หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเรา เราจะทำอะไรทำอย่างไร เราจะต้องทำสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิต" คำพูดดังกล่าวที่ทำให้ผู้เขียนมีความรู้สึกว่า "ความกดดัน" นั้น มันไม่มีค่าเอาเสียเลย ไม่มีพลังเอาเสียเลย ไม่มีแรงกำลังเอาเสียเลย ความกดดันใดๆ ก็ตามแต่ หากเข้ามาหาตัวเราเมื่อไร เราก็มักจะเกิดความทุกข์ร้อนทั้งกายทั้งใจ และมักจะนำไปสู่การที่ทำให้ตัวเราร้อนลุ่มทั้งภายในและภายนอก
อย่างไรก็ดี หากว่าเราลองคิดใหม่ว่า "หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเรา แล้วเราจะต้องมั่วไปทุกข์ร้อนกับความกดดันนั้นทำไมกัน" "เรามาคิดลองทำในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขที่สุดในชีวิต ทำอะไรที่เราอยากจะทำที่สุดเกิดความสุขในการทำที่สุดไม่ดีกว่าหรือ"
ก่อนที่กล่าวถึงความกดดัน ผู้เขียนขออนุญาตกล่าวถึงสิ่งที่มีอยู่ร่างกายมนุษย์ของเราซึ่งมีธาตุทั้ง ๔ ในร่างกาย คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อไรก็ตามที่ตัวเรามีธาตุดินที่ไร้ประโยชน์จำนวนมากเกินไป ซึ่งธาตุดินอันนี้เกิดจากการที่เรารับประทานอาหารที่เกินความต้องการของร่างกาย (เช่น แป้ง ไขมัน) ธาตุดินดังกล่าวก็จะไปสะสมในอวัยวะต่างๆ ของร่างกายของเรา เมื่อเป็นอย่างนั้น อาจจะทำให้น้ำในร่างกายของเราเสียความสมดุล (ธาตุน้ำ เลือด น้ำที่หล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ เสียสมดุล) และส่งผลต่อระบบลมที่อยู่ในร่างกายของเรา ลมที่ว่าคือ ระบบการหายใจ (ธาตุลม) และหากระบบสมดุลของน้ำในร่างกาย ระบบลมในร่างกายเสียสมดุลไปแล้ว แน่นอนย่อมจะมีผลต่อธาตุไฟในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ เกิดความโกรธ เกิดความทุกข์ และในที่สุด เกิดสภาวะที่เรียกว่า "ความกดดัน" ในจิตใจ
นอกจากนั้น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (วันเสาร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๔) ได้อ่านบทความบทความหนึ่งในมติชนสุดสัปดาห์ มีผู้กล่าวว่า "หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเรา เราจะทำอะไรทำอย่างไร เราจะต้องทำสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิต" คำพูดดังกล่าวที่ทำให้ผู้เขียนมีความรู้สึกว่า "ความกดดัน" นั้น มันไม่มีค่าเอาเสียเลย ไม่มีพลังเอาเสียเลย ไม่มีแรงกำลังเอาเสียเลย ความกดดันใดๆ ก็ตามแต่ หากเข้ามาหาตัวเราเมื่อไร เราก็มักจะเกิดความทุกข์ร้อนทั้งกายทั้งใจ และมักจะนำไปสู่การที่ทำให้ตัวเราร้อนลุ่มทั้งภายในและภายนอก
อย่างไรก็ดี หากว่าเราลองคิดใหม่ว่า "หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเรา แล้วเราจะต้องมั่วไปทุกข์ร้อนกับความกดดันนั้นทำไมกัน" "เรามาคิดลองทำในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขที่สุดในชีวิต ทำอะไรที่เราอยากจะทำที่สุดเกิดความสุขในการทำที่สุดไม่ดีกว่าหรือ"
ก่อนที่กล่าวถึงความกดดัน ผู้เขียนขออนุญาตกล่าวถึงสิ่งที่มีอยู่ร่างกายมนุษย์ของเราซึ่งมีธาตุทั้ง ๔ ในร่างกาย คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อไรก็ตามที่ตัวเรามีธาตุดินที่ไร้ประโยชน์จำนวนมากเกินไป ซึ่งธาตุดินอันนี้เกิดจากการที่เรารับประทานอาหารที่เกินความต้องการของร่างกาย (เช่น แป้ง ไขมัน) ธาตุดินดังกล่าวก็จะไปสะสมในอวัยวะต่างๆ ของร่างกายของเรา เมื่อเป็นอย่างนั้น อาจจะทำให้น้ำในร่างกายของเราเสียความสมดุล (ธาตุน้ำ เลือด น้ำที่หล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ เสียสมดุล) และส่งผลต่อระบบลมที่อยู่ในร่างกายของเรา ลมที่ว่าคือ ระบบการหายใจ (ธาตุลม) และหากระบบสมดุลของน้ำในร่างกาย ระบบลมในร่างกายเสียสมดุลไปแล้ว แน่นอนย่อมจะมีผลต่อธาตุไฟในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ เกิดความโกรธ เกิดความทุกข์ และในที่สุด เกิดสภาวะที่เรียกว่า "ความกดดัน" ในจิตใจ
จะเห็นว่า "ความกดดัน" อาจจะเกิดจากความเสียสมดุลของธาตทั้ง ๔ ในร่างกายของตัวเรา อย่างไรก็ตาม "ความกดดัน" อาจจะสามารถเกิดจากสาเหตุอื่นอีกที่ตัวเรารับรู้ได้จากทวารทั้ง ๖ คือ หู ตา ลิ้น จมูก กาย (ผิวหนัง) และใจ ตัวอย่างเช่น ในที่ทำงานเรามักจะได้ยินเสียงดุด่าจากผู้บังคับบัญชาเป็นประจำ (และที่สำคัญ คือ เสียงดังเอามากๆ) หรือ ในสถานที่บางแห่งมีกลิ่นเหม็นของปฏิกูลต่างๆ มาก เป็นต้น
"ความกดดัน" ทำให้ความทุกข์จะทุกข์น้อยทุกข์มากก็แล้วแต่แรงดันที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากว่าเราปล่อยว่างไม่สนใจความกดดันดังกล่าวที่เกิดขึ้น จะทำให้เราไม่เกิดความทุกข์ ตรงกันข้ามตัวเราอาจจะเกิดความสุขด้วยซ้ำ หากใครมากดดันเราเขาคนนั้นยิ่งจะเหมือนถูกกดดันมากกว่าตัวเราหลายร้อยเท่า เพราะในจิตใจของเขามีแต่จะคิดว่าทำอย่างไรจะให้เราเป็นผู้แพ้ ให้เราเป็นผู้ที่ได้รับความสูญเสีย ให้เราเป็นผู้ที่เป็นทุกข์
ดังนั้น ความกดดัน ใครจะกด ใครจะดัน ก็ชั่งหัวมัน (ท่านใดอยากจะทราบเกี่ยวกับเรื่อง "ชั่งหัวมัน" เชิญ Click ที่นี่)
ไม่ต้องไปสนใจ ปล่อยวาง และปล่อยว่าง ด้วย ก็น่าจะดี ผู้เขียนเองก็มีแต่เขียนมั่วแต่พูด ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน แต่เราก็จะต้องเรียนรู้จะต้องฝึกปฏิบัติให้ได้นะครับ ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่เราได้มาโดยง่ายๆ แม้กระทั่งเกิดเป็นคน ก็ใช่ว่าจะเกิดกันง่ายๆ จะต้องทำบุญกุศลกี่ชาติที่ผ่านมาก็ไม่รู้ ทำชั่วทำกรรมชั่วเมื่อไรรับรองได้ว่าอาจจะไม่ได้เกิดเป็นคนอีกหรอกครับท่าน (อย่ากดดันกันเลย)
ครับ สุดท้ายนี้ หากเมื่อไรถูกกดดัน ก็อย่าไปกดดันคนอื่นเขาต่อนะครับ เพราะเดี๋ยวความกดดันมันจะกลับมาดันเราในทุกๆ ด้าน ทุกๆ เรื่อง ทุกๆ เวลา แล้วเมื่อนั้นท่านจะไม่มีแรงดันในร่างกาย
ครับ สุดท้ายนี้ หากเมื่อไรถูกกดดัน ก็อย่าไปกดดันคนอื่นเขาต่อนะครับ เพราะเดี๋ยวความกดดันมันจะกลับมาดันเราในทุกๆ ด้าน ทุกๆ เรื่อง ทุกๆ เวลา แล้วเมื่อนั้นท่านจะไม่มีแรงดันในร่างกาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น