Nuffnang Ads

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

คนเกินร้อย หัวใจก็เกินร้อย (เรื่องสั้น เรื่องจริง)

วันนี้ เวลา ตี 4.30 ของวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 ซึ่งเป็นวันดีที่ทุกอย่างเป็นมงคล จะต้องรีบกลับอุบลราชธานี ดังนั้น หลังจากจ่ายค่าพี่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นรถแท็กซี่ที่โรงแรมเอเชีย ได้รถหมายเลขทะเบียน ทลT 4167 คนขับเขาบอกให้ระมัดระวังเรื่องคอมพิวเตอร์ Notebook เวลาลงจากแท็กซื่อาจจะลืม เขาก็บอกว่าครั้งต่อไปควรจะใช้กระเป๋าขนาดเล็กๆ แล้วสะพายเอาเพื่อจะได้ไม่ลืม ถ้าลืมแล้วบางครั้งแท็กซี่ก็ไม่ทราบมีผู้โดยสารขึ้นมานั่งต่ออาจจะหยิบเอาไปต่อก็ได้ จะมาโทษแท็กซี่ก็ไม่ได้ เราก็รู้สึกว่า คนขับคนนี้เป็นคนดี เราก็เลยคุยกับเขาเรื่อง "ความเป็นอยู่การประกอบอาชีพในปัจจุบัน" "รายได้จากการขับรถเพียงพอหรือไม่"

เขาก็เล่าให้ฟังว่า เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เพราะผู้โดยสารต่างประเทศน้อยลง ซึ่งโดยปกติเขาจะประจำที่โรงแรมเอเชีย แต่ก่อนก็ได้เหมาไปต่างจังหวัดพัทยา ตลาดน้ำ หรือที่อื่นๆ บ้าง ซึ่งการไปแบบนั้นสบายเนื่องจากไม่ต้องมาทุกข์ร้อนทุกข์ใจว่าวันนี้จะได้ผู้โดยสารหรือไม่ เหมาไปกลับ หรือเหมาไปอย่างเดียวก็เพียงพอสำหรับค่าเช่ารถและค่าใช้จ่ายประจำวัน แต่ปัจจุบันสภาวะเปลี่ยนไป และในปัจจุบันคนขับแท็กซี่ก็ยังเล่าให้ฟังต่อว่าได้กู้เงินโครงการเงินกู้ (กองทุนหมู่บ้าน สมัยนายกทักษิณ) เขาบอกก็ดีเพราะกู้มา 15000 บาท เพื่อลงทุนกับภรรยา และก็ใช้ดอกเบี้ย และเขาก็ให้ข้อมูลต่อไปว่า โครงการนี้ดี คือ เงินไม่หายไปไหน หมู่บ้านก็ได้ดอกเบี้ย เงินต้นยังคงอยู่ เขาก็บอกว่าสมัยนี้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก สภาพแวดล้อมไม่ดี การขายยาบ้า ยาเสพติดมากขึ้น ตัวเขาเองสมัยแต่ก่อนก็ติดเหล้าเหมือนกันเขาเล่าให่้ฟังว่า หนีออกจากบ้านตั้งแต่ ป.2 มาทำงานที่กรุงเทพฯ รับจ้างล้างรถแท็กซี่ ได้วันละไม่กี่บาท สมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เก็บออมสินส่งให้ทางบ้านได้เดือนละหลายร้อยบาท หลังจากนั้นโตขึ้นมา ก็ทำงานรับจ้างที่โรงพิมพ์ จนได้ภรรยา อายุเขาตอนนั้นประมาณ 17 ปี ในที่สุดก็ขอให้แม่ที่อยู่ต่างจังหวัดช่วยขายทองให้เพื่อมาค้ำประกันในการขับแท็กซี่ แต่ก็โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ เงินก็หาย แต่โชคดีคนไม่เป็นไร เขาก็ต้องสู้ต่อไป ต่อมาเขาขอให้ย่าทวดขายควายให้เพื่อมาค้ำขับรถตุ๊กๆ อีกครั้ง และขับรถแท็กซี่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ชีวิตตอนนี้ แต่ละวันก็วิ่งตั้งแต่บ่ายถึงเย็นก็ได้เงินพอสมควร วิ่งช่วงกลางคืนก็ได้เงินพอสมควร แต่ เขาก็ใช้ชีวิตไม่คุ้มค่า เพราะเคยติดเหล้า เงินหามาได้ก็กินเหล้า ขับรถได้เงินก็กินเหล้า เป็นอยู่นานหลายปี จนในทีสุดคิดได้เพราะภรรยายื่่นคำขาดให้ และเขาก็ผ่านจุดนั้นมาได้ วิธีการของเขา คือ เวลาช่วงบ่ายจะกระวนกระวายอยากกินเหล้ารู้สึกไม่สดชื่น เขาก็ใช้วิธีกินข้าวแทนให้อิ่มๆ หลังจากนั้น เพื่อนๆ ชวนกินเหล้าร่างกายก็สามารถปรับได้ว่าไม่อยากจะกิน และใจเขาก็รู้สึกว่าไม่อยากจะกินเหล้าแล้ว หมดเพราะมันมามากพอแล้ว สุดท้ายเขาเลิกได้ ชีวิตดีขึ้นมา ภรรยาอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้ามีความสุข ลูกๆ มีความสุข ปัจจุบันลูกคนโต อายุ 18 ปี (จบเพียง ม. 3) ทำงานที่หาดใหญ่ส่งเงินให้น้องๆ ได้เรียนหนังสือ เป็นตัวอย่างที่ดีมากเลย มีน้องอีก 2 คน พ่อเลิกเหล้า ขับแท็กซี่ ชีวิตมีความสุข เพราะเลิกเหล้าได้ ตัดใจได้ แต่สิ่งอื่นใดที่เขาได้บอกไว้ว่า ชีวิตคนเราจะต้องไม่ลืมพระคุณของพ่อแม่ เขาเก็บเงินสร้างบ้านให้พ่อแม่ให้ตัวเองไว้ที่ต่างจังหวัดได้เรียบร้อย อย่างที่หวังตั้งใจไว้ มีความสุขกันทุกคน ถึงแม้่ว่าจะเป็นบ้านที่ไม่ใหญ่โตแต่ก็ตามฐานะสภาพของตัวเขาเอง แต่เขาภูมิใจที่เขาทำได้ ทุกครั้งที่เขารู้สึกท้อแท้ เขาจะดูที่เขาที่ฐานะไม่ดีเท่ากับคนที่ด้อยโอกาสกว่าเขา คนด้อยโอกาสเขายังต่อสู้ได้ เขายังหากินได้ เขายังมีครอบครัวที่มีความสุขได้ เขาต้องสู้ และเขาบอกตัวเองเสมอว่า ถึงแม้จะจบเพียง ป.2 แต่หัวใจสู้เต็มร้อย ขณะที่เขาเล่านั้น เขาก็เอามือมาเช็คที่หน้าและดวงตาของเขา ซึ่งทำให้เราที่นั่งฟังอยู่หน้าหลังรู้สึกถึงความในใจ ความภูมิใจ ความมีความสุขของเขา และก็รู้สึกกับเขาว่า เขาคนนี้เป็นคนสู้ชีวิตตัวจริง เป็นตัวอย่างหนึ่ง ของคนอีสานบ้านเรา

ที่นั่งฟังเขามานั้นจากโรงแรมเอเชียมาที่สนามบินสุวรรณภูมิใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่รู้สึกว่าเราได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเขาคนนั้น เขาได้ให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์อย่างมากของลูกผู้ชายที่ไม่มีโอกาสทางการศึกษา แล้วมาใช้ชีวิตในกรุง ที่ไม่รู้จะไปรอดหรือไม่ แต่เขาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างสร้างและผ่านมาด้วยจิตใจที่ต้องสู้และเข็มแข็ง เราขอสดุดีให้เขาคนนั้น คนขับรถ ทลT 4167 ก่อนจะลงจากรถ ถามเขาว่าเป็นคนที่ไหน เขาบอกว่า เป็นคนร้อยเอ็ด ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า นี้่แหละ ตัวจริงเสียงจริงของคนเกินร้อย คนเมืองร้อยเอ็ด เพราะ เราก็คนเมืองเกินร้อยเหมือนกัน

มนูญ ศรีวิรัตน์
บันทึกเรืองราวเรื่องสั้น วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เพื่อถ่่ายทอดให้คนอื่นๆ ได้รับฟัง ได้อ่าน ต่อไป ขอบคุณมากสำหรับวันที่ดีๆ วันนี้

22 ความคิดเห็น:

  1. ชอบคับ คนสู้ชีวิต ขอบคุณเนื้อหาดีๆๆๆนะคร้าบบบ

    ตอบลบ
  2. อิอิ


    จารย์ขา


    ไมไม่เอาเรื่องที่สอนวันนี้ลงให้อ่านด้วยอ่ะคร้า



    อิอิ


    จะได้จำได้อ่ะว่าจะต้องเขียนไรลงไปบ้าง

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณ เนื้อหาดีๆ ประสบการณ์ สู้ชีวิตจริงๆ อ่านแล้วไม่ท้อ จะได้เป็นกำลัง ใจในการต่อสู้ชีวิต ให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่ การงาน
    ต่อไป ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  4. อ่านแล้วได้มุมมองอีกแบบหนึ่งเลยคะ อาจารย์ก็ เล่าให้ฟังในชั้นเรียนแล้วด้วย และที่อ่านเองรู้สึกว่าตัวหนูเองก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตของตัวเองใหม่แล้วคะ จะตั้งสติตัวเอง อีกอย่างเป้าหมายที่วางแผนในอนาคตของตัวเองยังไม่มี จะต้องปรับปรุง ต้องวางแผนการใช้ชีวิตตัวเองแล้วคะ เดี๋ยวเรียนไม่จบ ถ้าจบไปก็ยังตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่าจะทำอะไร นี่คือปัญหาที่หนูต้องหาทางแก้ไขโดยด่วน ขอบคุณคะที่ท่านอาจารย์ได้กรุณาให้ความรุ้ ให้ประสบการณ์ดีๆ และหนูจะเอาเป็นแบบอย่างคะ จากที่เคยได้ยินมา "การเป็นแบบอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน" หนูจะเอาแบบอย่างที่ท่านอาจารย์ได้เล่าในชั้นเรียนและทุกๆครั้งนั้นไว้เป็นคำสอน และบางครั้งบางทีคุณค่าบางอย่างมันตีเป็นราคาไม่ได้ ซึ่งหนูจะจดจำความรู้อันมีประโยชน์ไว้ให้ดีคะ และจากที่ท่านอาจารย์เป็นแบบอย่างที่ดีคือ มาตรงเวลา หนูเองก็พยายามที่จะทำตาม เพื่อกำลังเตรียมพร้อมสำหรับที่จะเติบโตต่อไปแล้วคะ

    ตอบลบ
  5. ตัวอย่างที่ดี ..... ครอบครัวสุขสันต์ ....


    น่ารักมากเรยค่ะ.....

    ย้อนกลับดู ครอบครัวเรา>>>น่ารักเหมือนกันเรย

    ตอบลบ
  6. เป็นแบบอย่างที่ดีค่ะ สำหรับคนที่ชอบดื่มเหล้า

    ตอบลบ
  7. สุดยอดไปเลยนะคะ คนเกินร้อย (101) หัวใจเกินร้อย

    เป็นตัวอย่างที่ดีสุด ๆๆๆ ไปเลย (เราจะทำได้อย่างนี้บ้างเปล่าน้อ)

    แต่จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับพี่เค้าเสมอ

    สาระน่าคิดมากกกเลยค่ะ

    ตอบลบ
  8. ขอขอบ พระคุณสำหรับบทความดีของคนสู้ชีวิตครับอาจารย์

    ตอบลบ
  9. คนดี อยู่ที่ไหนก็มีประโยชน์

    คนสู้ชีวิต อยู่ที่ไหนก็ไม่ลำบาก

    ตอบลบ
  10. ชอบครับ อ่านแล้ว ซึ้ง >.<

    ตอบลบ
  11. สิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ ถ้าคิดจะ(ลงมือ)ทำ

    รู้สึกดีจัง>.<

    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ^O^

    ตอบลบ
  12. เนื้อหาดีครับผม จารเขียนได้ดีมากมาย

    คนอีสานสู้ๆๆตาย

    ความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ตัวเงิน แต่อยู่ที่ใจจ๊ะทุกๆๆคน

    ตอบลบ
  13. อ่านแล้วได้ข้อคิด

    ทำให้เกิดความภูมิใจในคนอีสานด้วยกันเด้อ

    ตอบลบ
  14. ขอบคุณมากครับ เป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ ได้แนวคิดในการดำเนินชีวิตมากเลยครับ

    ตอบลบ
  15. หนูก็เป็นคน ร้อยเอ็ด เหมือนกันค่ะ

    รู้สึกภาคภูมิใจกับคนร้อยเอ็ดจริงๆ สู้ชีวิตมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  16. เป็นเรื่องที่ดีมากเลย
    ที่จะหาคนที่สู้ชีวิตได้อย่างนี้
    ก็คิดว่าเรื่องนี่สอนให้เรารู้ว่า
    "อยู่ที่ไหนก็ไม่อดตาย ถ้าเรามีความกล้าที่จะทำ
    และต้องมีความขยัน อดทนกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น"

    ตอบลบ
  17. ดีค่ะ ชีวิตเราต้องสู่

    เรามีโอกาสไดเรียนหนังสือเราก้อต้องเป็นคนดีล่ะ ทำประโยชน์ที่ดี

    เพื่อคนข้างหลังเรา และ ตัวเราเองค่ะ

    สู่ค่ะ ลุงแท๊กซี่ ทลT 4167

    ตอบลบ
  18. ชีวิต มีแต่เรื่องยุ่งยาก แต่นั่นเป็นเพียงแค่ด้านเดียวของชีวิตเท่านั้น
    ชีวิตคนเรามีอีกหลายด้านให้ต้อง เผชิญ สู้ๆๆคร๊าา

    ตอบลบ
  19. เป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับอาจารย์ ผมก็คนเกินร้อยเหมือนกันครับ มาเกินร้อยแน่นอน คนเมืองร้อยเกินเป็นคนที่ขับแท๊กซี่มากที่สุดในไทยเลยครับ
    และน้าผมเองก็เริ่มจากที่ต้องไปเช่าเขาขับ แต่ทุกวันนี้น้าเค้าเก็บเงินซื้อแท๊กซี่เองได้แล้วครับ ผมถึงรู้ว่าคนอีสานสู้จริงๆ (นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียวครับ)

    ตอบลบ
  20. อย่าสิไรลืมถิ่มมูลมังตั้งแต่เก่า
    อย่าสิละเผ่าเชื่อหลงหย้องผู้อื่นดีเด้อ

    ตอบลบ
  21. ขออนุญาตนำไปเล่าต่อนะครับ...

    ตอบลบ
  22. แม้จะเจอปัญหาก็ต้องสู้ต่อไปครับ พี่น้องครับ :D:D:D

    ตอบลบ