หากไม่เขียนเรื่อง
“วันแห่งความรัก” เนื่องในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ก็รู้สึกว่าจะขาดอะไรไปสักอย่างในชีวิตนี้
แน่นอนครับ “ความรัก”
เป็นสิ่งที่ทุกคนทุกท่านต้องการไม่ว่าจะจากใคร กลุ่มบุคคลใดก็แล้วแต่
ความรัก เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขที่มาจิตใจของเรา
ทำให้รู้สึกว่ามีอิ่ม รู้สึกว่าโลกใบนี้สดใสเหลือเกิน
รู้สึกว่าตัวเรามันกระชุ่มกระชวย
รู้สึกว่าชีวิตของเรามันช่างดีเหลือเกิน
ความรัก
เป็นสิ่งที่เราทุกคนรู้จักมักคุ้นกันมาเป็นอย่างนี้
เรารู้จักความรักมาตั้งแต่เกิดตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาของเรา แม่ของเรารักทะนุถนอมเราทุกขณะเวลาวินาที
เติบใหญ่คลอดออกมาเราก็ได้ความรักจากพ่อ จากญาติ ไปโรงเรียนได้ความรักจากคุณครู
เพื่อนๆ โตขึ้นสู่วัยรุ่นเราก็ได้ความรักจากเพื่อนต่างวัย
เพื่อนต่างเพศ เพื่อนต่างสถาบัน เพื่อนต่างๆ นานา ความรักดังกล่าว ก็จะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า
“จีบ” กันและกัน หรือ ภาษาโบราณอาจจะเรียกว่า “เกี้ยวพาราสี” (สำหรับ พาราสี
ผู้เขียนก็ไม่ทราบไม่รู้เหมือนกัน ว่าหมายถึงอะไร
หากเป็นเมืองที่ประเทศอินเดียก็จะเป็นเมืองพาราณสี)
กล่าวสำหรับ “จีบ”
ผู้เขียนได้ยินวัยรุ่นเขาคุยกันว่า
“จีบคนไม่มีแฟนมีศัตรูเป็นแสน
จีบคนมีแฟนมีศัตรูเพียงคนเดียว”
เป็นประโยคที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ท่านผู้อ่านก็ไปคิดเองต่อก็แล้วกันครับ
กลับมาที่จีบอีกครั้ง
เมื่อจีบกันรักกันตกลงแต่งงานกัน ก็เกิดความรักในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก
เป็นวงจรอย่างนี้ เมื่อเป็นพ่อแม่ก็ย่อมรักลูกมากเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อลูกเติบโตเจริญก้าวหน้าในการเรียนอาชีพมีครอบครัว
พ่อแม่ก็ย่อมมีความสุขตามไปด้วย
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความรักที่เราทุกคนที่จะต้องมีอยู่เสมอ นั่นก็คือ
“ความรักที่มีต่อตัวเอง ต่อตัวเรา” ถามว่าความรักดังกล่าวนี้เป็นอย่างไร
ผู้เขียนคิดว่าทุกท่านคงทราบกันดี
วันแห่งความรัก
หากเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการรักตัวเองมากยิ่งขึ้น ก็คงจะดีนะครับ
หากว่าเรารักตัวเองเสียก่อน
แล้วขยายต่อในการให้ความรักกับผู้ที่ใกล้ชิดที่สุดที่เป็นสายเลือดของเรา กล่าวคือ
ต้องรักคุณพ่อคุณแม่ให้มาก เมื่อมีสายเลือดที่เป็นลูกก็ต้องรักลูกให้มาก
ถัดจากสายเลือดก็เลือกที่รักผู้ที่ใกล้ชิดเราที่สุดตามลำดับ อาจจะเป็นคนรัก (หรือที่เรียกว่า
แฟน) ตามไปด้วยเพื่อนๆ (ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ที่เรียน เพื่อนๆ ที่ทำงาน เพื่อนๆ
ที่เราสนิท) ตามด้วยสมาชิกในองค์กรของเรา ชุมชนของเรา สังคมของเรา หมู่บ้านของเรา
ตำบลของเรา อำเภอของเรา จังหวัดของเรา และประเทศของเรา
เหนือสิ่งอื่นใดในวันแห่งความรักนั้น ผู้เขียนเชื่อว่า เราคนไทยจะรักและเทิดทูนในหลวงและพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
ขอให้ทุกพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
สิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งคู่กันกับความรัก คือ
"การให้" หลายท่านคงทราบและรู้ดีว่า "ความรัก คือ การให้"
และเป็นการให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ
หากเมื่อใดแล้วที่เราเห็นความรักเป็นการที่จะต้องได้แล้วละก็
รับรองได้ว่าสิ่งนั้นคงไม่อาจจะถูกเรียกได้ว่า "ความรัก" อย่างแน่นอน
หลายครั้งในชีวิตของคนเรา
เรามีความต้องการ มีความอยาก (ได้) ซึ่งเมื่อนั้นแล้วก็มักจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า
"ทุกข์" ตามมาเป็นของคู่กันเสมอ ตรงกันข้าม หากว่าเรามีความรู้สึกว่า
"ต้องการจะให้ (โดยไม่มีความต้องการกลับ ไม่มีความอยากได้กลับคืน)"
เราจะมีความสุข และความสุขนั้น อาจจะเรียกว่า "ความรักที่ยิ่งใหญ่"
มีบางท่านที่มีฐานะต้องการให้ (บริจาค)
เงินทองสำหรับเด็กกำพร้าเพื่อเป็นทุนการศึกษาสำหรับเขาเหล่านั้นได้มีโอกาสที่ดีในชีวิต
นี่แหละที่เป็นความรักที่น่าชื่นชม เป็นความรักที่บริสุทธิ์ไม่หวังผลตอบแทนใด
และที่สำคัญความรักดังกล่าวเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน
หากท่านใดที่ดูละครเรื่องบางรักซอย 9 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นอีกตอนหนึ่งที่ประทับใจที่แสดงให้เห็นว่า
คุณชัดเจนได้มีความรักที่ไม่หวังผลตอบแทนใดโดยการบริจาคเงินช่วยเหลือให้กับบุตรบุญธรรม
(เด็กกำพร้า) ตั้งแต่เด็กๆ จนเติบโตมีการศึกษาสามารถสอบชิงทุนไปศึกษายังต่างประเทศ
ซึ่งเด็กคนนั้นชื่อว่า "ออมสิน"
และในละครวันดังกล่าวยังได้แสดงให้เห็นถึงความรักที่ยิ่งใหญ่สำหรับคุณพ่อคุณแม่
คือ "ลูก" ที่ลืมตามาดูโลก เนื่องจากคุณแป้งได้ท้องแล้ว 3 เดือน
และอีกไม่ช้า ความรักดังกล่าวก็จะค่อยๆ มากและมากยิ่งๆ ขึ้นตามลำดับ
สำหรับวันแห่งความรัก
หากเรารู้จักประยุกต์เรื่องของความรักกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ฯ (มีเหตุผล มีความพอประมาณ และมีภูมิคุ้มกัน) ก็น่าจะเป็นไปได้ ตามที่ว่า
รัก
แบบมีเหตุผล กล่าวคือ รักเพราะเหตุผลใด ทำไมถึงจะต้องรัก
รัก
แบบมีความพอประมาณ กล่าวคือ รักด้วยความพอดีพอเหมาะ ไม่มากไป ไม่น้อยไป
รัก
แบบมีภูมิคุ้มกัน กล่าวคือ
รักเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน
สร้างความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกันและกัน
สุดท้ายนี้
ผู้เขียนขออวยพรให้ทุกท่านที่มีความรัก มีความสุข โดยเฉพาะมีความสุขกับการให้
เพื่อให้เกิดความรักที่บริสุทธิ์ จัดไปให้เต็ม เติมเต็มสำหรับสิ่งที่ดีๆ
ต่อกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักในครอบครัว ที่ทำงาน และประเทศชาติ ขอให้
"รักประเทศไทย
เดินหน้าร่วมมือร่วมใจพัฒนาประเทศไทยของเราให้เจริญรุ่งเรือง"
Happy Valentine's Day
Max
สุดท้ายผู้เขียนอยากจะขอกล่าวเนื่องในวันแห่งความรักว่า "I Will Always Love You" เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อ WHITNEY HOUSTON
สุดท้ายผู้เขียนอยากจะขอกล่าวเนื่องในวันแห่งความรักว่า "I Will Always Love You" เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อ WHITNEY HOUSTON
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น