วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หนึ่งเดียวคือแม่

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาสได้ดูรายการดีๆ ของช่องเจ็ดสีทีวีเพื่อคุณ "รายการจันทร์พันดาว" มีช่วงหนึ่งที่เป็นการแสดงของเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ชื่อสตางค์ โดยเขาคนนั้นร้องเพลงขื่อว่า "หนึ่งเดียวคือแม่" ผู้เขียนไม่เคยได้ยินหรือได้ฟังเพลงนี้มาก่อน แต่เมื่อได้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกว่า ไม่เขียนไม่ได้แล้ว ความตั้งใจในการร้องของน้องสตางค์ เนื้อหาสาระของเนื้อเพลง ทำให้น้ำตาของผู้เขียนไหลออกมาเมื่อไรไม่รู้ รู้แต่เพียงว่า คำว่า "หนึ่งเดียวคือแม่" นั้น ยิ่งใหญ่มหาศาล คณานับ ล้นเหลือเกินจะบรรยายได้ น้ำตาของผู้เขียนที่ไหลออกมานั้น เป็นความรู้สึกว่าแม่ของเรานั้นยิ่งใหญ่จริงๆ ไม่รู้ว่าจะหาอะไรมาทดแทนพระคุณนั้นได้

หนึ่งเดียวคือแม่ ทำให้ทราบว่ากว่าที่เรา (ทุกคน) จะมีชีวิตได้ทุกวันนี้ช่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน (จริงๆ แล้ว ผู้เขียนขอเปลี่ยนเป็น "ล้านเข็ญเหลือเกิน" เพราะมันมีค่ามากกว่าแสน) ครับ เนื้อหาของเพลงบางครั้งอาจจะทำให้เรามีสติมีความยั้งคิดเกิดขึ้นว่าทำไม่ หนึ่งเดียวคือแม่ นั้น มีความสำคัญอย่างมาก มีความหมายอย่างมาก อันนี้เราทุกท่านทราบดีว่า กว่าจะมีเราในวันนี้นั้นแม่ได้เสียสละความสุขส่วนตัวมามากแล้ว ความทุกข์ของแม่คือความสุของลูก (ขณะที่ผู้เขียนได้บรรยายหรือเขียนขณะนี้ น้ำตายังไหลอยู่เลย เพราะไม่รู้ว่าในชีวิตชาตินี้ไม่รู้ว่าจะทดแทนบุญคุณของแม่ได้อย่างไร พูดง่ายๆ คือ หมดปัญญาที่จะทดแทนบุญคุณดังกล่าว)

น้องสตางค์ได้ถ่ายทอดความรู้สึกที่ทำให้เราทราบว่าพระคุณของคุณแม่นั้น ไม่มีอะไรในโลกนี้จะเหมือนได้ หนึ่งเดียวคือแม่ ทำให้เราเกิดความเข้าใจเกิดความรู้สึกที่ดีว่า ที่เรามีลมหายใจได้ทุกวันนี้ นั้น เพราะ "หนึ่งเดียวคือแม่จริงๆ " แต่ก่อนผู้เขียนเคยโกรธให้แม่เวลาที่แม่อารมณ์ไม่ดี แม่ดุด่าเรา แต่เมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสคิดทบทวนแล้วทำให้ทราบว่า ที่คุณแม่ดุด่าว่าเรานั้น ก็เพราะความรู้สึกที่ท่านอยากจะให้เราได้รับแต่สิ่งดีๆ เกิดประโยชน์ต่อตัวเรา หนึ่งเดียวคือแม่ เป็นสิ่งที่เราทุกคนทราบกันดีว่า ไม่มีอะไรอีกแล้วในโลกใบนี้จะทดแทนได้ พระคุณท่านที่ยิ่งใหญ่ เราจะต้องหาโอกาสหาเวลาทดแทนตอบแทนท่านให้ได้ ผู้เขียนเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่มีโอกาสทำอย่างนั้น เพราะแม่ได้จากผู้เขียนไปตั้งนานแล้ว ก็ได้แต่อยากจะเสนอให้ท่านใดที่ยังมีแม่อยู่ได้คิดว่า "หนึ่งเดียวคือแม่" เราจะต้องหาโอกาสหาเวลา ทำให้ "แม่คือหนึ่งเดียวที่เราจะทำให้ท่านได้มีความสุขเท่าที่เราจะทำได้"

หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่าเราจะทำเพื่อแม่เมื่อไรก็ได้ อย่างไรก็ดี สำหรับผู้เขียนแล้วขออนุญาตแนะนำทุกท่านว่า หากท่านมีเวลาให้กับ "หนึ่งเดียวคือแม่" ในวันนี้ ขอให้ท่านได้ลงมือทำเลยและทำอย่างที่เราอย่างจะทำเพื่อแม่จริงๆ

วกกลับมาเรื่องของน้องสตางค์ที่ได้น้องเพลงเพื่อแม่ก่อนหน้านี้ สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนประทับใจในคำพูดของน้องคือ "เมื่อหนูสู้แล้วพ่อจะต้องสู้ด้วยนะ ต้องการให้พ่อเขามีสุขภาพดีเหมือนเดิม" ซึ่งจริงๆ แล้วน้องสตางค์เขาเหลือพ่อเพียงคนเดียวและป่วยด้วย คำพูดของน้องสตางค์ทำให้น้ำตาของผู้เขียนต้องไหลออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะขนาดที่น้องสตางค์อายุยังน้อยก็ยังมีความคิดความรู้สึกที่ดีต่อผู้ที่ให้กำเนิดบังเกิดเกล้าและสร้างกำลังให้ผู้เป็นพ่อ คำพูดดังกล่าวทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่า "หากเรารักใครปรารถนาดีต่อใคร ผลดังกล่าวย่อมเกิดผลดีอย่างแน่นอน" ซึ่งเราเรียกว่า "คิดดี ย่อมจะเกิดผลดี"

ครับ ในโลกใบนี้นั้น หากเราทุกคนตระหนักถึง "หนึ่งเดียวคือแม่" จะทำให้เราที่แม่เกิดพลังในการทำสิ่งใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือ การใดๆ ก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนขอสนับสนุน ทุกท่านที่ยังมีแม่อยู่ให้ความสำคัญของ "หนึ่งเดียวคือแม่" ส่วนท่านใดที่แม่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว ขอให้ท่านได้ระลึกถึงแม่และพระคุณของท่านอยู่ตลอดเวลา เพราะแม่จะคุ้มครองเราอยู่ตลอดเวลา

สุดท้ายนี้ "หนึ่งเดียวคือแม่" หากคนไทยทุกคนให้ความสำคัญอย่างจริงจังทุกระดับทุกสังคม ผู้เขียนเชื่อว่าสังคมไทยของเราจะมีเป็น "น้ำหนึ่งใจเดียวกัน" เพราะหากเราคิดถึง "แม่" เรื่องต่างๆ ที่เราคิดจะเป็นเรื่องที่ดีๆ ทั้งนั้น เมื่อ "หนึ่งเดียวคือแม่" เราควรจะต้องทำให้ "แม่คือหนึ่งเดียว" กันนะครับ

"ผมรักแม่ครับ"

"ผมคิดถึงแม่เมื่อไรทำไมน้ำตาของผมมันไหลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวเลย"

"ผมอยากจะบอกว่า แม่คือสิ่งเดียวที่วิเศษที่สุดในโลกใบนี้ครับ"

หากท่านพอมีเวลา ท่านลองฟังเพลง "หนึ่งเดียวคือแม่" นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น