วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน “เป็นเด็กแม่พาเข้าวัด”

      เมื่อนึกย้อนกลับไปเมื่อสี่สิบปีกว่าที่แล้ว  ตอนเป็นเด็กชั้นประถมศึกษาจำได้ว่า บ่อยครั้ง (ทุกวันพระและวันอื่นๆ ) คุณแม่จะพาไปทำบุญที่วัดเหนือสุพรรณวราราม (อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด) ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าไปวัดเพื่ออะไร แต่ที่แน่ๆ คือ ณ ที่ศาลาการเปรียญของวัดเหนือฯ สิ่งที่ต้องเห็นเป็นประจำทุกครั้งที่ไปวัดแห่งนี้ คือ รูปภาพที่น่ากลัวของการตกนรกขุมต่างๆ (คุณแม่เล่าให้ฟังตอนนั้น)

     ทำให้รู้ว่าเป็นภาพที่ติดต่างมาถึงปัจจุบัน  ซึ่งก็เป็นข้อดีเหมือนกันที่ทำให้คนเราสามารถจดจำอะไรที่ภาพแล้วบันทึกอยู่ในสมองไว้ได้นาน  นอกจากนั้น การไปวัดแต่ละครั้งจะต้องนั่งให้เรียบร้อยห้ามพูดคุยส่งเสียงดัง และฟังเสียงสวดมนต์ โดยขณะนั้นเป็นเด็กก็ยังไม่เข้าใจหรอกว่าแปลว่าอะไร หมายถึงอะไรกันแน่  ได้แต่นั่งในอาการหูก็ฟัง ตาก็ดูที่พระสงฆ์ และรูปภาพภายในศาลาฯ ไปด้วย  ยิ่งตามองดูภาพนานเท่าไร ยิ่งทำให้มีความรู้สึกกลัวมากเท่านั้น ว่าถ้าหากเราเป็นดั่งในภาพ แล้วตัวเราจะเป็นอย่างไร (คิดถึงเมื่อตอนนั้น น่ากลัวจริงๆ ครับ)  

(ขอขอบพระคุณรูปภาพจาก http://larnbuddhism.com/godgram/nr/03.html)
(ขอขอบพระคุณรูปภาพจาก http://www.t3surat.ac.th/webboard.php?id=20&wpid=0031)
(ขอขอบพระคุณรูปภาพจาก http://larnbuddhism.com/godgram/nr/04.html)

     และเช่นเดียวกัน สมัยก่อนจะมีงานวัดจำไม่แน่ชัดว่าเป็นงานอะไร โดยในช่วงกลางคืนคุณแม่จะพาไปวัดเหนือฯ เช่นกัน  ท่านพาไปกราบไหว้พระพุทธรูปพระประธานในพระอุโบสถ งานดังกล่าวน่าจะบุญเดือนสี่ “บุญผะเหวด” บุญพระเวสสันดร หรือบุญมหาชาติ ซึ่งจะมีการนำผ้าที่มีภาพพุทธประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภพชาติต่างๆ ๑๐ ชาติ มาแสดง (พร้อมทั้ง มีการเทศน์ที่มีลักษณะดังตัวอย่างต่อไปนี้  พระเวสสันดรชาดก เทศน์แหล่อีสาน
https://www.youtube.com/watch?v=q9eFBy9RyaI  หรือ https://www.youtube.com/watch?v=0EOzZO49SyQ  https://www.youtube.com/watch?v=AGdXvEk1Apg )  ทั้งนี้ จำได้ว่าเมื่อได้เข้าฟังเทศน์ในลักษณะดังกล่าวแล้ว มีความประทับใจน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นมีทำนองที่ไพเราะอย่างมาก  ดังนั้น การไปวัดในตอนเย็นในโอกาสบุญผะเหวดในเดือนสี่ดังกล่าว ทำให้เห็นภาพ ๑๐ ภพชาติของพระพุทธเจ้าก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้เป็น “พระพุทธเจ้า” พร้อมทั้งได้ยินเสียงเทศน์แหล่อีสานที่หาฟังได้ยากมาก  

    สรุปได้ว่า การที่แม่พาเข้าวัดเมื่อตอนยังเยาว์วัย นับว่าเป็นผลดีอย่างยิ่ง ทำให้เห็นภาพของการตกนรกที่ยังติดตามาถึงปัจจุบันนี้  ยิ่งทำให้ตัวเราตระหนักยิ่งขึ้นว่า ในชาตินี้ชาติปัจจุบันจะต้องไม่ทำอะไรที่เป็นสิ่งทำให้ตัวเราตกนรก  นอกจากนั้น การเข้าวัดในเทศกาลบุญต่างๆ ทำให้ได้ยินเสียงเทศน์ที่ทำให้ตัวเราได้คิดตาม ทำให้เกิดสมาธิในการฟังเป็นอย่างดียิ่ง  ดังนั้น  แสดงว่าอวัยวะของมนุษย์เราในการรับข้อมูลจากการเห็นและการฟังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เห็นภาพทำให้เกิดสตินึกคิดในสิ่งที่ดีๆ การฟังทำให้เกิดสมาธิได้รับสิ่งดีๆ ประทับในจิตใจของเราไปตลอดชีวิต  ด้วยเหตุนี้ หากเป็นไปได้ วัดวาอารามต่างๆ ในปัจจุบันคงจะได้อนุรักษ์รูปภาพขุมนรกต่างๆ  เพื่อให้เด็กพุทธศาสนิกชนคนรุ่นหลังได้เห็นภาพเหล่านั้นอันจะเป็นสิ่งเตือนใจในการทำดี (ละเว้นความชั่ว) พร้อมทั้ง อนุรักษ์รักษาประเพณีบุญต่างๆ เทศน์ต่างๆ เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รับฟังเกิดสมาธิความคิดจิตสร้างสรรค์นำปัญญาที่มีคุณค่าในที่สุด

เมื่อแม่พาเข้าวัด กิจวัตรอันดีงาม
ไปด้วยไม่เคยถาม คอยติดตามทุกท่วงที

ตาดูในรูปภาพ จะสามารถเห็นสิ่งดี
จดจำทำความดี เพื่อหลีกหนีนรกภัย

หูฟังในเสียงเทศน์  สิ่งวิเศษฟังเข้าใจ
ตาดูหูฟังไป จิตผ่องใสเข้าใจธรรม

ทุกอย่างเริ่มตอนเด็ก กลเม็ดแม่พาทำ
ทำให้จิตน้อมนำ เลยมีธรรมประจำเอย

ปภาวีร์
๔ มกราคม ๒๕๕๘







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น