วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

ของขวัญ

คำว่า "ของขวัญ" เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการในโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันแต่งงาน วันปีใหม่ หรือวันสำคัญอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขออนุญาตแยกเป็นคำย่อย ๒ คำ คือ ของ และ ขวัญ กล่าวสำหรับคำว่า "ของ" นั้น เป็นสิ่งที่หมายถึงสิ่งที่ใช้แทนความเป็นผู้ครอบครองสิ่งนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต และสำหรับคำว่า "ขวัญ" คงจะหมายถึงสิ่งที่ดีๆ สิ่งที่เป็นมงคล

ผู้เขียนได้คำแนะนำจากเพื่อนร่วมงานกรุณาชี้แนะว่า น่าจะลองเขียนเกี่ยวกับเรื่องของ "ของขวัญ" และเช่นเดียวกัน วันนี้ ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (๑๙ มกราคม ๒๕๕๔) มีการจัดงานเกี่ยวกับเรื่องของ “ของขวัญ” ณ บริเวณสระน้ำ ตรงข้ามวิทยาลัยแพทยศาสตร์ฯ เริ่มงาน ๑๗.๐๐ น.

ซึ่งอย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวมาก่อนน่านี้แล้วว่า "ของขวัญ" เป็นสิ่งที่ดีเพราะเนื่องจากเป็นสิ่งที่ดีๆ เป็นสิริมงคล

อย่างไรก็ดี ก่อนที่ผู้เขียนจะได้พูดถึง "ของขวัญ" นั้น ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ของขวัญเป็นสิ่งที่ทั้งผู้ให้และผู้รับมีความต้องการแทบทั้งสิ้น เพราะเนื่องจากเป็นสิ่งที่ผู้ที่จะให้ (ของขวัญ) ไปนั้นก็อาจจะมีความรู้สึกว่าจะได้ของขวัญกลับคืนมาสักวัน หรือ สำหรับผู้ที่จะรับสิ่งใดนั้น (ของขวัญ) ก็เป็นอีกประการหนึ่งว่า เมื่อรับยิ่งมากเท่าไร เราก็ย่อมจะต้องนำสิ่งของนั้นไปแบ่งปันผู้อื่นๆ

กล่าวสำหรับของขวัญแล้ว เป็นสิ่งที่เราทุกคนล้วนประสบแทบทุกคน ของขวัญที่ดีและชิ้นใหญ่ราคาแพงก็เป็นที่ต้องการของทุกๆ คน ของขวัญที่ดีราคาน้อยไม่มากก็ย่อมไม่เป็นที่ต้องการ อย่างไรก็ดี ของขวัญจะดีมีค่าหรือไม่นั้น ผู้เขียนคิดว่าไม่สำคัญเท่ากับว่า ของขวัญดังกล่าว ทำให้เกิดความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ ของขวัญบางอย่างอาจจะไม่มีค่ามากแต่ล้นเปี่ยมไปด้วยคุณค่าของมัน คุณค่าที่ว่า คือ คุณค่าของความรักความห่วงใย ความเอื้อมิตรไมตรีต่อกัน

สำหรับพ่อแม่ย่อมต้องการที่จะได้รับของขวัญจากลูก ลูกก็ต้องการได้รับของขวัญจากพ่อแม่ในโอกาสต่างๆ เช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เป็นลูกให้ของขวัญแด่พ่อแม่ได้เลยทุกเวลานาทีและไม่จำเป็นจะต้องมีค่ามาก นั้นคือ การเป็นคนดีของพ่อแม่ คนดีที่ว่าคือ ตั้งใจเรียน เมื่อเรียนจบสำเร็จในระดับการศึกษาต่างๆ แล้วมีหน้าที่การงานที่ดีเหมาะสมกับความสามารถของตน คำว่า “ดี” ผู้เขียนเชื่อว่าทุกท่านทราบกันว่าเป็นอย่างไร แต่ผู้เขียนขอเพิ่มเติมคำว่า “ดี” คือ ทำแล้วทำให้พ่อแม่เกิดความสุขทั้งทางกายและจิตใจ พ่อแม่บางท่านอาจไม่ต้องการของขวัญจากลูกมากมาย เพียงต้องการเห็นลูกว่า “คิดถึงพ่อแม่บ้าง” อันสอดคล้องกับคำที่ว่า “กตัญญู กตเวที” คือ รู้บุญคุณ และหาโอกาสที่จะตอบแทนพระคุณของพ่อแม่

ของขวัญ สำหรับเพื่อนร่วมงาน ผู้เขียนคิดว่า ของขวัญที่เพื่อนร่วมงานทุกคนต้องการน่าจะเป็นการได้รับของขวัญที่จับต้องไม่ได้ นั้นคือ “ความเป็นพี่เป็นน้องกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการทำงาน” เรามีอะไรแนะนำเพื่อนร่วมงานก็ควรมอบหรือบอกให้เพื่อนเพื่อเกิดการพัฒนาปรับปรุงงานร่วมกัน ถึงแม้ว่าของขวัญดังกล่าวจะตีค่าเป็นเงินทองไม่ได้จับต้องไม่ได้ แต่ผู้เขียนคิดว่าของขวัญดังกล่าวมีค่ามหาศาล และสามารถที่จะมอบให้กันและกันในทุกเวลาทุกเทศกาลสถานที่

ของขวัญจะมีค่ามากหรือน้อยนั้น สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ ผู้ให้และผู้รับของขวัญ คือ ๑. มีจิตใจร่วมกันในสิ่งนั้นอย่างบริสุทธิ์ ๒. มีความตั้งใจที่จะให้และรับ ๓. ไม่หวังใดๆ อันเป็นสิ่งตอบแทนจากการให้และรับ

สำหรับ คำว่าของขวัญภาษาอังกฤษที่ว่า “GIFT” นั้น ผู้เขียนขออนุญาตแสดงความคิดเห็นกับคำดังกล่าว ดังนี้
G = Give ให้ ด้วยความตั้งใจบริสุทธิ์ใจ
I = Identify กำหนดระบุ ในสิ่งที่ต้องการให้อย่างเป็นมิตรและเอื้ออาทรต่อกัน
F = Forever สิ่งที่ให้จะทำให้เรามีความสุขใจร่วมกัน ตลอดไป
T = Time เวลาโอกาส ต่างๆ ที่เราให้เป็นสิ่งที่กำหนดให้เราได้มาพบกันให้กันและกัน
ดังนั้น เรา (ทั้งผู้ให้และผู้รับ ของขวัญ) ได้กำหนดสิ่งที่ทำให้เกิดมิตรภาพอย่างบริสุทธิ์ใจร่วมกันเพื่อเกิดความสุขตลอดไปอย่างยั่งยืนตามเวลาโอกาสต่างๆ ที่สำคัญต่อเรา

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอมอบของขวัญที่สำคัญต่อผู้อ่านทุกท่าน ของขวัญที่ว่า คือ ของขวัญจากก้อนดิน
มนูญ ศรีวิรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น