วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กลาง

คำ่ว่า “กลาง” เป็นสิ่งที่บ่งบอกตำแหน่งของสิ่งของ หรือ สิ่งใดก็ตามที่ ที่อยู่ห่างจากที่สูงสุด (หรือมากที่สุด) และที่ต่ำสุง (หรือน้อยที่สุด) ในระยะทางที่เท่ากัน โดยจะอยู่ภายในที่สูงสุด (หรือมากที่สุด) และที่ต่ำสุง (หรือน้อยที่สุด) ด้วย
ดังนั้น ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามแต่ถ้าหากอยู่ตรงกลางทุกคนย่อมเข้าใจตรงกันแล้วและทราบว่าตรงกลางนั้นเป็นอย่างไร แต่บางอย่างที่เป็นลักษณะของนามธรรมจับต้องไม่ได้ เช่น เราบอกว่า กีฬาฟุตบอล มีกรรมการตัดสินที่เป็นกลาง ซึ่งบางครั้งก็อาจจะมีที่ผู้ตัดสินไม่สามารถทำหน้าที่เป็นกลางได้อย่างดี ดังนั้น กีฬาบางประเภทเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตัดสินเพื่อให้เป็นกลาง ยุติธรรมกับผู้แข่งขันทั้งสองฝ่าย เช่น กีฬาเทนนิส นำเทคโนโลยีการจับภาพลูกเทนนิสมาดูว่าเป็นลูกที่ตีออกหรือลงเส้น ซึ่งการทำหรือการนำเทคโนโลยีเข้าช่วยทำให้ผู้แข่งขันร่วมทั้งกองเชียร์ได้สบายใจดูการแข่งขันอย่างมีความสุข เมื่อเป็นผู้แพ้ก็รู้สึกได้รับความเป็นธรรมและมีความสุข จะเห็นว่ากีฬาทุกประเภทได้พยายามนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตัดสินให้เกิดความยุติธรรมกับผู้เข้าร่วมแข่งขันให้ได้มากที่สุด แต่กีฬาบางอย่างไม่ต้องการความเป็นกลาง คือ กีฬาพื้นบ้าน ซักกะเย่อ นั่นเอง เพราะ กีฬาดังกล่าวก่อนการแข่งขั้น จะต้องนำเชือกให้มาอยู่จุดตรงกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย จะชนะกันก็ต่อเมื่อฝ่ายใดสามารถนำจุดกึ่งกลางไปอยู่ในพื้นที่อาณาบริเวณของตัวเอง
ความเป็นกลาง เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว ดั่งที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ คือ ทางสายกลาง ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป ซึ่งเรื่องที่เราทุกคนทราบกันดีและบางท่านได้ปฏิบัติเป็นอย่างดี และเราก็อยากจะให้ทุกคนเดินทางสายกลาง ผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าก็ยังทำไม่ได้ แต่อย่างเรื่องก็ทำได้ คือ ปล่อยวาง ไม่ยึดติด ประการสำคัญ คือ ทางสายกลางนั้นเราควรจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ และที่สำคัญอีกอย่าง คือ ต้องเป็นไปตามหลักของธรรมะ เพราะถ้าหากท่านใดเข้าถึงธรรมชาติ เข้าถึงธรรมะ ท่านจะรู้ว่า ความเป็นกลาง อย่างแน่นอน
เมื่อเราทุกคนมีความเป็นกลางในทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นศูนย์กลาง รวมจิตใจ รวมพลัง และร่วมกันกระทำในแต่สิ่งดีๆ ทุกสิ่งจะประสบความสำเร็จ

มนูญ ศรีวิรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น