วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

โกรธ

ในโลกนี้ เมื่อมีคำว่า โกรธ ย่อมมีสิ่งที่ตรงกันข้าม คือ ยิ้ม ความโกรธ เป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนไม่มีความสุข
ภาพยนต์ 3D เรื่องหนึ่งที่ฉายในขณะนี้ ชื่อเรื่องว่า Shrek Forever After ( เชร็ค สุขสันต์ นิรันดร) ฟังชื่อเรื่องแล้วมีความรู้สึกว่า น่าจะสุขสันต์ไปตลอดชีวิต แต่ในเรื่องมีต้นเรื่องจากสิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีอยู่ในตัว คือ ความโกรธ ท่านเชื่อหรือไม่ว่า เมื่อมีความโกรธ ทำให้ขาดสติยั้งคิด และประการสำัคัญคือ เมื่อผู้นั้นได้ดื่มของมึนเมา (สุรา) จะทำให้การมีสติลดน้อยถอยลงไป เช่นเดียวกันกับในภาพยนต์ดังกล่าว Shrek เกิดความโกรธอย่างสุดขีดแล้วไปเจอกันคนไม่ดีพาไปในทางที่ไม่ดีดื่มสุรา ทำให้ขาดสติ และเขาได้กระทำในสิ่งที่เกิดตามมาอย่างที่ไม่น่าให้อภัย แต่ตอนจบของเรื่องน่าจะมีความสุขนิรันดร ตามชื่อเรื่อง
แต่ที่ยกขึ้นมาให้เห็นก็คือ โกรธ เป็นสิ่งที่อยู่กับตัวเราทุกคนมานานแสนนาน ความโกรธ เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ถ้าเราขาดสติ และเมื่อมีความโกรธ เิกิดขึ้น ย่อมมีแต่ความทุกข์ในด้านต่างๆ ที่ตามมาอย่างที่บางครั้งอาจจะเป็นผลเสียหายร้ายแรงก็ได้
ความโกรธนั้นจะหายไปได้ เมื่อมีรอยยิ้ม
ก่อนที่จะกล่าวถึงรอยยิ้่ม ใคร่ขออนุญาตนำข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เกี่ยวกับ ความโกรธ หรือ การโกรธ หรือ อาการโกรธ อาการโกรธ นั้น จะเกิดขึ้นได้นั้น จะต้องใช้มัดกล้ามเนื้อบนใบหน้าหลายๆ ส่วนด้วยกัน ดังนั้น หากมัดกล้ามเนื้อดังกล่าวถูกใช้งานบ่อยๆ อาจจะทำให้เกิดรอยเหยี่ยวย่นบนใบหน้าของเราได้ และที่สำคัญจำเป็นจะต้องใช้พลังงานจำนวนพอสมควร ซึ่งบางครั้งเราอาจจะเห็นอาการโกรธที่แสดงออกที่ใบหน้าเป็นสีแดงกร่ำที่แสดงอาการร้อน ส่วนการยิ้มหรือการสร้า่งรอยยิ้มนั้น ผู้เชี่ยชาญได้กล่าวว่าใช้พลังงานงานน้อยกว่าและใช้มัดกล้ามเนื้อบนใบหน้าน้อยกว่าการโกรธ ด้วยเหตุนี้ คนที่โกรธบ่อยๆ อาจจะต้องมีรอยย่นมากกว่าคนที่มีแต่รอยยิ้ม
ที่นี้ เรามากล่าวถึง ยิ้ม เป็นที่ประเทศไทยของเราในปัจจุบันของเราต้องการเป็นอย่างมาก เพราะเราต้องการเห็นคนไทยมีรอยยิ้่มให้กันและกัน เหมือนกับที่เขาว่า เป็นเมืองสยามเมืองยิ้ม ซึ่งชาวต่างประเทศทราบกันดีว่าไทยของเราเป็นดินแดงที่มีแต่รอยยิ้ม อย่างไรก็ดี จากสภาวะแวดล้อม ความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่ได้ทราบกันดี นั้น ประเทศไทยของเราสามารถที่จะสร้่างรอยยิ้มกันง่ายๆ เพียงแต่ต้องรู้สึกว่ามีความสุข คิดถึงเรื่องที่ทำให้เรามีแต่ความสุข เป็นเรื่องใดก็ได้ เพราะเราจะต้องยิ้มมาจากจิตใจของเรา ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าคนเราทุกคนจะต้องเคยมีความสุขในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ เรามาหาเรื่องที่มีแต่ความสุข คิดถึงแต่เรื่องที่เป็นความสุข แล้วในที่สุด รอยยิ้่มของทุกคนก็จะเกิดขึ้นมาได้อย่างอัตโนมัติ
โครงการเพียงคิด ก็ยิ้มแล้ว น่าจะเป็นโครงการที่เราคนไทยทุกคนช่วยกันทำ เช่น คิดหรือนึกถึงวันที่แม่ของเราบอกว่ารักเรา คิดหรือนึกถึงวันที่เราสำเร็จการศึกษา คิดหรือนึกถึงเรื่องที่ตลกๆ ที่เราได้ทำตอนเด็กๆ เป็นต้น
ดังนั้น วันนี้เป็นต้่น เรามาช่วยกันขจัดความโกรธ และสร้า่งรอยยิ้ม กันทุกเวลา ทุกวัน ให้กันและกัน แล้วเรา ครอบครัวของเรา ที่ทำงานของเรา หมู่บ้านของเรา อำเภอของเรา จังหวัดของเรา และ ประเทศไทยของเรา จะมีแต่ความสุข
มนูญ ศรีวิรััตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น