วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ต้องละความยึดถือดังกล่าวนี้ทั้งหมด - ญาณทรรศน์ สมเด็จพระสังฆราชฯ"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ต้องละความยึดถือดังกล่าวนี้ทั้งหมด  - ญาณทรรศน์ สมเด็จพระสังฆราชฯ" คติธรรมคำสอนในเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เกี่ยวกับเรื่อง "ต้องละความยึดถือ" ซึ่งสามารถรับฟังได้จาก YouTube ต่อไปนี้ 
https://www.youtube.com/watch?v=BeGEi0f9wGw



ผู้ปฏิบัติธรรม หากไปยึดถือธรรมะปฏิบัติ ด้วยประการใดประการหนึ่งเข้าแล้วก็เรียกว่ายังมีตัณหาอยู่ในธรรมะปฏิบัติ ยังมีอุปาทานคือความยึดถืออยู่ในธรรมะปฏิบ­ัติ เหมือนอย่างธรรมปฏิบัตินี้เป็นตัวเราเป็นข­องเรา ก็ปฏิบัติไปได้ และอาจจะต้องมีความยึดถือในขั้นปฏิบัติเบื­้องต้น มาไปโดยลำดับ แต่ว่าเมื่อจะบรรลุถึงนิพพานจริงๆ แล้ว ต้องละความยึดถือดังกล่าวนี้ทั้งหมด จึงจะบรรลุนิพพานได้ ถ้ายังมีความยึดถืออยู่แล้วก็บรรลุนิพพานไ­ม่ได้

หากว่าเราทุกคนทุกท่านได้น้อมนำคติธรรมในเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ฯ ข้างต้นมาแล้ว เชื่อว่า จะต้องดีอย่างแน่นอน  "ต้องละความยึดถือ" ให้ได้ 

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้เมตตาพิจารณาชี้แนะเพื่อการปรับแก้ไขให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป ดังนี้ 

ต้องละความยึดถือ  น่านับถือคืออะไร
ยึดถือยิ่งทุกข์ใจ  ปล่อยวางได้ใจสุขเย็น

หากว่ามีตัณหา  ทุกข์อุราพายากเข็ญ
ชีวิตยิ่งลำเค็ญ  ทุกข์ยากเย็นเป็นทุกคน

มีธรรมปฏิบัติ  เป็นสมบัติมัดกมล
ละลดหมดให้พ้น  ตายจากคนยลนิพพาน

ยึดถือเรื่องไม่ดี  ปล่อยวางดีมหาศาล
หลุดพ้นจิตสำราญ  อีกไม่นานในกาลนี้

ผู้ปฏิบัติธรรม  จิตจดจำทำเรื่องดี
ลดละได้ทันที  นำชีวีดีแน่นอน

ยึดถือให้ลดลง  จิตต้องปลงลงถาวร
ละสิ้นในทุกตอน  หนีจากจรก่อนสายเอย

ปภาวีร์ 
๓ สิงหาคม ๒๕๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น