วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "สมเด็จพระสังฆราช และ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล : กัลยาณมิตรด้วยความเมตตา"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "สมเด็จพระสังฆราช และ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล : กัลยาณมิตรด้วยความเมตตา" เชื่อว่าพุทธศาสนิกชนคนไทยคงจะเคยได้เห็นภาพนี้ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง เป็นการแสดงถึงความมีกัลยาณมิตรด้วยความเมตตาซึ่งกันและกันระหว่างเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชฯ และ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล (วัดสระประสานสุข อุบลราชธานี https://www.facebook.com/LuangPuBoonmee)


ซึ่งรูปภาพข้างต้นเมื่อครั้งพิธีพุทธาภิเษกเสร็จสิ้น หลวงปู่บุญมีได้ลุกจากอาสนะสงฆ์ที่นั่งอยู่ แล้วเดินตรงเข้ามาหา ยืนต่อเบื้องพระพักตร์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ โดยมิได้ทรุดกายลงกราบ พร้อมกับเอาผ้าขนหนูผืนน้อยที่ไว้สำหรับเช็ดหน้าเช็ดปากลูบ ไล้เช็ดตามพระวรกาย ตั้งแต่พระเศียร (หัว) พระพักตร์ (หน้า) วนไปวนมาอยู่หลายรอบ เสร็จแล้วลงมาที่พระพาหา (ไหล่) พระกร (แขน) และพระอุระ (หน้าอก) อย่างที่ไม่มีใครนึกฝันหรือคาดคิดมาก่อน สร้างความตกตะลึงพรึงเพริดให้บังเกิดขึ้นแก่ศิษย์อุปัฏฐากของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ และทุกๆ คนที่ไม่ทราบความนัยเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อเห็นทุกๆ คน (ยกเว้นแต่องค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ) บังเกิดความสงสัยแปลกใจอย่างเต็มที่ ศิษย์ติดตามหลวงปู่บุญมีจึงกราบทูลชี้แจงในอริยาการดังนั้นมาทีเดียวว่า "หลวงปู่กำลังทำพิธีต่อพระชนมายุถวายแด่ฝ่าพระบาทอยู่ขอรับกระหม่อม"

เมื่อถึงที่สุดแห่งการพิธี หลวงปู่บุญมีได้ก้มลงกราบที่่พระอุระ (หน้าอก) โดยมิได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ขณะที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ เองก็มิได้ออกพระวาจา หรือแสดงอาการหลบเลี่ยงอย่างไม่สบพระทัยแต่อย่างใดทั้งสิ้น จากนั้นหลวงปู่บุญมีก็ได้กุมพระหัตถ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ขึ้นอธิษฐานเหมือนหนึ่งจะถวายพระพรให้ทรงพระเจริญด้วยพระชนมายุยิ่งยืนนานกว่า ๑๐๐ พระวัสสา ค้ำชูบูชาคุณบวรพระพุทธศาสนาให้สถาพรสืบต่อไปตราบชั่วจิรกาลเป็นปัจฉิมวาระ 
(ดูเพิ่มเติมที่มาอ้างอิงได้ที่ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล)

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกลอน ๘ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดชี้แนะแนะนำเพื่อการพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไปดังนี้

ก้มกราบสมเด็จพระสังฆราช
ได้บุญมากชาตินี้ดีนักหนา
สักการะน้อมเกล้าไหว้วันทา
เป็นบุญญาค่ายิ่งจริงอย่างเห็น


จิตงดงามตามธรรมนำชีวี
บุญมากมีดีคิดจิตบำเพ็ญ
ร่วมสานธรรมทำดีมิว่างเว้น
ไม่ยากเย็นเข็ญใจได้ร่วมธรรม


ทุกชีวิตจิตผูกต่างเกี่ยวข้อง
ต่างเกี่ยวดองต้องจิตมิตรน้อมนำ
บุญเกื้อหนุนคุณค่าพาหาธรรม
เป็นประจำทำดีบุญมีเอย


จะเห็นว่าความมีกัลยาณมิตรด้วยความเมตตาซึ่งกันและกันระหว่างสมเด็จพระสังฆราชฯ และ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล ตามข้างต้นนั้น เป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง เพราะ "เมตตา" เป็นข้อแรกที่สำคัญของพรหมวิหาร ๔  ที่เราพุทธศาสนิกชนคนไทยจะต้องมีให้กันมากๆ ดังนั้น เมื่อเราทุกคนเป็นกัลยาณมิตรกันแล้วต้องมอบเมตตาและมีเมตตาให้กันและกันมากๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป ดังนี้ 
กัลยาณมิตร  เมตตาจิตคิดเรื่องดี
เมตตาให้มากมี  ส่งผลดีมีต่อกัน 

ข้อแรกพรหมวิหาร  จิตประสานส่งให้กัน
เมตตาที่สร้างสรรค์  จะสุขสันต์ปันส่งบุญ

เมตตาค้ำจุนโลก ไม่ทุกข์โศกมีเกื้อกูล
เมตตาย่อมเป็นคุณ  ได้เจือจุนบุญต่อไป

เริ่มต้นจิตเมตตา  ธรรมนำพามาสู่ใจ
ค่อยทำทุกวันไป  จะสุขใจทุกเช้าเย็น

เมตตากันทุกคน  เกิดเป็นคนจิตบำเพ็ญ
เมตตาไม่ยากเย็น  จิตต้องเห็นธรรมเข้ามา

แค่ยิ้มเริ่มต้นได้  ยิ้มจากใจได้เมตตา
ลองทำทุกเวลา  เกิดคุณค่าในจิตใจ

เมตตาน้อมดวงจิต  เนรมิตขึ้นทันใด
เมตตานั้นยิ่งใหญ่  ต้องทำไว้ได้บุญเอย

ปภาวีร์ 
๑๙​ กรกฎาคม ๒๕๕๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น