วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ จิตไม่สงบมีแปดประการ"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ จิตไม่สงบมีแปดประการ" เชื่อว่ามนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราต้องเคยจิตไม่สงบอย่างแน่นอนกันทุกท่าน เพราะอะไรนั้นคิดว่าทุกท่านทราบกันดีว่าทำไมถึงจิตไม่สงบ อย่างไรก็ตาม ลองชมและฟังท่านหลวงพ่อจรัญได้เมตตาเกี่ยวกับเรื่องจิตไม่สงบมีแปดประการ ตาม YouTube ต่อไปนี้ 


"...จิตไม่สงบมีแปดประการ
๑. มีไม่พอ...
๒. ใช้เวลาว่างเกินไป...
๓. ถูกเบียดเบียนจิตใจ...
๔. อวัยวะไม่ตั้งอยู่ในความปกติ...
๕. โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน...
๖. สิ่งแวดล้อมดึงไปในทางชั่ว...
๗. ครอบครัวไม่มีความสุข... 
๘. มัวเมาทางอบายมุข...
..."

ท่านหลวงพ่อจรัญได้บอกสาเหตุของการที่จิตไม่สงบไว้แปดประการข้างต้น คงจะเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะค้นหาว่าตัวของเราเองในขณะนี้ปัจจุบันนี้เดี๋ยวนี้จิตสงบหรือไม่อย่างไร ไม่สงบเพราะข้อใด เมื่อพบแล้วก็คงต้องรีบแก้ไขให้จิตสงบได้อย่างรวดเร็วเท่าไรยิ่งจะเป็นผลดีต่อของตัวเราอย่างแน่นอนในที่สุด

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑​ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตากรุณาชี้แนะแนะนำเพื่อการแก้ไขปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นดังต่อไปนี้

เมื่อจิตไม่สงบ  ต้องค้นพบให้จงได้
รีบเร่งเร็วแก้ไข  สงบใจได้ยิ่งดี 

หากว่ามีไม่พอ  ตัดตัวออพอทันที
เวลาว่างย่อมไม่ดี  ธรรมะมีที่จิตใจ

อวัยะหากไม่ดี  นำชีวีไม่ปลอดภัย
ถูกเบียดเบียนจิตใจ  ทุกข์ฤทัยเป็นประจำ

โรคภัยก็เบียดเบียน  ต้องหมั่นเพียรจิตมีธรรม
สิ่งแวดล้อมตัวนำ   ชั่วอย่าทำนำความทุกข์

จิตใจอย่าหมองเศร้า  ไม่มัวเมาอบายมุข
ครอบครัวไม่มีสุข  ไม่สนุกอย่างแน่นอน

จิตใจต้องสงบ  แล้วจะพบประสบพร
ธรรมะมีทุกตอน   "พอ" มาก่อนตอนนี้เอย

ปภาวีร์ 
๑​ กรกฎาคม ๒๕๕๘

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงปู่ชา สอน คนไม่พอ"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงปู่ชา สอน คนไม่พอ" ท่านหลวงปู่ชาได้มีเมตตามอบคติธรรมคำสอนเกี่ยวกับ "คนไม่พอ" นับได้ว่ามีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับพุทธศาสนิกชนคนไทยในปัจจุบัน ลองฟังจาก YouTube ต่อไปนี้ 

"...ไม่มีคนรวย มีแต่คนทุกข์ 
คนพอแล้วก็ยังไม่มี มีแต่คนไม่พอ
...แต่ว่ายังไม่พอสักคนหนึ่ง 
คนรวยแล้วก็คนอื่นเขาว่า ที่ตัวเองก็ว่าไม่รวย
ในเมืองอุบลฯ​นี่ นอกจากเมืองอุบลฯ ในนี่ไปถึงเมืองนอก
อาตมาก็ยังไม่เห็นคนรวย เหลือแต่คนยังไม่พอ
คนไม่พอนี่เยอะไป 
คนพอไม่ค่อยจะมี 
อันนี้เป็นเพราะอะไร 
เป็นเพราะเราไม่พิจารณาสิ่งที่ปัจจุบันมันเกิดขึ้นมานี้..."

คติธรรมคำสอนเรื่อง "คนไม่พอ" ของท่านหลวงปู่ชาข้างต้น หากว่าเราทุกคนลองพิจารณาอย่างที่ท่านหลวงปู่ชาได้กรุณาเมตตาไว้ เชื่อว่าจะเกิดผลดีอย่างแน่นอน แต่ก็คงจะเป็นเรื่องยากที่ตราบใดเรายังเป็นมนุษย์ทำมาหาก่อนเลี้ยงชีพที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ  อย่างไรก็ดี หากว่าเราลอง "พอ"​ ในสักเรื่องสักอย่างก็นับว่าจะดีมิใช่น้อย ไม่เชื่อคงต้องลองปฏิบัติกันดูแล้วจะรู้ว่ามันดีอย่างยิ่ง

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ​๑๑​ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตากรุณาชี้แนะเพื่อการปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไปดังนี้

คนรวยอาจไม่มี  แต่คนดีมีแน่นอน
ทำดีอย่าตัดรอน  ทำดีก่อนพรเข้ามา

คนไม่พอเยอะไป  ลองถามใจให้ค้นหา
พอแล้วย่อมมีค่า  สุขอุราอย่างมั่นคง

คนพอไม่ค่อยมี  หากธรรมดีมีจิตปลง
ชีวิตจะยืนยง  ธรรมดำรงคงที่ใจ

พอได้ก็ต้องหยุด  ธรรมให้สุดจุดยิ่งใหญ่
สั่งพอด้วยจิตใจ  พอให้ได้ใจสุขจริง

ต้องคิดปัจจุบัน  สั่งจิตพลันพอทุกสิ่ง
จิตใจสงบนิ่ง  พอให้ยิ่งอิงด้วยธรรม

ความพออยู่ที่ไหน  จะถามใครใจน้อมธรรม
ฝึกพอเป็นประจำ  ลงมือทำนำสุขเอย

ปภาวีร์ 
๓๐​ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ร่างกายตอนฝัน"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ร่างกายตอนฝัน" เชื่อว่าพุทธศาสนิกชนคนไทยทุกท่านจะต้องเคยฝันกันทุกคน ซึ่งอาจจะจำความฝันได้หรือไม่ได้ อันนี้คงแล้วแต่ละบุคคลคนนั้นๆๆ ว่าท่านจะเป็นอย่างไรในความฝันของท่าน  ขอเรียนเชิญทุกท่านลองชมและฟัง YouTube ต่อไปนี้ 



"ร่างกายที่เราฝันตอนนอนหลับ....
ไอ้ตัวที่ฝันไปนี่ คือ ตัวเราจริง
ขณะที่เราฝันร่างกายมันนอนเฉยๆ นอนอยู่ที่เดิม
แต่รู้สึกว่าไปโน้นไปนี้ได้ นี่คือเรา
.... 
ถ้าเวลานั้นจิตใจเกาะบาป บาปก็จะพาไปสู่อบายภูมิ....
ถ้าจิตใจเกาะความดีส่วนที่บุญกุศลมีทานมีศีลเป็นต้น และภาวนา อย่างนี้ไปเกิดเป็นเทวดาบ้าง เป็นพรหมบ้าง ถ้าจิตสะอาดถึงที่สุดก็ไปถึงนิพพาน"

จะเห็นว่าร่างกายของเราเมื่อตอนเรานอนฝันนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ ดั่งที่ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้กล่าวไว้ข้างต้น  ด้วยเหตุนี้ เมื่อเรานอนต่อไปคงจะต้องทำจิตให้สงบ คิดถึงบุญกุศล ทาน ศีล ภาวนา ที่เราเคยทำมา เพราะไม่แน่ว่า เราอาจจะนอนแล้วไม่ตื่นก็เป็นได้ 

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดกรุณามีเมตตาพิจารณาชี้แนะเพื่อการปรับปรุงพัฒาต่อไปดังนี้

ร่างกายนอนตอนฝัน  ไปไหนกันทันหรือไม่
ตัวเราล่องลอยไป  จิตของใครไปไหนดี

จิตใจเกาะแต่บาป อาจลำบากในชีวี
ตายไปอเวจี  ภพไม่ดีมีที่ใจ

ฝันไปในทุกคืน  จิตระรื่นชื่นฤทัย
ฝันดีบุญที่ใจ ย่อมได้ไปในภพดี

คิดถึงบุญกุศล  ฝันทุกคนในคืนนี้
ทานศีลบารมี  ฝันจะดีมีความสุข

จิตใจต้องสะอาด  จะสามารถขจัดทุกข์
บางครั้งฝันไม่สนุก  คงต้องปลุกลุกขึ้นมา

จิตสะอาดที่สุด  ธรรมอย่าหยุดยิ่งมีค่า
นิพพานในทันตา  ภาวนาอย่าหยุดเอย

ปภาวีร์
๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ ครูสอนวิชาพุทธศาสนา"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ ครูสอนวิชาพุทธศาสนา"  ท่านหลวงพ่อจรัญได้กล่าวถึงความสำคัญของครูสอนวิชาพุทธศาสนา  จึงอยากจะเชิญชวนพุทธศาสนิกชนคนไทยทุกท่านได้ลองชมและฟังจาก YouTube ต่อไปนี้



"...​ทำไม่ได้ ไปสอนเขาได้อย่างไร ...
ต้องรู้จริง ต้องแสดงพฤติกรรมออกมาให้เขาเห็น
ว่านี่เป็นครูสอนพระพุทธศาสนา ต้องมีกิจกรรม
ครูสอนพุทธศาสนาต้องมีกิจกรรม ๔​ ประการ...
...​ต้องศึกษาให้ลึกซึ้ง
...ต้องปฏิบัติได้
...​ต้องเป็นแบบอย่าง
...​ต้องพัฒนา...​"

คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญตามข้างต้นนั้น หากว่าคุณครูที่สอนพระพุทธศาสนาได้ลองฟังหลายๆ รอบ เชื่อว่าจะเกิดผลดีต่อการสอนการพัฒนาวิชาศีลธรรมวิชาพุทธศาสนาอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อเด็กนักเรียนได้เข้าใจพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงแล้ว คงจะทำให้เกิดสิ่งดีๆ ต่อครอบครัว ต่อสังคมและประเทศชาติในที่สุด

เป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี  ๑๑​ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตาชี้แนะแนะนำเพื่อการพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นดังต่อไปนี้ 

พุทธศาสนา ต้องศึกษาค้นให้ดี
ครูสอนต้องรู้ดี เป็นคนดีธรรมนำใจ

ครูสอนให้ลึกซึ้ง เป็นที่พึ่งนักเรียนได้
สอนธรรมให้เข้าใจ เหนือสิ่งใดต้องรู้จริง

ครูสอนเป็นต้นแบบ ใจไม่แคบไม่เย่อหยิ่ง
ครูสอนรู้ทุกสิ่ง สงบนิ่งยิ่งสอนดี

ครูปฏิบัติธรรม จิตต้องนำในเรื่องดี
ครูสอนเป็นคนดี ส่งผลดีต่อนักเรียน

ครูสอนตั้งใจสอน ไม่หยุดหย่อนและพากเพียร
ศึกษามีแบบเรียน คอยย้ำเตือนเป็นประจำ

ครูสอนสอนด้วยจิต เพื่อลูกศิษย์จิตมีธรรม
ครูดีศิษย์น้อมนำ เข้าใจธรรมอย่างดีเอย

ปภาวีร์
๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ท่านพุทธทาสภิกขุ พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ท่านพุทธทาสภิกขุ พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์" คติธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุเกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์และพุทธศาสนานับว่าเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ควรจะต้องศึกษาอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเรื่องของธรรมชาติ  ลองฟัง YouTube ต่อไปนี้

https://www.youtube.com/watch?v=IMYrDVjGGwo
“... หลักพระพุทธศาสนานั้นตรงกับหลักวิทยาศาสตร์ของธรรมชาติของธรรมชาติ  ธรรมชาติกำหนดไว้ว่าการกระทำนั้น ต้องมีปัญญามาก่อนและมีเจตนา แล้วก็มีการกระทำ...”

ในปัจจุบันเรื่องของวิทยาศาสตร์ต่างได้รับการนิยมชมชื่นในการศึกษาหาความรู้ ซึ่งคงจะเป็นอย่างที่ท่านพุทธทาสภิกขุได้กล่าวไว้ข้างต้น คือ ต้องมีปัญญามาก่อนและเจตนา แล้วค่อยจะมีการกระทำตามมาในที่สุด  แต่ปัญญาว่าทำอย่างไรที่จะให้มีปัญญามาก่อน  เป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนคนไทยและนักวิทยาศาสตร์ที่คงจะต้องศึกษาเพิ่มเติมให้ได้ว่า "ทำอย่างไรที่จะมีปัญญามาก่อน

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดกรุณาเมตตาแนะนำเพื่อการพัฒนาปรับปรุงต่อไปดังนี้

ปัญญาต้องมาก่อน อย่าตัดรอนต้องให้มี
เจตตาก็ต้องมี  ให้มากมีดีในธรรม

เรื่องวิทยาศาสตร์  ธรรมชาติน่าจดจำ
ศึกษาเป็นประจำ  จิตน้อมธรรมเข้าหากัน

วิทยาศาสตร์ดี นำชีวีให้สุขสันต์
ทุกอย่างล้วนผูกพัน  ต้องสร้างสรรค์ธรรมให้มี 

ปัญญาทำอย่างไร  ต้องใส่ใจให้รู้ดี
ธรรมะเป็นของดี  ขอให้มีดีทุกคน

เจตตาตั้งใจดี   ส่งผลดีที่กมล
บุญกรรมเป็นของตน  ต้องอดทนสนทำดี

ธรรมะธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ต้องให้ดี
ปัญญาคิดให้ดี  บุญกรรมดีแน่นอนเอย
  ปภาวีร์
๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๘
FB : ธรรมะเพื่อชีวิต โดย ปภาวีร์

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "จิตอยู่ที่พระ หลวงตาม้า (ศิษย์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ) "

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "จิตอยู่ที่พระ หลวงตาม้า (ศิษย์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)"  เชื่อว่าหลายท่านคงจะรู้สึกหลวงตาม้าเป็นอย่างดี ซึ่งท่านหลวงตาม้าเป็นลูกศิษย์ของท่านหลวงปู่ดู่ พรหมปัญญา  โดยคติธรรมคำสอนของหลวงตาม้า สั้นๆ คือ "จิตอยู่ที่พระ"  จึงขอเชิญชวนทุกท่านได้ลองฟังจาก YouTube ต่อไปนี้



"จิตอยู่ที่พระ...
ทำจริงๆ สามปี...
ทำทุกวัน...
นานเข้าเราเห็นพระ... จิตมีความรู้สึก...
เริ่มคิดดีมากขึ้นไปเรื่อยๆ เกิดจากเรานึกถึงพระบ่อยๆ ..."

ดังนั้น หากว่าพุทธศาสนิกชนคนไทยทุกท่านลองปฏิบัติตนสนใจให้จิตอยู่ที่พระ เชื่อว่าจะเกิดผลดีตามคำสอนข้างต้นอย่างแน่นอน  และที่สำคัญหากเริ่มได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย ก็ยิ่งน่าจะดีเป็นอย่างมาก

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตากรุณาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนาดังนี้

ฝึกจิตอยู่ที่พระ   มีมานะดีแน่นอน
ฝึกบ่อยย่อมได้พร  อย่าตัดรอนลองทำดู

ทำจริงทำทุกวัน  จิตคงมั่นหมั่นแลดู
ธรรมะต้องเชิดชู  ไตร่ตรองดูรู้ที่ใจ

นานเข้าเราเห็นพระ  ตั้งจิตตะดีเข้าไว้
เริ่มคิดดีเรื่อยไป  สุขฤทัยอย่างมากมี

พระอยู่ที่จิตเรา  เรื่องความเศร้าจากชีวี
ทำจริงในสามปี  เกิดผลดีมีที่ตน

เมื่อจิตอยู่ที่พระ  ย่อมชนะจิตของตน
ภาวนากันทุกคน  อย่างอดทนย่อมได้ดี

จิตมีความรู้สึก  จะคอยนึกแต่เรื่องดี
ทำให้บุญมากมี  นำชีวีมดีแน่เอย

ปภาวีร์ 
๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ แก่แล้วปฏิบัติธรรม?"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ แก่แล้วปฏิบัติธรรม?" คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม (ตอนแก่อายุมาก) เป็นสิ่งที่พุทธศาสนิกชนคนไทยลองฟังจาก YouTube ต่อไปนี้



“...
-แก่แล้วจะมานั่งปฏิบัติไปไม่รอด
-คนที่ดีมีปัญญาจะปฏิบัติตั้งแต่เล็กๆ
-เจริญวัยชันษามา ได้กำไรชีวิตตั้งแต่เล็ก
...”

จะเห็นว่าการปฏิบัติธรรมหากว่าทุกคนลองทำตั้งแต่เล็กๆ เด็กๆ คงจะดีอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่สายสำหรับเราทุกคน เพราะถึงว่าตัวเราอาจจะอายุมากตอนนี้ แต่หากเราเริ่มลงมือปฏิบัติธรรมกันตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ย่อมจะเกิดผลดีเช่นกัน

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดมีเมตตากรุณาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนาต่อไปดังนี้

เรื่องธรรมเป็นเรื่องดี  จะต้องมีตั้งแต่เล็ก
ธรรมะมีตอนเด็ก  เป็นทีเด็ดของชีวิต

ตอนนี้ยังไม่สาย  ยังไม่ตายคงต้องคิด
ปฏิบัติเป็นนิจ  ย่อมได้สิทธิ์เป็นคนดี

ถึงแก่ไม่เป็นไร  อยู่ที่ใจให้มากมี
ธรรมะทำแล้วดี  สุขชีวีมีที่ตน

ต้องเริ่มปฏิบัติธรรม เป็นประจำจิตอดทน
ทำได้กันทุกคน  โดยจิตสนอย่างแท้จริง

ธรรมะนำความสุข ขจัดทุกข์ในทุกสิ่ง
จิตใจสงบนิ่ง  สุขอย่างยิ่งจริงแน่นอน

ยิ่งเล็กเด็กมีธรรม  จิตน้อมนำย่อมได้พร
ธรรมะอย่าตัดรอน  ขอลาจรจากทุกข์เอย

ปภาวีร์ 
๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "เรื่องของบารมี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "เรื่องของบารมี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ"  คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำในครั้งนี้เกี่ยวกับ "บารมี" เป็นคำสอนที่สามารถรับฟังได้จาก YouTube ต่อไปนี้ 

https://www.youtube.com/watch?v=tJqTopA6Vf8&feature=youtu.be



โดยผู้เขียนคิดว่ามีคำสำคัญ (key word) ประกอบด้วย 
บารมีคือกำลังใจเต็ม, ร่างกายเป็นบ้านเช่า, ร่างกายไม่เคยตามใจเรา, สัมพเกษี, สร้างบารมีเพื่อไป, ขีณาสพ.

หากว่าท่านผู้อ่านไม่เชื่อคงจะต้องลองฟังอย่างมีสติและสมาธิ แล้วจะได้ทราบว่า "บารมี" คืออะไรกันแน่ แล้วจะทำอย่างไรที่จะทำให้ตัวเรามีบารมี 

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกลอน ๘ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดมีเมตตากรุณาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนา ดังนี้ 

บารมี มีได้ ใจต้องสร้าง
เป็นหนทาง ร่างก่อ ต่อภายหน้า
บารมี ดีจริง ยิ่งนำพา
เกิดคุณค่า พารู้ สู่นิพพาน

กำลังใจ ให้เต็ม บำเพ็ญเพียร
ต้องหมั่นเพียร เรียนรู้ สู่ชำนาญ
บารมี ที่ตัว กลัวไม่นาน
ประสบการณ์ สานก่อ ต่อเรื่องดี

ตัวกับจิต คิดใหม่ ให้เกิดผล
เกิดเป็นคน ค้นหา บารมี
ต้องเข้าใจ ใฝ่ฝึก นึกเรื่องดี
บารมี มีแน่ แท้จริงเอย

ปภาวีร์ 
๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๘
FB : ธรรมะเพื่อชีวิต โดย ปภาวีร์

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ ยกย่อง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ ยกย่อง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ"  คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญจากหนังสือ "ชนะใจตน ชนะคนทั้งโลก"  หน้า ๑๔๘ (ISBN : ๙๗๘-๖๑๒-๗๒๐๘-๒๗-๕) ดังนี้ 

"... คนที่จะได้ดิบได้ดีนั้น มีความสุขต้องเกิดจากความทุกข์ ต้องระทมขมขื่นมาก่อน หนักก็เอาเบาก็สู้ ความรู้ก็ดี พอไปตั้งหลักฐานก็จะอดทนต่อสู้ต่อไป เดี๋ยวนี้ผู้ปฏิบัติธรรมไม่ใช่ผู้ดีหรอก ผู้ดีต้องมีระเบียบแบบแผนผู้ดีต้องเลี้ยงง่าย ไปบ้านใครก็ไม่ถือตัว บ้านนั้นก็มีเฉพาะน้ำปลาร้ากับน้ำพริก ไม่ถือตัว

ดูง่ายๆ ยกตัวอย่างให้เห็น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ข้าราชบริพารในสำนักพระราชวังที่ตามเสด็จไปเล่าให้อาตมาฟัง เสด็จเมืองจีน เมืองจีนเอาตุ๊กแกมาให้เสวยก็เสวยได้ เขาให้ยังไงเอาอย่างนั้น เสวยอย่างนั้น ถึงเข้าจิตเข้าใจกัน ได้รู้จิตรู้ใจกันได้ ถึงจะเป็นเพื่อนที่ดี เป็นมิตรภาพที่ดีออกไปแบบนั้น"



ที่มาของ รูปภาพ http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=4&qid=41594

จะเห็นว่าคติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญข้างต้นนั้น เกี่ยวกับการเป็นผู้ดีต้องมีระเบียบแบบแผน ผู้ดีต้องเลี้ยงง่าย ไม่ถือตัว  ซึ่งผู้ปฏิบัติธรรมโดยทั่วไปคงจะทราบกันเป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อไรก็ตามที่เราไม่ถือตัว ง่ายๆ คงจะต้องดีอย่างแน่นอน

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑​ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตากรุณาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนาต่อไปดังนี้

เข้าจิตเข้าใจกัน  ย่อมสร้างสรรค์เป็นสิ่งดี
ไม่ถือตัวเรื่องดี  เป็นผู้ดีที่มีธรรม

รู้จิตรู้ใจกัน  เรื่องสุขสันต์ยิ่งต้องทำ
ง่ายๆ เป็นประจำ  ยิ่งสุขล้ำนำสู่ใจ

มิตรภาพที่ดี  เพื่อนที่ดีช่างยิ่งใหญ่
ธรรมะง่ายเข้าไว้  ไปบ้านใครไม่ถือตัว

ผู้ดีต้องเลี้ยงง่าย  ไม่เดียวดายไม่ต้องกลัว
ธรรมะอยู่ในตัว  ดีหรือชั่วตัวรู้เอง

ผู้ดีมีระเบียบ  ไม่เปรีบบเทียบไม่อวดเก่ง
จิตใจไม่นักเลง  ไม่กลัวเกรงการทำดี

มิตรภาพแท้จริง  ธรรมะยิ่งให้มากมี
ง่ายไว้ในทันที  ส่งผลดีมีสุขเอย

ปภาวีร์ 
๒๓​ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ฝรั่งถาม หลวงปู่ชาตอบ เรื่องพระนิพพาน"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ฝรั่งถาม หลวงปู่ชาตอบ เรื่องพระนิพพาน" การถามตอบดังกล่าวนับว่าเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง จึงอยากจะเชิญชวนพุทธศาสนิกชนคนไทยลองชมและฟังจาก YouTube ต่อไปนี้ 

หลวงปู่ชา : ถ้าห่วงก็ไปนิพพานไม่ได้นะซิ ต้องภาวนาไม่ให้ห่วงพระนิพพาน ถ้าห่วงพระนิพพานก็ไปไม่ได้ ไปพระนิพพานไม่ได้

คำถาม : ฉะนั้น  พระควรจะมีมุ่งหมายอย่างไร ครับ
หลวงปู่ชา :  มีความมุ่งหมายทางการปล่อยวาง

คำถาม : ฉะนั้น ต้องปล่อยวาง แต่ว่าไม่ควรจะปรารถการปล่อยวาง
หลวงปู่ชา : ปรารถนาไม่ได้ ปล่อยวาง ปล่อยวางไม่ปรารถสิ่งใดทั้งนั้น ว่าง หมด ถ้ามีอยู่ก็ไม่ใช่พระนิพพานนะซิ

จากการสนทนาธรรมข้างต้นนั้น จะเห็นว่าคำถามและคำตอบเป็นส่ิงที่เราทุกคนลองพิจารณาใช้สติไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน เชื่อว่าหลายๆ ท่านจะเข้าใจยิ่งขึ้นเกี่ยวกับคำว่า "พระนิพพาน"​ ที่หลวงปู่ชาได้มีเมตตาตอบเป็นคติธรรมคำสอนที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง 

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑​ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตาชี้แนะเพื่อปรับปรุงต่อไปดังนี้ 

คำถามจะต้องตอบ ต้องขอบอกตอบถูกใจ
พระนิพพานอย่างไร  รู้หรือไม่ในใจเรา

ถ้าห่วงไปไม่ได้ ไม่ว่าใครใจย่อมเศร้า
เรื่องนี้ไม่ควรเดา  มาพวกเราต้องลองทำ

จิตใจต้องปล่อยวาง เป็นหนทางย่างสู่ธรรม
ปล่อยวางให้ประจำ  น้อมจิตนำว่างหมดไป

ธรรมะจิตประสาน  พระนิพพานต้องการไป 
ปรารถนาไม่ได้  ปล่อยวางใจให้หมดลง

พระสงฆ์มีมุ่งหมาย  หญิงหรือชายก็ต้องปลง
จิตใจต้องวางลง  ธรรมมั่นคงตรงที่ใจ

พระนิพพานว่างหมด  ย่อมเป็นกฎที่ยิ่งใหญ่
ไปได้ย่อมสุขใจ ตลอดไปนิรันดร์เอย

ปภาวีร์ 
๒๒​ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่อง พระพุทธเจ้าสอนพระอานนท์ทำน้ำมนต์"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่อง พระพุทธเจ้าสอนพระอานนท์ทำน้ำมนต์" คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำเกี่ยวกับเรื่องของ "น้ำมนต์"​ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "น้ำ Water สำคัญอย่างไร")​  และขอเชิญทุกท่านลองฟังท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จาก YouTube ต่อไปนี้


พระพุทธเจ้าสอนพระอานนท์ทำน้ำมนต์
“เธอจงเรียนรัตนสูตร...
 เดินไปบริกรรมรอบๆ...
 เอาบาตรของ  พระพุทธเจ้าใส่น้ำ... 
 อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ๓๐ ทัศ...”

สำหรับเรื่องน้ำนั้นเป็นส่ิงที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะน้ำที่ถูกคลื่นเสียงที่เปล่งออกมาอย่างอ่อนโยนมีเมตตา ย่อมจะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในน้ำดังกล่าวได้ (อ้างอิง)​ ซึ่งจะเหมือนกับน้ำมนต์ที่พระอริยสงฆ์ได้เมตตาประกอบเอาไว้ด้วยพลังเสียงและพลังจิตที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง  ดังนั้น คงเป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนคนไทยที่จะต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว (จงอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ)​ 

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑​ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้โปรดเมตตาชี้แนะเพื่อการปรับปรุงพัฒนาดังต่อไปนี้

หลายท่านอาจไม่เชื่อ อย่าพึ่งเบื่อเรื่องแบบนี้
น้ำมนต์เป็นของดี  เข้าใจดีค้นข้อมูล

น้ำนั้นสำคัญยิ่ง  เป็นความจริงยิ่งเพิ่มพูน
ดื่มกินทวีคูณ  เพื่อเจือจุนหนุนร่างกาย

ในน้ำมีพลัง  เพิ่มความขลังอย่าท้าทาย
น้ำมนต์ไม่จำหน่าย อย่าเสียดายทดลองดู

พลังเสียงมีเมตตา  ย่อมนำพาให้เรียนรู้
พลังจิตมีควรคู่  ธรรมเชิดชูสู่น้ำมนต์

น้ำนั้นบริสุทธิ์  นำความสุขให้ทุกคน
น้ำดีจากสายชล  สู่ผู้คนพ้นทุกข์ใจ

น้ำมนต์จะมีค่า ธรรมเข้าหาอย่างจริงใจ
น้ำมนต์ดีหรือไม่ อยู่ที่ใจของเราเอย

ปภาวีร์ 
๒๑​ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ท่านพุทธทาสภิกขุ ปัญญามาก่อนเสมอ"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ท่านพุทธทาสภิกขุ ปัญญามาก่อนเสมอ" คติธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ ลองฟังจาก YouTube ต่อไปนี้


“...การปฏิบัติงานใดๆ ทางโลก โลกก็ตาม ทางธรรม ธรรมก็ตาม ต้องให้ปัญญามาก่อนเสมอไป...”

คติธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุข้างต้นเป็นข้อคิดข้อเตือนใจในการทำงานของพุทธศาสนิกชนคนไทยในทุกระดับ ให้ใช้ "ปัญญา" ในการปฏิบัติ ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะยาก อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเราเป็นมนุษย์คงจะต้องฝึกและใช้ปัญญาให้มากที่สุด เพื่อจะได้ประสบพบกับความสุขอย่างแท้จริง

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑​ ไว้เพื่อให้ท่านผู้อ่านมีเมตตาชี้แนะเพื่อการปรับปรุงพัฒนาดังนี้ 

การปฏิบัติงาน จิตประสานธรรมนำพา
ทางโลกเกิดปัญหา ใช้ปัญญาแก้ลงได้

ทางโลกหรือทางธรรม  จิตน้อมนำทำให้ได้
ทุกอย่างแก้ไขได้  จะต้องใช้ในปัญญา

ต้องเริ่มมีสติ  สมาธิทุกเวลา
จิตนิ่งเกิดปัญญา แก้ปัญหาสำเร็จพลัน

การงานย่อมยุ่งยาก จิตสามารถมากสร้างสรรค์
ปัญญาอย่างครบครัน  เกิดสุขสันต์ในทันที

ทางธรรมหรือทางโลก เกิดประโยชน์ในเรื่องดี
ปัญญาเกิดมากมี  นำชีวีมีด้วยธรรม

ชีวิตคู่ปัญหา ใช้ปัญญาเป็นผู้นำ
สุขกายใจประจำ  เพราะมีธรรมปัญญาเอย


ปภาวีร์
๒๐​ มิถุนายน ๒๕๕๘


วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ คาถาชินบัญชรสมเด็จโต"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ คาถาชินบัญชรสมเด็จโต" คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญเกี่ยวกับคาถาชินบัญชร ซึ่งหลายท่านคงจะทราบกันดี อย่างไรก็ตาม ลองชมและฟังจาก YouTube ต่อไปนี้ 



"...ส่วนมากจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่นิยมสวดชินบัญชรกันมาก แต่อย่าลืมว่าชินบัญชรนิ สมเด็จโตท่านสวดบูชาพระอรหันต์ชั้นสูง...
 ถ้าคนไหนมีธรรมะหรือบูชาพระอรหันต์ บูชาพระพุทธเจ้าได้แล้ว สวดได้แน่ ดีด้วย..."

หากทุกท่านได้ชมและฟังท่านหลวงพ่อจรัญได้มีเมตตาธรรมกล่าวไว้ข้างต้นเชื่อว่าจะทำให้หลายๆ ท่านได้เข้าใจซาบซึ้งถึงการสวดคาถาชินบัญชรอย่างแน่นอน  ไม่ลองกับตัวเองก็คงจะไม่ทราบไม่รู้ ดั่งนั้น ก็คงจะเป็นเรื่องของแต่ละท่านจะได้พิจารณากันเอาเอง

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑​ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้มีเมตตาเช่นกันในการพัฒนาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนาดังต่อไปนี้

คาถาคืออะไร  เด็กผู้ใหญ่ต่างนิยม
คาถาที่เหมาะสม   จิตชื่นชมสมสุขสันต์

สมเด็จโตท่านสวด อย่างยิ่งยวดสวดทุกวัน
บูชาพระอรหันต์  นิยมกันทุกเพศวัย

คนไหนมีธรรมะ  มีมานะสวดเข้าใจ
สวดแล้วสุขที่ใจ  ขอบอกไว้ดีแน่นอน

บูชาพระพุทธเจ้า จิตต้องเอาธรรมมาก่อน
สวดชินบัญชร  ย่อมได้พรสอนใจตน

ตั้งใจในการสวด จิตควรตรวจอย่างอดทน
สิ่งดีคือสวดมนต์  สุขกมลอย่างแท้จริง

คาถาสมเด็จโต  ตั้งนะโมจิตให้นิ่ง
สวดไปใจสุขยิ่ง  ใจแอบอิงธรรมะเอย 

ปภาวีร์
๑๙​ มิถุนายน ๒๕๕๘

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "กายเจ็บ... แต่อย่าให้ใจเจ็บ (ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ)"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "กายเจ็บ... แต่อย่าให้ใจเจ็บ (ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ)"  เป็นส่วนหนึ่งจากหนังสือดีๆ ของท่าน ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหนังสือดังกล่าว ได้นำเสนอเกี่ยวกับ 
๑. ความคิดจร
๒. ความคิดขยะ
และ ๓. ภาวนา ชนะจิต (ซึ่งเมื่อตอนอ่านเจอคำว่า "ภาวนา ชนะจิต" ทำให้นึกถึงดาราคนที่มีฉายาว่า "ไข่มุกแห่งเอเชีย" เลยทั้งที)  แต่คำว่า "ภาวนา ชนะจิต" จากหนังสือดังกล่าวนี้ นับว่าดีอย่างยิ่ง  ซึ่งต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนจากหนังสือ "กายเจ็บ...แต่อย่าให้ใจเจ็บ" 



"...เป้าหมายในการภาวนา  ชนะจิตของผู้มุ่งที่จะพ้นทุกข์ครับ  พระอริยะเจ้าท่านแยกจิตกับความคิดออกจากกัน เหมือนนํ้ากับนํ้ามัน เหมือนขนมชั้น ส่วนพวกเราจิตผสมกับความคิด เละเป็นสังขยา เละเป็นโจ๊ก ก็เลยมีแต่ทุกข์ เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ..."

"...ดูความคิดจร  และความคิดจรจะเกิดก่อนความคิดขยะ  ซึ่งความคิดจรนี้ดูยาก  เกิดเร็วมากมือใหม่หัดฝึกควรดูความคิดปรุงแต่ง  หรือความคิดขยะนี้ไปก่อน  พอดูคล่องแล้ว  ก็จะดูความคิดจรได้ทันได้ชัดขึ้นครับ  ส่วนพระอริยะเจ้านั้น  ท่านรู้เท่าทันความคิดจรไม่ให้หลุดเข้ามา  และถ้าพลาดหลุดเข้ามา  ท่านก็ไม่ยอมให้จิตกับความคิดจรรวมตัวกัน ผลิตความคิดขยะๆ ออกมาครับ ถ้าเราอยากพ้นทุกข์ ก็เอาเวลาว่างๆ ตอนป่วยนี่แหละศึกษาวิจัยความคิดของตนเอง  หาความคิดจร  ความคิดขยะ  จิตเกิดอาการให้พบ ต้องหานะครับ แค่อ่าน แค่ฟัง อย่านึกว่าจะเจอนะครับ..."

นั่นเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือดีๆๆ ที่อยากจะเชิญชวนทุกท่านได้อ่าน ซึ่งทุกท่านสามารถ Download ได้ที่ Link ต่อไปนี้ 


ผู้เขียนเชื่อว่าเมื่อผู้อ่านได้ Download หนังสือดังกล่าว (และได้อ่านแล้ว อาจจะอ่านหลายๆ รอบ) ทุกท่านจะต้องรู้ว่าในแต่ละวันของเรานั้น มีความคิดจร ความคิดขยะ เกิดขึ้นกับตัวของเรามากมายเหลือเกิน ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้อง "ภาวนา ชนะจิต" ให้ได้  ขออวยพรให้ทุกท่านมีความคิดจร ความคิดขยะให้น้อยลง (และหมดลงไปในที่สุด)

และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ในผู้อ่านทุกท่านได้โปรดเมตตากรุณาพิจารณาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนาต่อไป ดังนี้ 

ถึงแม้ว่ากายเจ็บ  อย่าให้เจ็บที่จิตใจ
ความคิดเกิดเมื่อใด  สุขทุกข์ใจในทันที

ความคิดมีหลายอย่าง ย่อมแตกต่างดีไม่ดี
ความคิดจรไม่ดี  หาวิธีตัดทันใด

ส่วนความคิดขยะ  ต้องลดละออกจากใจ
ความคิดต้องออกไป นิ่งที่ใจให้เป็นนิจ

สติทุกเวลา  ภาวนาชนะจิต
ตั้งใจหยุดความคิด  ตั้งดวงจิตสงบเย็น

กายเจ็บใจไม่เจ็บ  ทุกข์ไม่เก็บให้ลำเค็ญ
ตั้งใจไม่ยากเข็ญ  นิ่งให้เป็นเห็นที่ใจ

ตั้งใจภาวนา  เกิดคุณค่าที่ยิ่งใหญ่
ความคิดหนีห่างไกล  สุขฤทัยใจนิ่งเอย

ปภาวีร์ 
๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๘