วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ : การปลูกสติ "

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ  : การปลูกสติ "   คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญในวันนี้ ท่านผู้อ่านสามารถรับฟังได้จาก YouTube ต่อไปนี้ 



สำหรับคติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญตาม YouTube ข้างต้น ผู้เขียนคิดว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง (หากว่าทุกท่านมีเวลาสามารถฟังหลายๆ รอบ ยิ่งน่าจะทำให้เข้าใจในธรรมมากยิ่งขึ้น)  ซึ่งผู้เขียนคิดว่ามี คำสำคัญ (keyword) คือ ทานมัย ศีลมัย ภาวนามัย ๘ สิ่งที่ทำให้จิตไม่สงบ ซึ่งการปลูกสติน่าจะเป็นสิ่งเริ่มต้นในการที่เราจะทำสิ่งต่างๆ เพราะหากว่าไม่มีสติแล้ว ย่อมไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จในการนั้นๆ ได้อย่างแน่นอน

และเป็นธรรมเนียมที่ก่อนจากกันผู้เขียนจะต้องขออนุญาตมอบฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาพิจารณาแนะนำเพื่อการพัฒนาปรับปรุงต่อไป ดังนี้ 

เริ่มต้นปลูกสติ สมาธิต้องตั้งมั่น
ตั้งจิตให้ขยัน ทุกวี่วันย่อมจะดี

ทานศีลภาวนา ธรรมเข้าหาทุกนาที
ปลูกสติวันนี้ ส่งผลดีให้ตามมา

ทำใจให้สงบ สติครบทุกเวลา
สติภาวนา นิ่งจนกว่าจะพอใจ

ปลูกสติให้มาก อาจลำบากไม่เป็นไร
ฝึกทำกันทุกวัย เด็กผู้ใหญ่ล้วนแต่ดี

ปลูกสติไม่ยาก โดยเริ่มจากจิตคิดดี
สมาธิมากมี นำชีวีพบหนทาง

ทุกอย่างต้องเริ่มต้น เมื่อเป็นคนยังมีร่าง
ค้นพบแสงสว่าง เมื่อสิ้นร่างนิพพานเอย

ปภาวีร์
๑ เมษายน ๒๕๕๘
FB : ธรรมะเพื่อชีวิต โดย ปภาวีร์

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อฤาษีลิงดำเข้าเฝ้าในหลวง"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อฤาษีลิงดำเข้าเฝ้าในหลวง" ผู้เขียนอยากจะเชิญชวนทุกท่านได้รับฟังเสียงธรรมของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำเข้าเฝ้าในหลวง จาก Link YouTube ต่อไปนี้ 


ซึ่งผู้เขียนคิดว่าคติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำจาก YouTube ข้างต้นนี้ น่าจะมีคำสำคัญ (keyword) ดังนี้ 

"อดีตใกล้ปัจจุบัน อันตรายจะมีขึ้นจากสิ่งที่เรารัก ชีวิตมีความหมายน้อยกว่าความดี"


อย่างไรก็ดี คงจะต้องมอบให้ท่านผู้อ่านได้รับฟังกันหลายๆ รอบ ซึ่งอาจจะได้รับคำสำคัญกับชีวิตในคำอื่นๆ ที่มีค่านอกจากคำสำคัญข้างต้น 


แน่นอนว่าอดีตใกล้ปัจจุบันเป็นเรื่องจริงเพราะตราบใดที่เรายังหายใจอยู่ ผ่านอดีตมาย่อมเป็นปัจจุบันในทันนี้ และ อันตรายที่จะมีขึ้นจากที่สิ่งเรารักนั้น ย่อมจะมีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ล้วนไม่จีรังยั่งยืนมีเกิดดับกันเรื่อยไป  และความดีนั้นย่อมเป็นสิ่งทีดี ที่หากว่า "ดี" ย่อมจะดีอย่างยั่งยืนและยิ่งจะดียิ่งๆ ขึ้นไปหากว่าเรายังทำดีอยู่ทุกวินาที นาที ชั่วโมง ทุกวัน ก่อนที่เราจะสิ้นลมไป 


และเป็นธรรมเนียมก่อนที่จากกันไป ผู้เขียนขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาพิจารณาชี้แนะแนะนำเพิ่มเติมเพื่อการปรับปรุง ดังต่อไปนี้ 


อดีตใกล้ปัจจุบัน ทุกทุกวันจนวันตาย
สิ่งรักอันตราย  มีสูญหายตายจากกัน

ความดีกับชีวิต หากลองคิดทบทวนกัน
ความดีทำทุกวัน ปัจจุบันทุกเวลา

มีรักย่อมมีทุกข์ มีสนุกเศร้าอุรา
ทุกอย่างกำหนดมา กรรมผ่านมาสัมพันธ์กัน

ผ่านมาเป็นอดีต ผ่านไปอีกปัจจุบัน
ทำดีย่อมสุขสันต์ ตายไปพลันย่อมไปดี

ชีวิตมีความหมาย หากว่าตายคิดทำดี
ความหมายอาจไม่มี ทำไม่ดีทุกวี่วัน

เมื่อรักต้องปล่อยวาง สู่หนทางทีสุขสันต์
ทุกอย่างดับสูญพลัน เกิดดับกันทุกวันเอย


ปภาวีร์ 
๓๑  มีนาคม ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ : เวียนว่ายตายเกิด เวียนไปเวียนมา"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงพ่อจรัญ : เวียนว่ายตายเกิด  เวียนไปเวียนมา" คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญ เกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด ท่านผู้อ่านทุกท่านสามารถเข้ารับชมและฟังได้ที่ YouTube ข้างล่่างนี้ โดยนาทีที่  ๗.๒๖ 

https://www.youtube.com/watch?v=h0tHsNaQMD4&feature=youtu.be


"... คนเรานะ เกิดมาในสากลโลกนั้น 
เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสาร
ถ้าครั้งในอดีตเคยเป็นญาติกันไปมาหาสู่ต้องมาหากัน..."

"... ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่เคยไปมาหาหาสู่กันครั้งอดีตจะมาพบกันอีกไม่ได้ "เวียนว่ายตายเกิด"

เวียนไปก็เวียนมา เวียนมาแล้วก็เวียนไป เหมือนพัดลม พัดลม พัดลม ลมไม่พัดก็ไม่มีลม เวียนไปเวียนมา ลมก็ไปก็พัดมา พัดมาหาจุดมุ่งหมาย..."


คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญ ตามข้างต้นเกี่ยวกับการตาย การเวียนว่ายตายเกิด วนไปแล้วก็วนมา ซึ่งคนเราทุกคนเมื่อยังไม่หลุดพ้น ก็ย่อมต้องการตาย หากมีบุญ ก็อาจจะกับมาเกิดอีก (แต่จะเกิดเป็นคนหรืออะไร อันนี้คงไม่สามารถทราบได้)  ดังนั้น คงเป็นหน้าที่ที่เราพุทธศาสนิกชนทุกคนจะต้องพิจารณาให้เห็นธรรมดังกล่าวด้วยตัวท่านเอง (ปัจจัตตัง) 

และเป็นธรรมเนียมเช่นเคยที่ก่อนจากกัน ผู้เขียนขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้ให้ความเมตตาในการชี้แนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ดังนี้ 

อันเวียนว่ายตายเกิด ตายหรือเกิดวนต่อไป
เวียนว่ายอยู่เรื่อยไป เหนื่อยหรือไม่ใยหน่อคน

อยู่ในวัฏสงสาร เวียนตายผ่านแล้วกี่หน
ไม่เบื่อกันหน่อคน หนีไม่พ้นวนกลับมา

เวียนวนเหมือนพัดลม ทุกข์ระทมเศร้าอุรา


เวียนไปก็เวียนมา พัดมาหาจุดมุ่งหมาย

หยุดเวียนว่ายตายเกิด ย่อมประเสริฐอย่างมากมาย
เกิดมาย่อมต้องตาย อย่าเสียดายตายไปดี

เกิดมาตายแน่นอน ใครตายก่อนอาจจะดี
ตายไปธรรมมากมี ย่อมไปดีสู่นิพพาน

ลมไม่พัดไม่มี พัดไม่ดีไม่สำราญ
ชีวิตอยู่ไม่นาน ธรรมประสานสู่จิตใจ

หยุดเวียนไปเวียนมา หยุดเวลากันให้ได้
หยุดเวียนมาเวียนไป หยุดที่ใจเรานี้เอย

ปภาวีร์ 
๓๐  มีนาคม ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "BBC สารคดีดีๆ เกี่ยวกับพระไทย"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "BBC สารคดีดีๆ เกี่ยวกับพระไทย" BBC ได้จัดทำสารคดีเกี่ยวกับพระสงฆ์ (ไทย) นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่งที่ทำให้พุทธศาสนิกชนคนไทยได้รับทราบข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่สื่อของประเทศอังกฤษ คือ BBC ได้ให้ความสำคัญ  ซึ่งผู้อ่านสามารถเข้ารับชมข้อมูลดังกล่าวได้จาก YouTube ต่อไปนี้ 

๑. https://www.youtube.com/watch?v=RDT-ozku4vw

๒. https://www.youtube.com/watch?v=qYc1kcf3AsQ




ผู้เขียนเชื่อว่าเมื่อผู้อ่านได้รับชมสารคดีดังกล่าวข้างต้น จะต้องมีคำถามเกิดขึ้นในใจอย่างแน่นอน (ซึ่งคำถามนั้น ผู้อ่านคงจะต้องหาคำตอบเอาเอง) กล่าวสำหรับสารคดี BBC นี้ ทำให้เราได้ทราบว่า ยังมีชาวต่างชาติอีกมากที่ให้ความสนใจในพระพุทธศาสนา "แล้วคนไทยเราละ ?"  

และเป็นธรรมเนียมที่ก่อนจากกันที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตนำเสนอกาพย์ยานี ๑๑ เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาพิจารณาแนะนำ ดังนี้   

เรื่องสารคดี  BBC ได้จัดทำ
เรื่องราวของพระธรรม น่าจดจำทำดีไว้

เรื่องราวหลวงปู่ชา  ล้วนมีค่าที่ยิ่งใหญ่
เรื่องราวของจิตใจ  ศึกษาใจเข้าใจดี

เรื่องภาษาอังกฤษ ทำให้คิดในทางดี
พระไทยสารคดี ย่อมต้องมีดีในธรรม

หลวงปู่ชาสั่งสอน อย่าตัดรอนให้น้อมทำ
ปล่อยวางเป็นประจำ รู้พระธรรมในสักวัน

พระสงฆ์คนต่างชาติ ต่างสามารถศึกษากัน
คนไทยแล้วไงกัน ปล่อยผ่านวันอยู่เรื่อยไป

หลวงปู่ชาสอนธรรม พร้อมตอกย้ำเรื่องจิตใจ
สงบปล่อยวางได้ ยิ่งสุขใจนิพพานเอย


ปภาวีร์ 
๒๙ มีนาคม ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ยกย่องพระธรรมไว้ที่ใจ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ยกย่องพระธรรมไว้ที่ใจ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล"  เกี่ยวกับท่านหลวงปู่บุญมี โชติปาโล 
https://www.facebook.com/LuangPuBoonmee

ซึ่งหนังสือข้างล่างนี้เป็นหนังสือที่ได้จัดทำขึ้นมาเมื่อหลายสิบปีแล้ว ณ​ วัดสระประสานสุข อุบลราชธานี หากว่าท่านใดได้มีโอกาสอ่านนับว่าเป็นบุญวาสนาอย่างยิ่ง 


หนังสือ "ยกย่องพระธรรมไว้ที่ใจ"​ โดยพระครูไพโรจน์ รัตโนบล หรือ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล นับว่าเป็นหนังสือธรรมะที่ทรงคุณค่าอีกเล่มที่พุทธศาสนิกชนอาจจะลองหาโอกาสอ่านกันนะครับ  แน่นอนว่าการที่ยกย่องพระธรรมไว้ที่ใจจะนำมาซึ่งความสุขอย่างยั่งยืนในที่สุด  เพราะ "พระธรรม"​คือ สิ่งที่จริงแท้แน่นอน อันที่จะทำให้เราพบกับทางสว่าง สงบ อย่างนิรันดร์ 

และเป็นธรรมเนียมก่อนจากกันที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกลอน ไว้ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้กรุณาพิจารณาชี้แนะปรับปรุงเพื่อการพัฒนาต่อไป ดังนี้ 

จงยกย่องพระธรรมไว้ที่ใจ 
จะสุขใจทุกสิ่งจริงทุกอย่าง
ยกพระธรรมนำใจไปทุกทาง 
จิตกระจ่างทางธรรมนำความสุข

ยกสิ่งดีที่ทำนำสู่จิต 
ทุกความคิดชิดใกล้ใจไม่ทุกข์
ที่ผ่านมาบางครั้งอาจสนุก 
เป็นความสุขจอมปลอมย่อมไม่ดี

ชีวิตนี้ได้ดีมีพระธรรม 
จิตน้อมนำประจำทำแต่ดี
พระธรรมมากหากไปย่อมไปดี 
นำชีวีมีสุขนิพพานเอย

ปภาวีร์ 
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๘


วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "สมเด็จพระสังฆราช : ใจที่เป็นโรคตัณหา"

ธรรมะเพื่อชีวิต  ตอน "สมเด็จพระสังฆราช : ใจที่เป็นโรคตัณหา"  คติธรรมคำสอนของท่านสมเด็จพระสังฆราช ในเรื่องใจที่เป็นโรคตัณหานับว่าทรงคุณอย่างย่ิง ท่านผู้อ่านสามารถฟังได้จาก  ต่อไปนี้ 

https://www.youtube.com/watch?v=02rSJZlWfgo&feature=youtu.be



ธรรมะเพื่อชีวิต  ตอน สมเด็จพระสังฆราช : ใจที่เป็นโรคตัณหา

“... เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัส
เปรียบเอาไว้ว่า แม้จะได้ภูเขาทั้งลูกเป็น
ทองคำทั้งลูก ก็ไม่พอแก่ตัณหาคือ
ความดิ้นรนทะยานอยาก จะป้อน
ภูเขาทองทั้งลูกนั้นให้แก่ตัณหา
ให้ตัณหาอิ่มพอดังนี้หาได้ไม่
ตัณหายังต้องการภูเขาลูก
ที่สองให้เป็นทองต่อไปดั่งนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้น ใจที่เป็นโรคโรคตัณหาดั่งนี้
แม้จะได้ลาภอะไรมา ก็ไม่อิ่มไม่เต็มไม่พอ
เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสสอนให้รักษาใจนี้นั้น ไม่ให้เป็นโรค...”


คติธรรมคำสอนข้างต้นหากว่าเราพุทธศาสนิกชนคนไทยได้มีสติคิดอ่านหลายๆ รอบแล้ว เชื่อว่าจะต้องพบอะไรบางอย่างอื่นในจิตของท่านเอง (เป็น "ปัจจัตตัง") ดังนั้น ก็พยายามรักษาใจอย่าให้เป็นโรคตัณหาก็แล้วกัน เพราะหากเป็นโรคดังกล่าวแล้ว ไม่รู้่ว่าจะรักษาโรคได้อย่างไร ป้องกันไม่ให้เป็นโรคไว้ดีกว่า 

และก่อนจากกันเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตมอบกาพย์ยานี ๑๑​ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาพิจารณาแนะนำเพื่อการปรับปรุงพัฒนาต่อไป ดังนี้ 

ทุกคนไม่อยากเป็น  ใจที่เป็นโรคตัณหา
ความอยากเหลือคณา ยากรักษาให้หายได้

ตัณหาความทะยานอยาก จะลำบากอยูาเรื่อยไป
ต้องรักษาโรคของใจ  ยิ่งหายไวยิ่งสุขเย็น

โรคอยากไม่มีพอ ทุกข์เพิ่มต่ออย่างที่เห็น
รักษาไม่ยากเย็น ต้องบำเพ็ญธรรมเข้าไว้

ทำใจไม่ให้อยาก จะสามารถรักษาใจ
ตัณหาหมดลงได้ ธรรมเข้าใจให้มากมี

จิตใจที่เป็นโรค ย่อมละโมบยิ่งอยากมี
ต้องหยุดใจเสียที ให่พอดีและพองาม

ตัณหาหมดเพราะธรรม จิตน้อมนำทุกโมงยาม
พอแล้วไม่ติดตาม ไม่ต้องถามอยากต่อไป

ตัณหาหมดสิ้นลง ใจต้องปลงให้จงได้
โรคใจย่อมหายไป สุขยิ่งใหญ่นิรันดร์เอย
  
ปภาวีร์ 
๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต "หลวงปู่ชา ตอน คนไม่รู้จักพระพุทธเจ้า"

ธรรมะเพื่อชีวิต "หลวงปู่ชา ตอน คนไม่รู้จักพระพุทธเจ้า" คติธรรมคำสอนของท่านหลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี เกี่ยวกับเรื่อง "คนไม่รู้จักพระพุทธเจ้า"​หากว่าพุทธศาสนิกชนได้น้อมจิตใจรับฟังด้วยสติอย่างแท้จริงแล้ว ย่อมจะเข้าใจ "เห็นธรรมอันแท้จริง"​ ซึ่งสามารถรับฟังเสียงคติธรรมคำสอนของท่านหลวงปู่ชาได้จาก YouTube ต่อไปนี้ 




“คนไม่รู้จักพระพุทธเจ้า”
“... ถ้าเราเห็นพระพุทธตามเป็นจริง ก็คือเห็นธรรมอันแท้จริง เห็นธรรมอันแท้จริง คือ เห็นพระพุทธตัวจริง ไม่ใช่เห็นแต่พระพุทธปลอม...”


คติธรรมคำสอนดังกล่าวข้างต้น หากฟังหากอ่านกันหลายๆ รอบ เชื่อว่าจะต้อง "เห็นธรรม" อย่างแน่นอน ดังนั้น เป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนทุกชั้้นชนที่จะต้องลองคิดจิตปฏิบัติให้ได้ในเรื่องดังกล่าว 


และเป็นธรรมเนียมของผู้เขียนที่จะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑​ไว้ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้โปรดกรุณาพิจารณาชี้แนะแนะนำเพื่อการปรับปรุงแก้ไขต่อไป ดังนี้ 

เห็นธรรมอันแท้จริง พบความจริงในพระพุทธ
เห็นธรรมสงบสุข หมดสิ้นทุกข์สุขฤทัย

เห็นธรรมปฏิบัติ ได้สมบัติอันยิ่งใหญ่
เห็นธรรมด้วยจิตใจ ย่อมเข้าใจในทางดี

เห็นธรรมต้องตั้งใจ ขยันไว้ทุกนาที
เห็นธรรมนำชีวี สุขฤดีสู่นิพพาน

เห็นธรรมเห็นพระพุทธ ประเสริฐสุดมหาศาล
เห็นธรรมจิตประสาน จิตเชี่ยวชาญสงบเย็น

เห็นธรรมย่อมมีค่า ธรรมนำพาทุกเช้าเย็น
เห็นธรรมไม่ยากเย็น จิตบำเพ็ญทุกคืนวัน

เห็นธรรมในทุกสิ่ง จิตใจนิ่งจิตสร้างสรรค์
เห็นธรรมอย่างครบครัน จะสุขสันต์นิรันด์เอย

ปภาวีร์ 
๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "พระอริยสงฆ์เผชิญวิญญาณ"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "พระอริยสงฆ์เผชิญวิญญาณ" ซึ่งเมื่อปีก่อนผู้เขียนเดินหา CD DVD ปรากฏว่าเจอของดี คือ เป็นหนังสือพูดได้ เรื่อง "พระอริยสงฆ์เผชิญวิญญาณ" ตามรูปภาพดั่งข้างล่างนี้ 


เพื่อเป็นการธรรมทานในการฟังเรื่องราวพระอริยสงฆ์เผชิญวิญญาณ ความลึกลับมหัศจรรย์แห่งพลังจิตที่พระอริยสงฆ์ได้พบเห็นสรรพวิญญาณเป็นเรื่องที่เล่าขานสืบต่อกันมาช้านานเป็นเรื่องที่น่าเรียนรู้ และศึกษาอย่างยิ่ง ดังนั้น ท่านผู้อ่านลองเข้าไปที่ Link ต่อไปนี้ (เนื่องจากมีผู้มีจิตศรัทธาได้ทำไว้)


เชื่อว่าเมื่อทุกท่านได้ลองเข้าไปที่ Link ข้างต้นแล้ว จะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเองไม่มากก็น้อยอันจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาธรรมะต่อไปในอนาคต

และเป็นธรรมเนียมเมื่อจะก่อนจากกันอย่างสุขสันต์ ต้องขอมอบสิ่งดีต่อกันเป็นกาพย์ยานี ๑๑ ให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาพิจารณาแนะนำเพิ่มเติมเพื่อการปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้นดังนี้ 

บางคนไม่ประสงค์ ไม่มั่นคงใจตัวเอง
อาจเพราะใจกลัวเกรง ยังไม่เก่งการพบเห็น

พระอริยสงฆ์ ท่านประสงค์เผชิญเห็น
วิญญาณที่เยือกเย็น ต้องบำเพ็ญเห็นด้วยใจ

มหัศจรรย์แห่งจิต จะนิมิตให้เข้าใกล้
ผีป่าแห่งหนใด ต่างสนใจขอส่วนบุญ

พระอริยสงฆ์ ต่างดำรงธรรมเกื้อหนุน
ผีป่าต่างได้บุญ เป็นพระคุณหนุนไปดี

ตายไปเป็นวิญญาณ ต่างเล่าขานว่าเป็นผี
เป็นคนไม่ทำดี ย่อมเป็นผีวิญญาณร้าย

เป็นคนเข้าหาธรรม เป็นประจำยังไม่สาย
ทำดีไว้ก่อนตาย ชีวาวายได้สุขเอย
 
ปภาวีร์
๒๕ มีนาคม ๒๕๕๘
FB : ธรรมะเพื่อชีวิต โดย ปภาวีร์

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "พาเที่ยววัดเก่าแก่ที่สุดของอุบลราชธานี"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "พาเที่ยววัดเก่าแก่ที่สุดของอุบลราชธานี" ท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านอาจจะยังไม่ทราบวัดที่เก่าแก่ของจังหวัดอุบลราชธานีที่มีอายุกว่า ๒๖๐ ปี คือวัดอะไร ซึ่งตามประวัติของวัดนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๒๙๑  ทั้งนี้ “เมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ประเทศราช" ได้ถูกก่อตั้งเมื่อ  พ.ศ. ๒๓๓๕  (ที่มา ประวัติเมืองอุบลฯ)  โดยการเดินทางไปวัดแห่งนี้สามารถไปตามถนนหมายเลข ๒๐๕๐ จากตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังอำเภอตระการพืชผล  ซึ่งเลยถึงตัวอำเภอตระการพืชผลไปสักหน่อยแล้วจะเจอห้วยถ้ำแข้อยู่ขวามือ และมีถนนซ้ายมือก็เลียวเข้าไปได้เลย  (สามารถดูได้ตามรูปภาพข้างล้างนี้) 

เกี่ยวกับวัดนี้ สามารถดูได้จากข้อมูลดังนี้
Website  : ,  
YouTube : , ,


และเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาพิจารณาชี้แนะเพิ่มเติมดังนี้ 

วัดเกษมสำราญ ยิ่งเบิกบานหากได้มา
วัดเก่าแก่นานมา ต้องค้นหาว่าอย่างไร

เมืองตระกาลพืชผล เมืองอุบลไม่ได้ไกล
มาแล้วจะสุขใจ ว่าทำไมถึงต้องมา

มีพิพิธภัณฑ์ ของสำคัญล้วนล้ำค่า
เที่ยววัดสุขอุรา ธรรมนำพาให้สุขเย็น

วัดนี้ปฏิบัติ เป็นสมบัติที่แลเห็น
ตัวอย่างวัดดีเด่น ทุกเช้าเย็นปฏิบัติดี

ขอเชิญมาเที่ยววัด เที่ยวประหยัดสุขชีวี
ได้ธรรมน้อมทำดี จิตคิดดีสุขกมล

วัดเกษมสำราญ เป็นตำนานเมืองอุบล
ขอเชิญไทยทุกคน มาเที่ยวยลวัดนี้เอย


ปภาวีร์ 
๒๔ มีนาคม ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ตายเพราะโทสะ" คำสอน หลวงพ่อจรัญ

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "ตายเพราะโทสะ" คำสอน หลวงพ่อจรัญ 

คติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญดังกล่าวนี้ สามารถฟังได้ที่ YouTube ต่อไปนี้ 

https://www.youtube.com/watch?v=5GUK-iYM7m8




นาทีที่ ๔๓.๐๙
"บางคนผัวเมีย ทะเลาะกันเคืองกัน
อุตส่าห์พากันขึ้นลงไป
ไอ้ผัวนี่เครียดแค้นมาก
แล้วเมียก็ทะเลาะกันด้วย
ทะเลาะกันไปด้วย ผัวขับรถไปด้วย
เลยไม่รู้ตัดสินใจกันอย่างไงไม่ทราบ
ไม่รู้เรื่องอะไร เราไม่ทราบเขา
คนสองคนผู้เมียเคยมาที่วัดนี้
แต่จากความเครียดแค้นกับภรรยา
ภรรยาก็เครียดแค้นสามีในการชู้สาว
เลยก็บอก เราสองคน ขับกันมานี่
เราสองคน ตายด้วยกัน ทะเลาะกันมา
พุ่งเข้าชนรถสิบล้อเลย
ตายทั้งคู่เลย ดุร้ายมากเลยที่ถนนนะ
ตายด้วยอำนาจโทสะ"


หมายเหตุ โทสะ (บาลี: dosa; สันสกฤต: Dvesha) แปลว่า ความโกรธ ความขัดเคือง ความไม่พอใจ เป็นกิเลสอย่างหนึ่งในบรรดากิเลสใหญ่ทั้ง ๓ อย่าง คือ โลภะ โทสะ โมหะ


เอาเป็นว่า ตอนนี้เราทุกคนยังไม่ตาย (แต่ก็ต้องตายในสักวันหนีไม่พ้นกันทุกคนทุกท่าน) ดังนั้น อาจจะต้องลองฝึกตายอย่างไม่มีโทสะ จะได้ตายอย่างมีความสุขกันนะครับ และที่สำคัญต้องฟังคติธรรมคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัญดั่งข้างต้น (หลายๆ รอบยิ่งดี) เชื่อว่าเราทุกคนหากเวลาตายคงจะไม่มีโทสะกันอย่างแน่อน

และเป็นธรรมเนียมก่อนจากลากันไปในวันนี้ ผู้เขียนขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้ให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาพิจารณาแนะนำชี้แนะเพิ่มเติมเผื่อว่าจะได้ปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ดังนี้ 


หากตายเพราะโทสะ คงต้องจะไม่สงบ
เวียนว่ายไม่รู้จบ หลายผ่านภพทุกข์ระทม

ต้องฝึกหยุดโทสะ ด้วยธรรมะน่าชื่นชม
ชีวิตอภิรมย์ ไม่ตรอมตรมสิ้นหมดกรรม

โทสะกิเลสใหญ่ ใจเผาไหม้เป็นประจำ
โทสะดับด้วยธรรม สตินำธรรมนำใจ

โทสะมีความโกรธ มีแต่โทษทุกข์ฤทัย
โทสะไม่พอใจ ปล่อยทิ้งไว้ยิ่งโศกศัลย์

โทสะด้วยขัดเคือง ยิ่งต่อเนื่องไม่สุขสันต์
โทสะหยุดลงพลัน ธรรมให้มั่นประจำใจ

โทสะสิ้นชาตินี้ สู่ภพดีอันยิ่งใหญ่
โทสะหมดสิ้นไป สุขฤทัยไปดีเอย


ปภาวีร์ 
๒๓ มีนาคม ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงตามหาบัว : บริกรรม ทำใจให้สงบ"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงตามหาบัว : บริกรรม ทำใจให้สงบ"  คติธรรมคำสอนของท่านหลวงตามหาบัว สามารถรับฟังได้ที่ YouTube ต่อไปนี้

https://www.youtube.com/watch?v=TD0rYRmOC3U&feature=youtu.be




“... เวลาภาวนาอย่าให้เผลอไปที่ไหนจากคำบริกรรม มีคำบริกรรมผูกมัดจิตใจไว้ และสติเป็นนายควบคุมคำบริกรรมไม่ให้เผลอ...”
“... จิตจดจ่อกับคำบริกรรมนั้นอยู่ตลอดเวลาที่เรานั่งภาวนาอย่าให้เผลอ...”
“... ให้คิดแต่ทางธรรมคือบริกรรมของเราให้แน่นหนามั่นคงอยู่กับใจ มีสติควบคุมอยู่เสมอ นี้คือทางก้าวเดินเพื่อตั้งหลักตั้งฐานแห่งจิตใจในเบื้องต้น ด้วยคำบริกรรมภาวนา ผลจะปรากฏเป็นที่พอใจในเบื้องต้น คือ ความสงบใจ...”

คติธรรมดังกล่าวข้างต้นของท่านหลวงตามหาบัวนับได้ว่าเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง แท้จริงที่เราชาวพุทธทุกคนจะได้พิจารณาน้อมนำคำสอนดังกล่าวลองไปฝึกปฏิบัติกัน ซึ่งนับว่าจริงแท้แน่นอนเป็นคำสอนที่พุทธศาสนิกชนคนไทยหากว่าได้ทำปฏิบัติ ต้องเกิดผลดีอย่างแน่นอน อย่างน้อยที่สุด คือ "ความสงบใจ"  และเช่นเคยเป็นธรรมเนียมที่ผู้เขียนจะต้องขออนุญาตฝากกาพย์ยานี ๑๑ ไว้เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาพิจารณาชี้แนะเพิ่มเติมเพื่อการปรับปรุงต่อไป ดังนี้


ตั้งใจบริกรรม  น้อมพระธรรมสมบูรณ์ครบ
ทำใจให้สงบ ย่อมจะพบแต่สิ่งดี

สติควบคุมได้ สั่งจิตใจนิ่งเสียที
บริกรรมมากมี สงบดีอย่างแน่นอน

ทุกอย่างอย่ามัวเผลอ หลงละเมอเหมือนกันนอน
ตั้งใจอย่าผลัดผ่อน อย่ามัวนอนเป็นประจำ

สติสมาธิ  ให้คิดดีแต่ทางธรรม
ใจปฏิบัติธรรม บริกรรมผูกมัดจิต

ตั้งมั่นภาวนา ทุกเวลาอยู่เป็นนิจ
ตั้งใจวันละนิด สติคิดบริกรรม

ทุกอย่างจะก้าวเดิน จิตเพลิดเพลินในพระธรรม
จิตสั่งให้จดจำ บริกรรมทุกครั้งเอย

ปภาวีร์ 
๒๒ มีนาคม ๒๕๕๘