วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงปู่ขาว อนาลโย"

ธรรมะเพื่อชีวิต ตอน "หลวงปู่ขาว อนาลโย"  สำหรับหลวงปู่ขาว อนาลโย ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีถิ่นกำเนิด ณ เมืองนักปราชญ จังหวัดอุบลราชธานี (สำหรับประวัติของท่าน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ , , ) แต่สิ่งที่ผู้เขียนจะขออนุญาตนำเสนอต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ได้อ่านจากหนังสือเล่มต่อไปนี้ "หลวงปู่ขาว อริยสงฆ์ผู้มั่นคงในศีลและเมตตา" (ผู้อ่านสามารถหาอ่านและซื้อได้ที่ร้านนายอินทร์หรือร้านหนังสือทั่วไป) 



  โดยในหนังสือดังกล่าว ขอรับรองว่าเนื้อหาดีมากๆ  อย่างไรก็ดี สำหรับบทความนี้ ผู้เขียนขอยกคติธรรมคำสอนของท่านหลวงปู่ขาว อนาลโย จากหนังสือมาบางส่วน ดังนี้ 

หน้า ๓๔-๓๕ 
      "โลกเจริญตามความนิยมนั้้นมันเจริญด้วยความโลภ ความอยากได้ไม่มีอิ่มพอ เหมือนไฟได้เชื้อ ซึ่งสุดท้ายก็เผาตัวเองนั่นแล ก่อนอื่นเจริญด้วยความโกรธ ผูกอาฆาตมาดร้ายหมายจองเวร เจริญด้วยราคะตัณหาความคึกคะนองน้ำล้นฝั่งไม่มีความพอดีเป็นฝั่งเป็นฝาปิดกั้นไว้บ้างเลย เจริญด้วยความลุ่มหลงอันเป็นรากฐานแห่งความประมาท ไม่มีประมาณว่าจะรู้สึกเมื่อไร"

ผู้เขียนขออนุญาตเพิ่มเติม
โลกมีความเจริญ ต่างเพลิดเพลินความโลภมาก
ความโกรธผูกอาฆาต ความประมาทที่ลุ่มหลง

ไม่มีความพอดี ไม่มีดีอันมั่นคง
จองเวรโดยไม่ปลง เจริญลงเศร้าชีวี

ตัดอาฆาตและโกรธ ไร้ประโยชน์ในฤดี
จองเวรสิ้นเสียที รับรองดีกันทุกคน

ราคะและตัณหา อย่านำพาสู่กมล
ตัดหมดจะสุขล้น ย่อมหลุดพ้นไปดีเอย
ปภาวีร์

หน้า ๓๗ 
   "ดังนั้นชาวพุทธเราจงพยายามแก้สิ่งมัดตาของมันออก ด้วยการปฏิบัติจิตภาวนาเป็นสำคัญ ให้สติปัญญาเกิดภายในใจ จะพังม่านหรือกำแพงแห่งความืดบอดที่มันปิดไว้ออกได้โดยลำดับ จนหมดสิ้นไป มองเห็นบาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพานอย่างทะลุปรุโปร่งกระจ่างใจ หายสงสัยโดยไม่ต้องมีใครมาบอกแหละ หลังจากนั้นยังจะได้เห็นกลหลอกลวงของกิเลส วิชาต้มตุ๋นของกิเลสได้อย่างชัดเจนหายสงสัย" 

"จงเรียนและปฏิบัติให้ถึงใจ ถึงธรรม อย่ามั่วสุมอยู่ในห้องขังของกิเลส ให้มันกดขี่บังคับและร้องเพลงขับกล่อมให้เคลิ้มหลับไม่มีวันตื่นจากหลังจากหลงอยู่ร่ำไปนัก"

ผู้เขียนขออนุญาตเพิ่มเติม
กิเลสตามต้มตุ๋น ไม่มีทุนบุญกุศล
ชีวิตหลงดิ้นรน เกิดเป็นคนทุกข์ประจำ

ปฏิบัตให้ถึงใจ โดยใส่ใจในเรื่องธรรม
เคลิ้มหลับเป็นประจำ ดีไม่ทำหลงร่ำไป

ตั้งจิตภาวนา มีปัญญาเกิดภายใน
บาปสิ้นหมดกันไป กระจ่างใจสุขสำราญ

มองเห็นบาปนรก สิ่งหนักอกไม่เบิกบาน
มีธรรมใจประสาน ไปนิพพานให้ได้เอย
ปภาวีร์

หน้า ๖๐ 
หลวงปู่ขาว ได้แสดงธรรมเรื่องหลัก ๔ ประการของคนดีเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓ สรุปความได้ว่า
๑. อนุฏฐนิ คือ การไม่โกรธตอบต่อบุคคลโกรธให้เรา
๒. อันนุภิทโธ คือ ความไม่ยินดีในเครื่องสักการะผู้อื่นที่ทำแล้วแก่เรา
๓. อเนญโช คือ การหาความโลภไม่ได้
๔. สัพพธิสโม คือ ความรู้สึกไม่รักไม่ชังใคร มีจิตใจเสมอ เหมือนกันหมด

ผู้เขียนขออนุญาตเพิ่มเติม
ตั้งใจเป็นคนดี จะต้องมีสี่ประการ
ไม่โกรธเป็นคนพาล จิตเบิกบานสุขฤดี

ข้อสองต้องมีตาม ไม่ต้องถามไม่ยินดี
วางเฉยได้ยิ่งดี เป็นวิถีที่ปล่อยวาง

ข้อสามความไม่โลภ หากละโมบย่อมแตกต่าง
ไม่โลภเป็นแบบอย่าง เป็นหนทางที่สร้างสรรค์

ข้อสี่จิตเสมอ ฉันหรือเธอย่อมเหมือนกัน
ไม่รักไม่ชังกัน เสมอกันย่อมดีเอย
ปภาวีร์

       จะเห็นว่าคคิธรรมของท่านหลวงปู่ขาว อนาลโย ข้างต้นหากว่าเราใช้สตินั่งอ่านพิจารณา (มีสมาธิ) ผู้เขียนคิดว่าจะเกิดประโยชน์ต่อชีวิตของคนเราอย่างยิ่ง เพราะอย่างน้อยที่สุด หากว่าเรา "ไม่โกรธ" "ตัดกิเลส" (ได้บ้าง) ย่อมจะนำไปสู่คุณสมบัติของคนดี ๔ ประการข้างต้นได้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่า ทุกอย่างจะต้องใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติ หากเราลงมือฝึกปฏิบัติตั้งแต่วันนี้เวลานี้ ย่อมจะส่งผลดีต่อตัวเราในวันหน้าอย่างแน่นอน ดังนั้น ก่อนจากกันคงต้องขอฝากหนังสือ "หลวงปู่ขาว อริยสงฆ์ผู้มั่นคงในศีลและเมตตา" และเช่นเคยเป็นธรรมเนียมที่จะต้องจากลาด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ดังนี้ 

ผู้มั่นคงในศีล ดีไม่สิ้นมีเมตตา
จิตใจไม่โกรธา ธรรมนำพามาสู่ใจ

ปรานีกรุณา พร้อมเมตตาจะสุขใจ
ศีลนำธรรมนำใจ ไม่ว่าใครเป็นคนดี

หากดีไม่ต้องกลัว เขาว่าชั่วใจเราดี
ศีลธรรมนำชีวี ให้มากมีดีต่อตน

ชีวิตมีความสุข ไม่มีทุกข์ในกมล
ยิ้มแย้มกันทุกคน สุขเหลือล้นสุขสำราญ

ชีวิตจิตคิดดี สุขมากมีและเบิกบาน

มีสุขตลอดกาล ยิ่งยืนนานมีสุขเอย

ปภาวีร์ 
๒๘ มกราคม ๒๕๕๘



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น