วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เรื่องของ ๒ ดวง และเกี่ยวกับ พระ

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้เขียนได้เฝ้าดูปรากฏการณ์ธรรมชาติซึ่งคิดว่าหลายๆ ท่านคงจะทราบกันดีว่าเกี่ยวกับเรื่องของ ๒ ดวง คือ ดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ ผู้เขียนคงจะไม่ลงรายละเอียดของปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าว แต่สิ่งที่ต้องการจะสื่อให้ทุกท่านได้ร่วมกันคิดและร่วมกันเพิ่มเติม นั่นคือ การที่ ๒ ดวง สำคัญกับชีวิตมนุษย์เป็นอย่างมาก "ดวง" เราอาจจะกล่าวถึงสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดเป็นสิ่งที่เรากำหนดไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าหากเป็นไปในทางที่ดีก็มักจะถูกเรียกว่า "ดวงดี" หากตรงกันข้ามก็จะถูกเรียกว่า "ดวงไม่ดี หรือ ดวงซวย" (ซึ่งเราทุกคนล้วนไม่ต้องการ)

ดวงเมื่อนำหน้าอาทิตย์ ก็จะหมายถึง ดวงอาทิตย์ ที่ให้แสงสว่างให้พลังงานในเวลากลางวัน

ดวงเมื่อนำหน้าจันทร์ ก็จะหมายถึง ดวงจันทร์ ที่ให้แสงสว่างในเวลาค่ำคืน (ทั้งที่ความจริงแล้วดวงจันทร์ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง แต่จะสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์ในเวลาค่ำคืนเท่านั้นเอง)

เมื่อเรานำคำว่า "ดวง" มานำหน้าอาทิตย์และจันทร์ ก็จะเป็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนไม่สามารถคาดคิดได้ว่า ในแต่วันนั้นดวงอาทิตย์จะให้แสดงสว่างมากหรือน้อย บางครั้งก็แสงแดดร้อนแรงเป็นอย่างมาก บางครั้งก็ไม่ร้อนแรง (เพราะมีเมฆมาบดบัง) ก็เช่นเดียวกันในเวลากลางคืน แสงจากดวงจันทร์ก็ไม่แน่นอนเช่นกัน ดังนั้น จะเห็นว่าทั้ง ๒ ดวงยังไม่มีความแน่นอนเลย แล้วชีวิตของมนุษย์เราจะแน่นอนได้อย่างไร ย่อมจะมีดีหรือไม่ดีควบคู่กันเสมอไป

อย่างไรก็ดี บางครั้งเราก็เอาคำว่า "พระ" มาแทนคำว่า "ดวง" เพื่อนำหน้า "อาทิตย์" และ "จันทร์" จึงกลายเป็น "พระอาทิตย์" และ "พระจันทร์" ตามลำดับ

แล้วเมื่อนำ "พระ" มานำหน้าคำดังกล่าวแล้วจะเป็นอย่างไร ครับอย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวนำไปข้างต้นแล้วว่า เมื่อดวงเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนไม่คาดคิด เมื่อนำคำว่า "พระ" มานำหน้าแล้ว ผู้เขียนก็คิดว่า น่าจะหมายถึงทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นสิ่งที่สำคัญนำแสงสว่างมาให้มนุษย์เราทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนในการเดินทางไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ พระเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้นำไปสู่การรักษาศีลชี้นำเราไปสู่หนทางที่ดีได้พบกับแสงสว่างในชีวิต นั้นหมายความว่าสิ่งใดก็ตามแต่ที่มีพระนำหน้า จะทำให้เราได้มีสติในการรักษาศีลเพื่อทำความดีนำแสงสว่างมาสู่ชีวิตของเรา ทั้งกลางวันเรามีพระอาทิตย์ในการนำแสงสว่างมาสู่การดำรงชีวิตให้เรา พร้อมกับกลางคืนเรามีพระจันทร์นำแสงสว่างมาสู่ตัวเราให้มีความสุขเช่นกัน

ดังนั้น ชีวิตของมนุษย์หากเรามีพระนำหน้าในทุกเรื่องแทนที่จะเป็นคำว่า "ดวง" ก็ย่อมหมายความว่า หากเรารักษาศีลมีสติในการนำสำหรับการทำงานการปฏิบัติแล้ว ผู้เขียนเชื่อว่า ชีวิตของเราจะมีแต่แสงสว่างไม่มืดมน สามารถที่จะเดินทางไปสู่เป้าหมายของชีวิตเราได้ชัดเจนและมีความสุขอย่างแน่นอน จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่องข้างต้นที่ว่า "๒ ดวง แล้วเกี่ยวกับ พระ"

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนก็ขออนุญาตเพิ่มเติมว่า หากเมื่อไรก็ตามที่ชีวิตของเราอาศัยแต่ดวงแล้วอาจจะทำให้เราไม่มีความสุข แต่หากเมื่อไรก็ตามที่การดำรงชีวิตของเรานำเอา "พระ" มานำหน้าอย่างที่กล่าวไปแล้ว เหมือนกับที่เราเปลี่ยนจาก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ มาเป็น พระอาทิตย์ พระจันทร์ ก็คิดว่าน่าจะทำให้เราสามารถมีแสงสว่างในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงและมีความสุขอย่างยั่งยืน

ดวงไม่ดี ก็โทษนั่นโทษนี้
ดวงดี ก็บอกว่าเกิดจากบุญกุศล
มีดวงเกิดเป็นคน ก็ต้องมั่นทำความดี
หากให้ดี ก็ต้องคิดแต่เรื่องดีๆ และลงมือทำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น