วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เมื่อรู้สึกว่าจะตาย ก็ควรฝึกตายให้บ่อยๆ

เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ผู้เขียนต้องรีบเดินทางจากจังหวัดมุกดาหารเพื่อมาขึ้นเครื่องบินไปกรุงเทพมหานคร ที่จังหวัดอุบลราชธานีในเวลาประมาณ ๑๗.๒๐ น. แต่สิ่งที่ผู้เขียนจะขอเล่าให้ฟังคือ เป็นเหตุการณ์ที่ขณะนั่งอยู่บนเครื่องบิน เนื่องจากเป็นเพราะเหนื่อยจากเดินทางไปร่วมงานสัมมนาของวิทยาเขตมุกดาหาร ( จังหวัดมุกดาหาร ) ที่ร่วมมือกับ Florida State University


จึงหลับไปสักพักหนึ่งแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเครื่องบินเกิดการสั่นไหวอย่างแรง เมื่อมองไปข้างนอกหน้าต่างของเครื่องบินก็ปรากฏว่ามีก้อนเฆกมืดดำไปหมด ในขณะนั้นผู้คนในเครื่องบินก็ต่างเงียบ (ผิดปกติ) แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนได้มีสติคิดให้ขณะนั้น คือ ถ้าหากเกิดเครื่องบินเป็นอะไรไปเราต้องตายอย่างแน่นอน ยอมรับว่าในชั่วขณะนั้นเกิดความกลัวขึ้นมาทันใด แต่ประมาณสัก ๓ วินาที ก็คิดว่าไว้ไม่เป็นไรหากเป็นอะไรไป ชีวิตเราก็แค่นี้เท่านั้นเอง นอกจากนั้นได้ลองกำหนดจิตของตัวเราเองว่าไม่มีอะไรจะต้องเป็นห่วง และคิดสิ่งเดียวเท่านั้นขณะนั้น คือ นึกถึงพระฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขณะที่พระองค์ท่านทรงศีลทรงผนวช ซึ่งขณะนั้นเครื่องบินก็ยังคงมีอาการสั่นไหวนานพอสมควรน่าจะประมาณ ๕ - ๑๐ นาที แต่หลังจากนั้น กัปตันก็สามารถนำเครื่องบินผ่านพ้นช่วงที่วิกฤตมาได้ แต่สิ่งที่หนึ่งทำให้ผู้เขียนได้คิดต่อและนำมาถ่ายทอดในวันนี้ ก็เรื่องที่เกี่ยวกับชื่อหัวข้อที่กำหนดในวันนี้ คือ " เมื่อรู้สึกว่าจะตาย ก็ควรฝึกตายให้บ่อยๆ "

ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนคิดว่าหากเกิดความรู้สึกว่าจะตายอีก จะต้องฝึกว่าตายให้ได้ อย่างไรก็ดี เราชาวพุทธทุกคนคงจะได้ทราบกันดีว่าหลักธรรมของพระพุทธองค์ได้กล่าวเตือนพวกเราไว้ว่า " อย่าประมาท " "ความประมาทนำมาซึ่งความตาย" เพราะชีวิตของเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อไรเราจะตาย แต่หากว่าเราสามารถฝึกปฏิบัติว่า หากเราต้องตาย ก่อนที่เราจะตายนั้นจิตของเราจะเป็นอย่างไร แน่นอนครับ เป็นเรื่องที่ยากมาก (หากท่านไม่ได้ประสบพบด้วยตัวเอง) ชีวิตของเราทุกวันนี้ล้วนอยู่บนความประมาทแทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะทำการใดๆ เช่น การขับรถยนต์หากเราไม่มีสติเกิดความประมาทจะนำมาซึ่งความสูญเสียของชีวิตได้ทุกเวลา เป็นต้น จะเห็นว่าเมื่อไรก็ตามที่เราไม่มีสตินั้น ช่วงเวลาดังกล่าวนั้นมันจะรวดเร็วมากจนเราอาจจะไม่มีเวลาคิดว่า ถ้าเราตายแล้ว จะเป็นอย่างไร

ครับ สงสัยว่าเราอาจจะต้องมีวิธีการฝึกปฏิบัติให้รู้สึกว่าจะตาย แล้วเราจะคิดเรื่องอะไร หากคิดเรื่องดีๆ แล้ว ผู้เขียนเชื่อว่าเราจะมีความสุขไม่เป็นทุกข์กับความตายที่จะเข้ามาหาตัวเรา ด้วยเหตุนี้ เราก็คงจะต้องฝึกให้มีความรู้สึกว่าตายให้บ่อยๆ อยู่เป็นประจำ ผู้เขียนก็ต้องยอมรับว่าข้างต้นนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตว่ามีความรู้สึกว่าหากตายไปแล้ว ก่อนตายเราจะทำอย่างไร (แต่เผอิญไม่ตายและไม่เป็นไร) หากท่านใดที่เคยประสบกับความตายดังกล่าว ก็ขอเชิญชวนนำมาแลกเปลี่ยนกันเพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อก่อให้เกิดต่ออนุชนคนรุ่นหลังในการประกอบกรรมดีอันจะนำมาซึ่งความสุขที่แท้จริงของชีวิต


ประการสุดท้ายที่ผู้เขียนขออนุญาตฝาก คือ หากไม่เจอด้วยตัวเอง เราก็จะไม่เจอความจริง และความจริงนี้แหละเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้ด้วยสติ และเมื่อเกิดการเรียนรู้ด้วยการมีสติก็จะเกิดปํญญาในการเดินหน้าต่อไป และในที่สุดเราจะไม่กลัวความจริงที่เราเจอ ดังนั้น เรามาเรียนรู้เจอกับความจริงที่ว่า เราต้องตายกับทุกคน ไม่เร็วไม่ช้า หลีกหนีไม่พ้น เรามาซ้อมตายหรือคิดว่าเรากำลังจะตายลองดูกันเถอะครับ ดังคำกล่าวที่ว่า " เมื่อรู้สึกว่าจะตาย ก็ควรฝึกตายให้บ่อยๆ "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น