วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

วันที่น้ำตาไหล (ออกมาโดยไม่รู้สึกตัว)

อีกไม่กี่เดือนกี่วัน เราก็จะได้กลับบ้านของเรากันแล้ว เพราะช่วงวันที่ ๑๓ ๑๔ ๑๕ เมษายน ของทุกๆ ปี เราคนไทยทุกคนควรจะต้องกลับบ้านของเราเพื่อไปสวัสดีปีใหม่ (ไทย) รดน้ำขอพรจากพ่อแม่ญาติของเรา ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น คนบ้านเดียวกันก็มีโอกาสที่จะได้พบปะกัน ถามทุกข์สุขกันว่าเป็นอย่างไร ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่มีความสุขอย่างมาก ทุกคนที่อยู่รอบข้างมีแต่รอยยิ้ม และที่สำคัญ คือ มีรอยคราบน้ำตาไหลออกมาจากพ่อแม่ของเรา พ่อแม่ของเรารอคอยวันที่เรากลับมา เพื่อให้ทราบว่าลูกของท่านสบายดี ไม่มีทุกข์โศกไร้โรคภัยต่างๆ


วันเวลาในช่วงดังกล่าวถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาของฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิที่สูง แต่เมื่อเราทุกคนในครอบครัวมาพร้อมหน้ากัน ความร้อนดังกล่าวกลับกลายเป็นความอบอุ่น และความร่มเย็นที่มีแต่ความสุข และความร่มเย็นดังกล่าว เราจะเห็นน้ำตาไหลออกมาจากผู้คนที่อยู่รอบข้างตัวเรา รวมทั้งตัวเราด้วย น้ำตาดังกล่าวเป็นน้ำที่


บริสุทธิ์ที่กลั่นออกมาจากจิตใจของเราอย่างแท้จริง เป็นน้ำที่ไหลออกมาโดยที่ไม่รู้สึกตัว เป็นน้ำที่บ่งบอกถึงความผูกพันที่มีต่อพ่อแม่ครอบครัวของเรา เป็นสิ่งที่ทำให้เราสร้างภูมิคุ้มกันให้กันตัวเราได้คิดถึงความสำคัญของคนบ้านเดียวกัน (ฟังเลยดีหรือเปล่าครับ "คนบ้านเดียวกัน") ซึ่งความหมายของคนบ้านเดียวกันนั้น มันลึกซึ้งเป็นอย่างมาก หากเราทุกคนสามารถเป็นคนบ้านเดียวกันได้ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ย่อมจะประสบความสำเร็จทุกอย่างเพราะเราคนบ้านเดียวกันช่วยกันทำช่วยกันสามัคคีร่วมมือร่วมใจ



วันที่น้ำไหลที่ว่าข้างต้น เป็น "น้ำตา" ของเราที่บ่งบอกถึงความสุขที่เราไม่รู้สึกตัว ว่าความสุขนั้นถึงมีเงินทองก็ไม่สามารถหาซื้อได้ เศรษฐีมีเงินทองมากมายก่ายกองก็ไม่สามารถหาซื้อได้สำหรับความสุขดังกล่าว เป็นความสุขที่ทุกคนในครอบครัวต่างได้รับกันอย่างเท่าเทียมกับอย่างยุติธรรม

ครับ ผู้เขียนถึงแม้ว่าเวลากลับบ้านในช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่ได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ เนื่องจากเหลือเพียงคุณพ่อคนเดียว แต่โชคดีที่มีหลานๆ และญาติๆ คอยช่วยดูแลคุณพ่อ อย่างไรก็ดี ผู้เขียนก็ได้พยายามบอกพ่อให้ท่านได้เข้าใจถึงสัจธรรมของชีวิตคนเราว่า เราไม่สามารถหลีกหนีสิ่งที่สวรรค์ได้ลิขิตเอาไว้ สักวันเราก็จะต้องไป แต่วันที่เราไปนั้น ขอเพียงแต่เราจะไม่มีน้ำตาที่ไหลออกมา แสดงถึงความเสียใจ เสียดาย สูญเสียในสิ่งที่เราเป็นอยู่


ไม่เป็นไร วันเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่รวดเร็วมากที่ผ่านไปอย่างที่เราไม่อยากจะให้ผ่านไป ความรู้สึกดังกล่าวทำให้เรามีกำลังใจในการเรียน ในการทำงาน ในการทำการใดๆ ทำให้เรากลับมามีพลังต่อสู้กับสิ่งต่างๆ เมื่อวันเวลาผ่านไป เราจะต้องเข้มแข็ง นำเอาประสบการณ์ที่เคยผ่านเรียนรู้มาเป็นสิ่งเตือนใจเราไม่ให้ผิดพลาดในสิ่งต่างๆ อีก


สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอให้มีความสุขในวันที่น้ำ (ตา) ไหลออกมา (ออกมาโดยไม่รู้สึกตัว) ขอให้ทุกท่านได้พบกับความสุขอย่างแท้จริงกับวันที่เราพบกับคุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัว ไม่มีความสุขใดที่เท่าเทียมกับเราได้เห็นความสุขของคนที่เรารักคนที่ให้กำเนิดเรา ดังนั้น ให้มันไหลออกมาให้มากหากมันต้องการจะไหล และเมื่อไหลออกมาแล้ว เรามีแต่ความสุข ขอให้ทุกท่านประสบกับความสุขในวันครอบครัว (เดือนเมษายนนี้) ทุกท่านนะครับ


มนูญ ศรีวิรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น