วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

อโรคยา ปรมาลาภา การไม่มีโรค เป็นลาภ (อันประเสริฐ จริงๆๆ)

การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ ผู้เขียนคิดว่า ผู้อ่านหลายท่านหลายเพศหลายวัยต่างได้เคยได้ยินได้รู้มามากพอสมควรแล้ว เพราะผู้เขียนเองตั้งแต่จำความได้ก็ไม่ยินคำดังกล่าวตั้งแต่เด็กเล็กเป็นต้นมา

การเป็นโรคต่างๆ เป็นของคู่กันกับมนุษย์เราตั้งแต่โบร่ำโบราณ ทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะอะไรก็ตามแต่ ต่างก็หลีกหนีไม่พ้นการเป็นโรค หากท่านใดโชคดีไม่เคยเป็นโรคอะไรเลย แต่โรคหนึ่งที่ท่านจะหลีกหนีไม่พ้น คือ โรคชรา เพราะในที่สุดคนเราก็จะต้องพบกับโรคดังกล่าวอย่างแน่นอน ใครโชคดีอาจจะไม่พบกับโรคชรา แต่พบกับโรคอื่นๆ ไปก่อน

โรคต่างๆ จะมาเยือนหาสู่ตัวเรา เมื่อตัวเราอ่อนแอ (ในที่นี้อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ) คำว่า อ่อนแอ ตรงกันข้ามกับคำว่า แข็งแรง (ซึ่งเราทุกคนทราบดี) ทุกปีใหม่ เราต่างก็อวยพรให้กันและกันว่า ขอให้แข็งแรง แต่ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่า ความแข็งแรงจะมาเองเกิดขึ้นเองไม่ได้อย่างแน่นอน จะต้องอยู่ที่ตัวของเรา หากเราต้องการความแข็งแรง ตัวเราเองจิตใจของเราเองจะต้องรู้สึกเสียก่อนว่า อยากจะแข็งแรง ต้องการความแข็งแรงให้กับตัวเอง ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว ตัวเราจะหาวิธีการที่จะไปสู่ความแข็งแรง เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะตามทางการแพทย์ การทำจิตใจให้ผ่องใสสดชื่น เป็นต้น

สำหรับ ความแข็งแรง มักจะมีความสัมพันธ์ตรงกันข้ามกับเรื่องของเวลา และตรงกันข้ามกับความมีโรคต่างๆ (แต่สำหรับเวลาและโรคต่างๆ นั้น มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน) นั้น หมายความว่า เมื่อเวลาของเรามากยิ่งขึ้น (คือ เกิดมานานเท่าไร) ความแข็งแรงก็ลดน้อยถอยลงไปทุกวัน และโรคภัยต่างๆ ก็มักจะจับจองเข้ามาหาตัวเรา ท่านใดที่ดูแลตัวเองรักษาสุขภาพเป็นอย่างดี ความสัมพันธ์ดังกล่าวก็อาจจะยืดออกไป (แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจะยืดได้ชั่วฟ้าดินสลายได้)

มนุษย์เราเงินทองที่หาสะสมมาได้ ก็เอาไว้ใช้ในการรักษาตัวเองให้อยู่ในโลกใบนี้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางคนตอนหนุ่มสาวมีเงินทองมากมาย ไม่มีเวลาที่จะดูแลรักษาตัวเอง ทำงาน แล้วก็ทำงาน แล้วก็ทำงาน หาเงิน แล้วก็หาเงิน หาเอาไว้ทำอะไร แน่นอนครับ เมื่อเจ็บป่วยไข้ก็นำเงินที่หาได้ออกมารักษาตัวเอง ท่านที่โชคดีก็อาจจะไม่ต้องใช้เงินรักษามากมาย แต่สำหรับท่านใดที่โชคร้าย ก็อาจจะใช้เงินทองมากมายในการรักษาตัวเอง เงินทองที่หามาได้ถ้าหากเจ็บป่วยลงไป ก็ไม่มีเวลาที่จะหาเงิน ดังนั้น จะเห็นว่า ผู้คนโดยส่วนมากแล้ว มักจะขอพรไม่ให้เจ็บป่วยไข้ แต่เราเคยถามตัวเองหรือไม่ รักตัวเอง ดูแลตัวเองหรือไม่ เวลาป่วยก็อาจจะมัวแต่เสียใจโทษนั้นโทษนี้ ซึ่งก็ยิ่งจะทำให้เกิดความทุกข์ในจิตใจมากขึ้น ส่งผลต่อร่างกายมากตามไปด้วย

พระพุทธองค์ได้กล่าวเตือนมนุษย์เราไม่ให้ประมาท ซึ่งประมาทอันหนึ่งที่ผู้เขียนคิดว่า เราทุกคนควรจะระลึกอยู่เสมอ คือ ประมาทในตัวของเรา ประมาทในการรักตัวเอง หมายความว่า ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพของตัวเองให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่สม่ำเสมออยู่ตลอดไว้เท่าที่ตัวเราจะทำได้ตามฐานะสภาวะของเราเอง ชีวิตนี้ไม่จีรังยั่งยืน โรคภัยต่างๆ ไม่สามารถหลีกพ้นได้ แต่หากเรารู้ว่าทำอะไรแล้วไม่เกิดโรคนั้นโรคนี้ มันก็น่าจะเป็นหนทางหนึ่งของชีวิตที่จะหลีกเลี่ยงโรคภัยต่างๆ ได้ เหมือนกัน คำข้างต้นที่ว่า อโรคยา ปรมาลาภา การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
มนูญ ศรีวิรัตน์
รักตัวเองในวันนี้ ก่อนที่จะไม่มีเวลาจะได้รักตัวเองอีกในวันหน้า

ผู้เขียนตรวจสุขภาพประจำ (๖ เดือน) วันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๔

ผลการตรวจ ไขมัน สูงกว่าปกติ (ของสูงที่เราไม่ชอบ)

คุณหมอกรุณาให้กินยา ๑ เดือน และควบคุมอาหารและเครื่องดื่ม

ต้องตรวจเลือด และ คลื่นหัวใจ อีกครั้ง ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น