วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ฝัน จะเป็นจริงได้หรือไม่

เมื่อคืนที่ผ่านมา (คืนวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๓) ผู้เขียนฝันว่า
ได้รับมอบหมายให้ไปร่วมพิธีใดสักอย่างหนึ่งของ ตชด.๒๒ ขณะที่รออยู่นั้น พ่อของผู้เขียนก็มานั่งในพิธีด้วย อีกสักพักปรากฏว่าท่านอธิการบดี (รศ.ดร.นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข) ก็เดินเข้ามาในพิธีแล้วก็บอกว่า "ไม่ต้องร่วมพิธีก็ได้ ให้อาจารย์ (อธิการบดี) เข้าร่วมแทน และให้อาจารย์พาคุณพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพราะท่านป่วยอยู่" ผู้เขียนก็ขับรถพาคุณพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาล (ซึ่งน่าจะเป็นโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิ์ฯ วารินชำราบ) ฝนก็ตกเปียกปอนกันหมด ขณะเดียวกันนนั่นเองมีคนมาตามให้เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมฯ ด่วนที่ค่ายทหาร (น่าจะเป็นค่ายที่วาริน)เมื่อเข้าเฝ้ากราบพระองค์ท่านนั่งก้มหน้า และพระองค์ท่านทรงรับสั่งว่า "มีอะไรอีกหรือไม่" ผู้เขียนก็เงยหน้าได้กราบบังคมทูลฯ ว่า "ขอพระราชทานราชานุญาตพระองค์ทรงเสด็จโรงเรียนเก่าโรงเรี่ยนเบ็ญจะมะมหาราช พระพุทธเจ้าข้า" ซึ่งขณะที่ผู้เขียนเงยหน้านั้น พระพักตร์ของพระองค์ท่านทรงสดชื่นมีแสงบารมีให้เห็นเป็นเด่นชัด หลังจากนั้นพระองค์ท่านทรงเสด็จไปที่โรงเรียนดังกล่าวโดยทรงขี่ม้า ส่วนผู้เขียนแบกปืนยาววิ่งตามเสด็จไปที่โรงเรียน (บริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเก่า) เมื่อไปถึงพระองค์ท่านทรงเสด็จไปยังอาคารทั้งชั้นล่างและชั้นบน และทรงตรัสถามว่า "จะทำอะไรกัน" ซึ่งขณะนั้นในฝันมีคุณนิกร วีสเพ็ญ (ประธานส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี) อยู่ด้วยและก็ได้กราบบังคมทูลว่า "จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองอุบลฯ พระพุทธเจ้าข้า" จำได้แค่นี้ครับ
เรื่องฝันด้งกล่าว อาจจะเกิดขึ้น เพราะเมื่อวาน (คือวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๓)เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. ผู้เขียนได้เข้าพบท่านอธิการบดีเพื่อรายงานเกี่ยวกับพิธีเปิดอาคารเทพรัตนสิริปภา และได้พูดถึงงานพิธีเปิดอาคารโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช (หลังเก่าอายุเกือบ ๑๐๐ ปี) เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองอุบลฯ และตอนเย็นผู้เขียนก็ได้โทรศัพท์คุยกับคุณนิกร วีสเพ็ญ (ประธานส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี) เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. ดังนั้น ผู้เขียนสงสัยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว อาจจะทำให้ผู้เขียนนำไปฝันโดยที่ไม่รู้ตัว แต่อย่างไรก็ตาม ฝันข้างต้นจะเป็นจริงได้ ถ้าเราตั้งใจทำให้เป็นจริงด้วย ตั้งมั่น ตั้งเป้าหมายร่วมกัน ตั้งจิตร่วมกันในการทำให้เป็นจริง ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาว่าในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา เราชาวอุบลฯ ม.อุบลฯ ควรจะพัฒนาอาคารเก่าโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช หลังเก่า ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมืองให้ได้ โดยอาจจะขอพระราชทานนามอาคารว่า
"อาคาร พิพิธภัณฑ์เมืองอุบลราชธานี เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราชา เพื่อเป็นแหล่งศูนย์ข้อมูลด้านศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดอุบลราชธานี (เน้นเฉพาะศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดอุบลราชธานี ) และแสดงข้อมูลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จทรงเยี่ยมจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤศิจกายน ๒๔๙๓ เป็นต้นมา เช่น พระองค์ทรงเสด็จฯ เปิดเขื่อนสิริธร เป็นต้น"
ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนขออาสาเป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ของการทำฝันให้เป็นจริงของชาวจังหวัดอุบลราชธานี
ฝันทุกคนนั้นฝันได้ ไม่มีใครรู้ว่าเราฝันอย่างไร แต่ถ้าหากต้องการทำให้ฝันเป็นจริง ประการแรก คือ จะต้องขายฝัน ขายความคิดในเรื่องนั้นๆ (ซึ่งขายความคิดนี้แหละสำคัญ เพราะเป็นการหาแนวร่วมในการทำงาน) เมื่อขายความคิดแล้ว ก็จะต้องลงมือทำโดยมีการวางแผนที่ดีทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญ คือ เน้นการบูรณการและการมีส่วนร่วม ซึ่งก็เหมือนกันการที่จะเป็น "อาคารพิพิธภัณฑ์เมืองอุบลราชธานี เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราชา" ประชาชนจังหวัดอุบลราชธานีทุกคนทุกท่านจะต้องมีส่วน ส่วนราชการ เทศบาล อบจ. จะต้องให้การสนับสนุน ร่วมทั้งศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนเบ็ญจะมะฯ ทุกคนจะต้องช่วยกัน โดยจะต้องช่วยทั้งแรงใจและแรงกาย เพื่อให้งานดังกล่าวสำเร็จลุล่วง
ฝัน จะเป็นจริงได้หรือไม่นั้น ผู้เขียนคิดว่าเป็นจริงได้ทุกเรื่อง ถ้าหากเราตั้งใจตั้งสติเพื่อให้เกิดสมาธิปัญญา เกิดพลังจิตพลังใจ และเกิดพลังกายในการผลักดันทำงานให้สำเร็จ เราทำได้ครับ ถ้าเราจะทำ และถ้าหากทำแล้วเกิดประโยชน์และความสุขต่อทุกคน เรายิ่งควรจะรีบทำ
มนูญ ศรีวิรัตน์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น