วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เดี๋ยวมันก็เก่า

เดี๋ยวมันก็เก่า เป็นอะไรที่เราทุกคนจะต้องเคยเจอและเคยประสบมาก่อน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งๆ ขึ้น ผู้เขียนเองเมื่อตอนสมัยวัยรุ่นเรียนมหาวิทยาลัยคุณพ่อคุณแม่ซื้อจักรยานยนต์ให้เป็นคันใหม่ มีความรู้สึกว่าดีใจมากๆ ต้องถนอมรักษาล้างรถทุกวัน เพราะมันเป็นความรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นสิ่งที่เราจะต้องดูแลให้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง คือ เทอมที่สอง ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องรถเริ่มจะรู้สึกว่า เราไม่ต้องล้างทุกวันก็คงจะได้ ไม่ต้องดูแลเหมือนเดิมก็คงจะได้ นั้นเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกกับสิ่งนั้น (คือ รถ) กับเรื่องของเวลา
ถ้าหากเวลามากยิ่งๆ ขึ้น นานขึ้นความรู้สึกเป็นเจ้าของมีความรู้สึกว่า ลดน้อยถอยลงไป ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่เรามีความรู้สึกแบบนี้ สิ่งของสิ่งนั้น วัตถุสิ่งนั้น จะกลายเป็นสิ่งที่เรามักเรียกว่า มันเก่า ผู้อ่านไม่ทราบว่าพอที่จะเข้าใจหรือยังว่า ความเก่า กับ ความใหม่ มีความสัมพันธ์กันมากความเรื่องของเวลา หากเวลานานๆ ผ่านมานานๆ ความเก่าก็ยิ่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งกล่าวสำหรับเรื่องความรักหรือสิ่งใดก็ตามแต่ ถ้านานๆ ไปแล้วเราไม่ใส่ใจ เราไม่ดูแล มันก็ยิ่งจะรู้สึกว่า มันเริ่มเก่า หรือ อาจจะเรียกว่า เดี๋ยวมันก็เก่า
ทุกสิ่งในโลกนี้ สัมพันธ์กับเวลา ดังนั้น เดี๋ยวมันก็เก่า ไม่มีอะไรที่อยู่เป็นของใหม่อยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรที่อยู่จีรังยั่งยืน ทุกสิ่งทุกอย่างต่างกับไปสู่ที่เดิมที่เคยเป็นว่า เพียงแต่จะเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ สิ่งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับสู่ธาตุทั้ง ๔ ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ และอีกสักระยะหนึ่งสิ่งนั้นก็จะรวมตัวกันใหม่
เราไม่ต้องไปเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา เดี๋ยวมันก็เก่า เมื่อเราเข้าใจเช่นนี้แล้ว เขาก็อาจจะเรียกว่า เราไม่ยึดติดกับสิ่งนั้นๆ อยู่ตลอดเวลา การยึดกับสิ่งนั้นๆ ตลอดเวลาอาจจะทำให้เราเป็นทุกข์ เเนื่องจากอาจจะมัวรอหรือคอยเพียงแต่ว่าขออย่าให้มันเปลี่ยนแปลง ขอให้มันเหมือนเดิมตลอดไป
ก็เช่นกันขอกลับมาตัวอย่างอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาตอนเรียนมหาวิทยาลัยใช้รถจักรยานยยนต์ พอจบการศึกษามีงานทำ มีเงินเดือน ซื้อรถยนต์ผ่อนส่ง เมื่อตอนได้รับรถยนต์ขับขี่ในวันแรก สัปดาห์แรก เดือนแรก เรามีความรู้สึกว่า รถข้าใครอย่าแตะ ล้างทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเข้าไปนอนในรถทุกคืน นั่นเป็นความรู้สึกของความเป็นเจ้าของ ไม่อยากจะให้รถของเราเป็นอะไร อย่างไรก็ดี พอระยะหนึ่งความรู้สึกดังกล่าวเริ่มจะเปลี่ยนไปเพราะเวลา ยิ่งเวลามากขึ้น ความรู้สึกที่จะล้างรถ ดูแลรถ ก็น้อยลงไป (ซึ่งผู้เขียนก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน) พอนานเข้ารถยนต์ของเราเกิดชนอะไรนิดชนอะไรหน่อย เราก็ไม่มีความรู้สึกว่าเสียใจมากนักเท่าไร เพราะคิดแต่เพียงว่า ช่างมันเถอะ มันเป็นอะไร (เรื่องขีดข่วน รอยต่างๆ) ก็ช่างมันเถอะ
ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนก็เลยคิดว่า บางเรื่องเราคิดว่า เดี๋ยวมันก็เก่า ก็ดีเหมือนกัน เพราะทำให้เราปลง ไม่ยึดติด ไม่หลงกับสิ่งนั้น ก็ขอให้กำลังใจสำหรับบางคน บางท่าน ที่มีความรู้สึกว่า อยากจะให้มันใหม่อยู่ตลอดเวลา โลกนี้ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน มันเปลี่ยนแปลงไปของมัน เราเพียงเฝ้าสังเกตและคิดตามว่า มันเปลี่ยนไปแล้ว เราก็เข้าใจ เราจะไม่ตามมันไปให้เป็นทุกข์
มนูญ ศรีวิรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น