วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

ต่อ กับ สู้

มนุษย์เราเกิดมานั้นก็เพื่อเจริญเติบโตทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งการพัฒนาด้านการศึกษา หน้าที่และการงาน ซึ่งการที่จะเป็นอย่างนั้นได้ จะต้องมีการพัฒนา เจริญ ก้าวหน้า ทำให้ดีขึ้น หรืออาจจะเรียกง่ายๆ ว่า มีการต่อ เพราะคำว่า ต่อ หมายถึง เพิ่มให้ยึดออกไป เพิ่มให้ยาวออกไป จะเห็นว่า เราทุกคนต่างก็ทำอะไรต่างๆ ตั้งแต่เด็กนั้นให้เพิ่มยึดออกไป เพิ่มให้ดีขึ้น เพิ่มให้สมบูรณ์ขึ้น ด้วยเหตุนี้ การทำอะไรก็ตามแต่ที่มีการต่อนั้นมักจะเป็นเรื่องที่ดีเสมอ และประการสำคัญ คือ ควรจะต้องทำอย่างไม่ขาดตอน หรือ ที่เรียกว่า ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หากเมื่อไรถ้าเราทำอะไรอยู่แล้วเกิดเหนื่อยล้าจากสิ่งนั้นๆ เราอาจจะหยุดพักเสียก่อนเพื่อให้มีกำลัง มีสติเพื่อจะเดินหน้าต่อ เพื่อทำงานต่อ ท่านผู้อ่านเห็นหรือยังครับว่า คำว่า ต่อ มีความหมายในตัวของมันเป็นอย่างดียิ่ง เพื่อทำให้เรามุ่งไปสู่เป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ เพราะหลายๆ ครั้ง อาจจะเคยได้ยินว่า เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน ดังนั้น จะต้องใช้คำว่า ต่อ เสมอ

ที่นี้ มาดูคำว่า สู้ ผู้เขียนคิดว่า ผู้อ่านทุกท่านก็คงจะทราบดีว่า สู้ หมายถึง การเอาชนะกันด้วยกาย อาวุธ หรือ สติปัญญาความสามารถที่มีอยู่ แต่ผลการของการสู้ มีทั้งแพ้ หรือ ชนะ หรือ เสมอ มนุษย์เราทุกคนล้วนจะต้องเอาชนะสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ เอาชนะธรรมชาติ เอาชนะศัตรู ที่สำคัญที่สุด คือ การเอาชนะตัวเอง

สู้ ทำให้เราจะต้องหาหนทาง หากลยุทธ์ หาวิธีการต่างๆ เพื่อได้มาซึ่งชัยชนะ หลายๆ เราสู้แล้วเราแพ้ แพ้แล้วแพ้อีก หรือที่เรียกว่า แพ้วันยังค่ำ คือหมายถึง แพ้แน่นอน ถ้าหากการสู้แบบนั้นแล้วรู้ว่าผลจะออกมาว่าแพ้แน่นอน บางครั้งเราก็ไม่อยากจะสู้ แต่ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่า ถ้าหากเราลองเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนความคิดใหม่ ให้เป็นการ ต่อสู้ ซึ่งหมายถึง สู้เพื่อเพิ่มให้ดีขึ้น สู้เพื่อเพิ่มให้สมบูรณ์ขึ้น สู้เพื่อให้ได้ชัยชนะในที่สุด

ด้วยเหตุนี้ ต่อสู้ เป็นสิ่งที่เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นอะไร ประกอบอาชีพอะไร ทำงานอะไร จะเรียนอะไร จะทำสิ่งใด ขอเพียงเรามีใจที่จะต่อสู้ เพราะสักวันหนึ่งเราจะต้องเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน ดังตัวอย่างเรื่องสั้นต่อไปนี้

"ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง นามสมมติว่า ชื่อ หญิง เขาเรียนจบมัธยมศึกษชั้นปีที่ ๖ แต่เนื่องจากที่เรียนหนังสือไม่เก่ง ฐานะก็ยากจนพ่อแม่มีอาชีพทำนา จึงเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนในสถาบันอุดมศึกษาระบบเปิดพร้อมทั้งทำงานไปด้วย แต่ก็เรียนไม่จบ ต้องกลับมาที่บ้านเกิด และมีสามีในที่สุด โดยมีลูกด้วยกันสองคน สามีทำงานในสำนักงานที่มีห้องปรับอากาศที่เย็นสบาย ส่วนหญิงเองต้องทำงานทั้งงานบ้านและงานรับตัดเย็บเสื้อผ้าไปด้วย แต่ชีวิตของมนุษย์เราไม่แน่นอน อยู่มาวันหนึ่งหญิงต้องแยกทางจากสามี เนื่องจากเขาไปมีคนอื่นๆ หญิงก็ต้องเฝ้าทนเลี้ยงลูกทั้งสองด้วยความลำบาก แต่หญิงก็ไม่ย้อท้อ อดทนต่อสู้ รับงานพิเศษที่ตลาดสดในช่วงตอนเช้ามืดตั้งแต่ประมาณเวลาตีสี่ตีห้า ตอนเย็นประมาณห้าโมงหกโมงเย็นก็รับงานเก็บของที่ตลาดสดเช่นกัน ช่วงกลางวันและช่วงกลางคืน หญิงก็จะรับงานตัดเย็บเสื้อผ้า จะเห็นว่าในเวลา ๒๔ ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้น หญิงแทบจะไม่ได้มีเวลาพักผ่อนเอาเสียเลย (เข้านอนเี่ที่ยงคืนตื่นตีสี่) แต่หญิงได้ต่อสู้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อลูกทั้งสอง หญิงอดออมเก็บเงินที่หามาได้ความลำบาก เพื่อวันหนึ่งเขาจะมีร้านรับซักแห้งร้านตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นความฝันที่หญิงตั้งใจไว้ และแล้วในที่สุด การต่อสู้ของหญิงก็ประสบความสำเร็จ จากการต่อสู้กับปัญหาของครอบครัวที่ขาดสามีขาดพ่อของลูกๆ จากปัญหาของการเลี้ยงลูกทั้งสองด้วยตัวคนเดียว จากปัญหาของการประกอบอาชีพ หญิงต่อสู้ด้วยจิตใจที่ไม่ย้อท้อและเข้มแข็ง โดยหญิงบอกตัวเองเสมอทุกเวลาทุกวันว่า จะต้อง ต่อสู้ เพื่อชีวิตที่ดีในวันหน้า วันนี้ ผู้เขียนจึงขอเรียกหญิงว่า คุณหญิง "

ครับ วันนี้เป็นต้นไป เรามาตั้งใจนำคำว่า ต่อ กับ สู้ มารวมกัน ให้เป็น ต่อสู้ แล้วเราจะชนะไปทุกเรื่อง
มนูญ ศรีวิรัตน์


2 ความคิดเห็น:

  1. ต่อสู้ สู้ๆ บางที่ก็เหนื่อย ท้อมากมาย อยากให้อ.เขียนเรื่องที่ให้กำลัง

    นู๋ เหนื่อยๆจิงๆ บางทีก็คิดน้อยใจที่ทำไมคนอื่นเขา ดีกว่าเรา ^^

    ตอบลบ
  2. ผมได้เขียนบทความให้กำลังใจแล้วครับ ลองอ่านได้ที่ http://msrivirat.blogspot.com/2010/09/blog-post_22.html

    ตอบลบ