วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของน้ำ (ตา)

น้ำนั้นมีประโยชน์มหาศาลต่อมนุษย์เราทั้งอุปโภคและบริโภค น้ำทุกหยดล้วนมีคุณค่าเรา เราควรจะต้องช่วยกันประหยัดในการใช้น้ำ ในร่างกายของเราก็เช่นกันโดยส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของน้ำ และที่สำคัญในหนึ่งวันเราควรจะดื่มน้ำให้เป็นประจำอย่างน้อยสองลิตรเพื่อให้ร่างกายสามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

ที่กล่าวมาข้างต้นไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องเลย แต่อย่างน้อยที่สุด ผู้เขียนก็คิดว่ามีส่วนที่เกี่ยวข้องกัน คือ น้ำ (ตา) น้ำตานั้นจะหลั่งออกมาได้หลายกรณี ตัวอย่างเช่น เราดีใจเมื่อสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเรารู้สึกมีความสุขปลื้มสุดๆ จนมีน้ำไหลออกจากดวงตา นักกีฬาฟุตบอลลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลกแล้วชนะเลิศ (ดั่งเช่น ทีมฟุตบอลประเทศสเปน กัปตันทีมถึงกับหลั่งน้ำตาขึ้นรับถ้วยฟุตบอลโลก) เราเสียใจเมื่อมีคนรักต้องจากไปสู่ที่ชอบที่ชอบ เราเสียใจเมื่อเรารู้สึกผิดหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

จะเห็นว่า น้ำตาของเรานั้นเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อทั้งเมื่อดีใจและเสียใจ ดีใจมากก็อาจจะเสียน้ำตามาก เสียใจมากก็อาจจะเสียน้ำตามากด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ หากเรามีเหตุการณ์ใดที่ดีใจมากๆ สุดขีด หรือเสียใจมากสุดๆ แล้วละก็ เราไม่อาจจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาได้ จะด้วยเหตุใดก็ตามแต่ น้ำตาเป็นสิ่งที่เราไม่อาจจะสามารถบังคับได้ หากเราจะต้องประสบกับเหตุการณ์ดีๆ หรือร้ายๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเราไม่เคยได้ฝึกให้พบกับสิ่งนั้นๆ

อย่างไรก็ดี ถ้าหากเราได้รู้ได้ทราบได้ฝึกฝนว่า ในโลกนี้ล้วนไม่เที่ยง ไม่แน่นอน ล้วนมีสิ่งที่ดี ล้วนมีสิ่งที่ร้าย นั้นหมายความว่า ทุกสิ่งล้วนไม่อนิจังยั่งยืน เกิดได้ ดับได้ เกิดๆ ดับๆ ด้วยเหตุนี้ เมื่อเราเข้าใจและมีความพยายามฝึกฝนให้จิตของเราได้พบกับสภาพความดีใจสุดๆ เสียใจสุดๆ บางทีสภาพดังกล่าวอาจจะทำให้เราดีใจหรือเสียใจด้วยสภาพที่ปราศจากน้ำตาของความดีใจ น้ำตาของความเสียใจก็ได้ สิ่งที่ว่านั้น จะต้องอาศัย ความอดทนอดกลั้น การเข้าใจสภาพนั้นๆ ให้ได้อย่างลึกซึ้ง ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่คงที่แน่นอน ไม่มีอะไรที่จะอยู่ค้ำฟ้าได้ตลอดไป ไม่มีอะไรที่จะเป็นผู้ชนะตลอดไป ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราตลอดไป

ความเข้าใจ ความรู้จริง ความอดทน จะสามารถทำให้เรา ไม่ต้องเสียน้ำตากับเหตุการณ์ใดๆ ทั้งเหตุการณ์ดีๆ และเหตุการณ์ร้ายๆ ซึ่งในที่สุด เราก็สามารถประหยัดน้ำตาได้ในที่สุด ด้งนั้น น้ำตาหากเราประหยัดได้ก็คงจะดีเหมือนกัน เราจะไม่เสียน้ำตาให้กับเรื่องที่ไร้สาระ เรื่องที่ทำให้เราผิดหวัง (เพราะผิดหวัง เราก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ไม่มีคำว่า สาย สำหรับความเป็นคนของเรา) ความเสียใจผิดหวังเป็นสิ่งหนึ่งที่เราควรจะไม่ต้องเสียน้ำตาให้กับมัน เราควรจะประหยัดน้ำตาให้กับความเสียใจและความผิดหวัง แต่สิ่งที่เราควรจะทำ คือ ตั้งหน้า ตั้งตา ตั้งใจ ลงมือทำให้สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งส่วนตัวและส่วนรวม เมื่อทำได้อย่างนั้นแล้ว ความเสียใจความผิดหวังก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี บางครั้งเราก็ไม่อาจจะกลั้นน้ำตาได้เมื่อเราปลื้มดีใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เรารัก และทำให้เรามีความสุข ซึ่งผู้เขียนคิดว่าคนไทยทุกคนเมื่อได้เห็นได้ชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราคนไทยทุกคนต่างมีความสุขที่ได้เห็น ได้ทราบ ได้เทิดทูนพระองค์ท่าน ดังนั้น น้ำตาของเราคนไทยทุกคนจะไหลออกมาทุกครั้งอย่างมีความสุข ที่เราคนไทยทั้งหลายได้แสดงความจงรักภักดีร่วมกัน น้ำตาแบบนี้เราไม่ควรที่จะประหยัดให้มันหลั่งออกมาได้เลย น้ำตาดังกล่าวเป็นสิ่งบ่งบอกความจงรักภักดี ความรักสถาบันพระมหากษัตริย์ ความรักชาติไทยของเรา ผู้เขียนเองก็เช่นกันทุกครั้งที่ได้เห็นพระองค์ท่านในทีวี หรือ ได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีน้ำตาจะไหลออกมาอย่างทันที ซึ่งบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ที่แน่ๆ คือ มีความรู้สึกว่าอยากจะให้พระองค์ท่านทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ทรงพระเจริญตลอดไปยิ่งยืนนานเท่านาน

มนูญ ศรีวิรัตน์

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ3 กันยายน 2553 เวลา 04:18

    ผมนายกฤตมนูญ ศรีโคตร บ้านเกิด สุวรรณภูมิ
    บุตรนายทวี ศรีโคตร (เสียชีวิตปี42)
    พ่อผมได้เล่าและเคยบอกผมติดต่อท่าน
    ผมไปร้านที่พ่อเคยพาไปไม่พบพ่อใหญ่
    ก็ไม่มั่นใจว่าเป็นท่านคือคนๆเดียวกับที่พ่อบอกหรือเปล่าครับ
    (ผม...โดนใจบทความนี้มากครับ)
    kitmanoon@gmail.com

    ตอบลบ