วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ รวม YouTube

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๐-๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗ ผมได้รู้จักท่าน ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย ท่านได้มีเมตตาทำให้ผมได้รู้จักท่าน "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" (อ่านเรื่อง ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย เล่าเรื่อง “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” )  ซึ่งท่าน ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย ได้เขียนเรื่อง "หลวงพ่อของเรา" น่าอ่านอย่างยิ่งครับ  สำหรับผมเองแล้วได้รับความเมตตาจากท่าน ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย โดยท่านกรุณาส่งหนังสือเกี่ยวกับท่าน "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" มาให้ผม ดังนี้

 
 

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงทำให้ผมมีความตั้งใจว่าจะต้องเป็นส่วนหนึ่ง (เล็กๆ) ในการเผยแพร่คำสอนของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งจริงๆ แล้วมีหลายๆ ท่านได้รวบรวมไว้แล้ว เช่น ธรรมะของหลวงพ่อในรูปแบบ mp3  ดังนั้น เพื่อเป็นอีกหนทางหนึ่งสำหรับผู้ที่สะดวกฟังธรรมะผ่าน YouTube ผมจึงขออนุญาตรวบรวม Link YouTube ของท่านที่มีจิตศรัทธาในหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้ดำเนินการไว้ ดังต่อไปนี้

 
กรรมฐาน 40 01 กสิณ 10 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  (โดยท่าน naysanook bank ได้รวบรวมไว้ ๖๓ เรื่อง)
 
การเจริญกรรมฐาน ทางสู่พระนิพพาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  (โดยท่าน DrSeripiput Srimuang ได้รวบรวม)
 
สมาธิ สมถะ วิปัสสนา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  (โดยท่าน DrSeripiput Srimuang ได้รวบรวม)
 
พุทธานุสติกรรมฐาน  (โดยท่าน Tanat Tonguthaisri ได้รวบรวม) 
 
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตอบปัญหาธรรม  (โดยท่าน birdcomloso ได้รวบรวมไว้ ๑๓ เรื่อง)
 
หลวงพ่อฤาษีลิงดำสรรเสริญในหลวง (โดยท่าน Natichai Pansuwan ได้รวบรวม)
 
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเรื่องพระเจ้าตากสินมหาราช (โดยท่าน tharat noiyai· ได้รวบรวม)  

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สมาธิจิต (โดยท่าน birdcomloso ได้รวบรวม)  

วิธีการเข้าถึงพระนิพพาน  (โดยท่าน Sompong Tungmepol ได้รวบรวม)

วิธีทรงอารมณ์สมาธีให้ได้เร็วๆ  (โดยท่าน ศิลป์ ศิริ ได้รวบรวม)

เสียงสารธรรม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (โดยท่าน Thitima Euu Liu ได้รวบรวมไว้ ๒๔ เรื่อง)

มโนมยิทธิ - หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (โดยท่าน Lokthip ได้รวบรวม)
 
หลวงพ่อฤาษี  หนีนรก ตอนที่ ๑   (โดยท่าน watpotv ได้รวบรวมไว้)

                 ตอนที่ ๒
                 ตอนที่ ๓  
                 ตอนที่ ๔
                 ตอนที่ ๕
                 ตอนที่ ๖
                 ตอนที่ ๗
                 ตอนที่ ๘
                 ตอนที่ ๙
                 ตอนที่ ๑๐
                 ตอนที่ ๑๑
                 ตอนที่ ๑๒
                 ตอนที่ ๑๓
                 ตอนที่ ๑๔
                 ตอนที่ ๑๕
                 ตอนที่ ๑๖
                
                 ตอนที่ ๑๗
                 ตอนที่ ๑๘
                 ตอนที่ ๑๙
                 ตอนที่ ๒๐
                 ตอนที่ ๒๑ 
                 ตอนที่ ๒๒
                 ตอนที่ ๒๓
                 ตอนที่ ๒๔

 หลวงพ่อฤาษี ตอนเกี่ยวกับแผ่นดินไหว และเกี่ยวกับ ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย      

      






 
 
 
หลวงพ่อนามระบือ หลวงพ่อคือผู้ชี้นำ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  สอนพระธรรมนำความดี

หลวงพ่อสอนให้คิด พร้อมฝึกจิตคิดทำดี
นิพพานได้ยิ่งดี เสริมชีวีมีความสุข

หลวงพ่อมีพระคุณ สร้างผลบุญให้พ้นทุกข์
ชีวิตอาจสนุก ไม่สิ้นทุกข์เกิดเวียนวน 

หลวงพ่อสอนดียิ่ง พบความจริงทางหลุดพ้น
นิพพานได้ทุกคน หากอดทนฝึกจิตเอย

มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๒๙ เมษายน ๒๕๕๗







     


 


 
 

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

ว่าด้วย U-NET

ช่วงนี้รู้สึกว่าคำว่า U-Net กระแสแรงมากๆๆ  และก่อนอื่นผู้เขียนต้องขออนุญาตออกตัวก่อนว่า ที่เขียนเรื่องนี้นั้นเนื่องจากเคยปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานศูนย์สอบ O-Net A-Net GAT/PAT ของศูนย์สอบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (รับผิดชอบ ๔ จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และ อำนาจเจริญ) ช่วงหนึ่ง พ.ศ.๒๕๔๗-๒๕๕๓ และที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับสถาบันใดๆ ทั้งนี้ 

สำหรับ O-Net เป็นสิ่งที่นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ ๖ ทุกคนจะต้องสอบโดยที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย (แต่อาจจะต้องเสียค่าเดินทางไปสอบหากโรงเรียนนั้นห่างไกลจากสนามสอบ) ซึ่งครั้งหนึ่งผมเจอกับเด็กนักเรียนบ้านนอก (ที่บอกว่าบ้านนอก เพราะเป็นเขาเรียนที่โรงเรียนตำบล) ต้องเข้ามาสอบในตัวอำเภอ เขาบอกผมว่าเมื่อเขาจบแล้วเขาจะไปทำนาจะต้องสอบ O-Net ด้วยเหรอ ผู้เขียนได้แต่ยิ้มเพราะไม่สามารถจะตอบอธิบายเพิ่มเติมได้ 

สำหรับ A-Net และ มาเป็น GAT/PAT นั้น เป็นวิชาที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบ (เอาง่ายๆ ว่าไม่มีเงินก็ไม่ได้สอบ) เป็นวิชาเฉพาะวิชาชีพ เช่น ความถนัดครู ความถนัดวิศวะ เป็นต้น โดยวิชาความถนัดเหล่านี้ จะได้ในการเลือกเข้าคณะที่ต้องการ 

สำหรับในปัจจุบันคณะสาขาต่างๆ ในมหาวิทยาลัยเมื่อนักศึกษาจะสำเร็จการศึกษาเพื่อไปประกอบอาชีพในสาขาวิชาชีพของตน เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวะ นิติศาสตร์ เภสัช เป็นต้น และที่สำคัญคือ คณะต่างจะมีสภาชีพเป็นหน่วยงานที่ควบคุมคุณภาพ หากไม่มีก็จะมีสภาคณบดีคอยประชุมกันปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไรให้บัณฑิตของคณะมีคุณภาพเพื่อออกไปรับใช้สังคมประเทศชาติ เช่น สภาคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ สภาคณบดีคณะเกษตรศาสตร์ เป็นต้น

ที่นี้ กลับมาที่ U-Net หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบอกว่ากฎหมายกำหนดไว้จะต้องทำการทำการทดสอบทุกระดับ ผู้เขียนคิดว่าเมื่อกฎหมายกำหนดไว้ ก็น่าจะสามารถแก้กฎหมายได้ (เพราะหากว่ากฎหมายดังกล่าวเกิดความเดือดร้อนให้ผู้เกี่ยวข้องเกิดปัญหา กฎหมายดังกล่าวก็ไม่น่าจะมีประโยชน์ใดๆ) เพราะที่สำคัญ คือ หากจะสอบบรรจุตำแหน่งข้าราชการต่างๆ ก็ต้องสอบ ก.พ. ภาคต่างๆ อยู่แล้ว  ซึ่ง U-Net ที่เห็นบอกว่าจะมีวิชาเกี่ยวกับการวัดคุณธรรมของบัณฑิตปริญญาตรี สำหรับเรื่อง "คุณธรรม" จะต้องปลูกฝั่งกันตั้งแต่เด็กๆ  ดังนั้น กระบวนดังกล่าวจะต้องบูรณาการกับ สพฐ. ท้องถิ่น ผู้ปกครอง สำนักพุทธศาสนา และอื่นๆ  หรือจะเป็นวิชาอื่นก็เช่นเดียวกันครับ 

เอาเป็นว่า U-Net ผู้เขียนคิดว่าน่าจะมีการทบทวนให้รอบคอบในทุกๆ ด้านทุกมิติโดยยึดหลัก ๒ ป. คือ "ประโยชน์และประหยัด"  

และสุดท้ายนี้ หากสามารถทบทวนเกี่ยวกับเรื่องในปัจจุบันที่กำลังสอบกันอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้คือ การสอบ GAT/PAT ทำอย่างไรเด็กนักเรียนบ้านนอกที่ไม่มีเงินค่าสมัครเข้าจะได้มีโอกาสได้สอบวิชาความถนัดเหล่านี้ ซึ่งจริงๆ แล้วถือว่าไม่ยุติธรรมเลย  "ไม่มีเงินไม่ได้สอบ" ผู้เขียนคิดว่าเป็นแนวคิดที่อาจจะต้องปรับกันนะครับ 


สอบไปเพื่อวัดผล ที่ทุกคนควรได้สอบ
บางครั้งอาจไม่ชอบ ต้องขอบอกให้เปลี่ยนแปลง

การสอบยึด ๒ ป.  ให้เพียงพอไม่แอบแฝง
ประโยชน์ไม่ปรุงแต่ง พร้อมแสดงทางประหยัด

U-Net ต้องทบทวน โดยเร่งด่วนและเร่งรัด
ทุกอย่างอย่าผูกมัด  โดยต้องจัดให้ดีเอย

มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
อดีตประธานศูนย์สอบ O-Net A-Net GAT/PAT 
ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 
พ.ศ.๒๕๔๗-๒๕๕๓ 
๒๖ เมษายน ๒๕๕๗


วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

ข้อเท้า ข้อกรรม

     เรื่องของ "ข้อเท้า" เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำคัญคนเรา  สำหรับผมเองมีปัญหาเรื่อง "ข้อเท้าซ้าย" มาหลายสิบปีแล้ว  เพราะเนื่องจากเมื่อตอนสมัยเด็กๆ (ชั้นประถมศึกษา) เล่นฟุตบอลก็ใช้เท้าซ้ายนี่แหละ (เนื่องจากเป็นคนที่ถนัดซ้าย หมายถึง เล่นกีฬา ใช้กำลัง ใช้เท้าซ้าย แขนซ้าย แต่ สองอย่างที่ใช้ขวา คือ รับประทานอาหารและเขียนหนังสือ) พอมามัธยมศึกษาก็เริ่มเล่นบาสเกตบอล ซึ่งก็ต้องใช้ข้อเท้าเป็นส่วนมากในการวิ่งและกระโดด จนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายก็เล่นให้ทีมบาสเกตบอลโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย และเล่นเป็นตัวแทนทีมบาสเกตบอลเยาวชนจังหวัดร้อยเอ็ด พอมาถึงระดับอุดมศึกษาก็มีโอกาสได้เล่นบาสเกตบอลให้ทีมมหาวิทยาลัยขอนแก่น (พ.ศ.๒๕๒๘-๒๕๓๑) 

    ที่นี้ ขอกลับมาที่เรื่อง "ข้อเท้า" (ยังไม่ถึง "ข้อกรรม" นะครับ) จำได้ว่าในช่วง พ.ศ.๒๕๒๙ ทีมมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ลงเล่นกับทีมจังหวัดอุดรธานี ณ โรงยิมมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผมก็ได้มีโอกาสลงเล่น แต่ว่าผมเกิดโชคร้ายข้อเท้าพลิกอย่างรุนแรง แต่ไม่ถึงกับเอ็นฉีกหรือขาด หรือแตกหัก เข้าใจว่าตอนนั้นรักษาธรรมดาก็หาย ในที่สุดก็ใช้เวลาในการรักษาดูแลข้อเท้าอยู่เป็นเวลาพักหนึ่ง ข้อเท้าก็กลับมาเป็นปกติ (อาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะเนื่องจากเวลาเล่นกีฬาก็มีความรู้สึกว่าจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น) ผมก็ยังเล่นกีฬาเหมือนเดิมแต่อาจจะไม่ดีเหมือนเดิม 
   
     เวลาล่วงเลยมาหลายสิบปี จนอายุมากยิ่งขึ้น "ข้อเท้า" ของผมจำเป็นจะต้องใช้อยู่เป็นประจำทั้งเดินทั้งวิ่ง (แต่วิ่งนี่ ไม่ค่อยจะได้วิ่งสักเท่าไรนัก) เกิดมีปัญหามีความรู้สึกว่า "ข้อเท้า" มันมีเสียงดังเวลาหมุนข้อเท้าและจะปวดส้นเท้าอยู่เป็นประจำ สรุปง่ายๆ ว่า "ข้อเท้ามีปัญหา" ต้องคอยดูแลเป็นอย่างดี ก่อนนอนจะต้องคลายข้อเท้า (เส้นเอ็น) ตอนเช้าตื่นนอนก็ต้องหมุนข้อเท้าให้เข้าที่เพื่อจะไม่ให้มีปัญหาส่งผลต่อเส้นเอ็นไปถึงหัวเข่า เอว และซีกซ้ายทั้งหมด  (ซึ่งจริงๆ ปัญหาของเส้นเอ็นต่างๆ ของร่างกายมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันไปทั้งหมด ดังนั้น จะต้องดูแลเรื่องของเส้นเอ็นข้อต่างๆ ให้ดีๆ ครับ) 



    เป็นอันว่าเรื่องของข้อเท้าคงจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ และคงจะแย่ลงไปตามระยะเวลาสังขารของเราอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้เพราะทุกอย่างไม่เที่ยงเกิดมาแล้วย่อมดับไปในที่สุด ซึ่งอีกอย่างหนึ่งน่าจะเป็นเพราะกรรมที่ตัวเราอาจจะทำเรื่องข้อเท้าไว้ในอดีตหรือชาติก่อน จึงนำมาสู่ที่เรียกว่า "ข้อกรรม" หรือผมเคยไปกระทำข้อเท้าของใครไว้ เจ้ากรรมนายเวร (ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ตามแต่) เขาจึงยังไม่อโหสิกรรมอภัยให้  ก็ได้แต่หวังว่า "ข้อเท้า" "ข้อกรรม" ดังกล่าวจะดีขึ้นในสักวัน เพราะผมเชื่อว่าบางครั้งบางเรื่องที่เกิดกับตัวเราแล้วไม่หายสักทีคงจะเป็นเรื่องของกรรมเก่าที่เราได้กระทำไว้ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ) 
   
     สุดท้ายนี้  หากท่านใดที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพก็ขอให้ท่านหายไวๆ ทำจิตใจให้ผ่องใส่มีความสุขทำบุญกุศลแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ "ให้อโสสิกรรม อภัยต่อกันและกัน" แล้วทุกอย่างจะเกิดสุขอย่างยั่งยืน ครับ

มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๑๙ เมษายน ๒๕๕๗ 
      


วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

โครงการ "กฐินสามัคคี ๒๐ ปี จภ.ม."



หลักการและเหตุผล
     เนื่องด้วยปี พ.ศ. ๒๕๕๗ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร ครบรอบ ๒๐ ปีแห่งการสถาปนาการก่อตั้ง โดยที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า ๒๐ ปี ได้จัดการเรียนการสอนสร้างผลผลิตนักเรียนที่มีคุณภาพสู่ระดับอุดมศึกษาอันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยในด้านวิทยาศาสตร์  และสิ่งที่หนึ่งที่โรงเรียนได้ดำเนินการคู่กันกับการบริหารการศึกษามาตลอด คือ "การอนุรักษ์พุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ" ซึ่งสำหรับการทำนุบำรุงพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่โรงเรียนได้ตระหนักให้ความสำคัญอย่างยิ่งเสมอมา เพื่อให้ครูอาจารย์ บุคลากร นักเรียนและผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมหลอมจิตศรัทธาในการกระทำความดีทำให้จิตใจผ่องใสเกิดความสุขที่ยั่งยืน กล่าวสำหรับนักเรียนหากได้ใส่ใจในเรื่องพุทธศาสนา เสริมสร้าง "สติ" เกิด "สมาธิ" นำไปสู่ "ปัญญา" อันจะเป็นโยชน์ต่อการเรียนต่อไปในอนาคต  ดังนั้น เพื่อเป็นการน้อมนำการทำนุบำรุงพุทธศาสนาและในโอกาสโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร ครบรอบ ๒๐ ปี จึงสมควรจัดทำโครงการ "กฐินสามัคคี ๒๐ ปี จภ.ม."
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนา
๒. เพื่อส่งเสริมให้ครูอาจารย์ บุคลากร นักเรียนและผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมครบรอบ ๒๐ ปีของโรงเรียน
๓. เพื่อจัดหาปัจจัยสมทบการจัดสร้างพระพุทธใหญ่เฉลิมพระเกียรติฯ
สถานที่และวันเวลา

วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร วันอาทิตย์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗


กำหนดการทำบุญทอดผ้ากฐินสามัคคี
ณ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์
อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร

        โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร  ขอเรียนเชิญทุกท่านผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย ร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญทอดผ้ากฐินสามัคคี   ณ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อำเภอเมือง  จังหวัดมุกดาหาร กำหนดการดังต่อไปนี้

วันเสาร์ที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นวันรวมจัดตั้งองค์กฐิน ณ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์
 เวลา ๐๙.๐๐ น. จัดเตรียมสถานที่ตั้งองค์กฐินสามัคคี
 เวลา ๑๙.๐๐ น. สวดมนต์เย็น

วันอาทิตย์ที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นวันทอดกฐินสามัคคี
 เวลา ๐๘.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้า

 เวลา ๐๘.๓๐ น. พระภิกษุสงฆ์ฉันภัตตาหารเช้า       
 เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้ากฐินสามัคคี

 เวลา ๑๐.๐๐ น. แสดงพระธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์
                  
     ดังนั้น โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร  และทายก – ทายิกา วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จึงขอเรียนเชิญทุกท่านผู้มีจิตศรัทธาได้โปรดไปร่วมทำบุญทอดผ้ากฐินสามัคคีในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกันเทอญ


                         ขอเรียนเชิญทุกท่านด้วยความเคารพนับถือ
โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร 
คณะทายก – ทายิกา วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์









คณะกรรมการที่ปรึกษา
ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร  ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ


นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร คณะกรรมการที่ปรึกษา
นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร คณะกรรมการที่ปรึกษา
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขตที่ ๒๒ คณะกรรมการที่ปรึกษา
ประธานสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร คณะกรรมการที่ปรึกษา

คณะกรรมการดำเนินงาน
ผู้อำนวยการโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร  ประธาน
รองผู้อำนวยการโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร (ทุกท่าน) รองประธาน
คณาจารย์บุคลากรโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร (ทุกท่าน) กรรมการ
ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร (ทุกท่าน) กรรมการ
ศิษย์เก่าโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร (ทุกท่าน) กรรมการ


      "กฐินสามัคคี"
 =================
 ทอดกฐิน ยินรู้ ดูมานาน
 ผ่านพบกาล สานต่อ ก่อเกิดผล
 ออกพรรษา พาน้อม พร้อมทุกคน
 อุทิศตน ค้นหา อาสาธรรม


 กฐินดี มีร่วม รวมศรัทธา
 ศาสนา พาใจ ให้น้อมนำ
 สามัคคี มีค่า พาสุขล้ำ
 ร่วมจดจำ ธรรมะ กฐินเอย


ผศ.ดร.มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
ประธานสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร 
๑๘ เมษายน ๒๕๕๗







 เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อกราบเรียนเชิญท่านเป็นประธาน "กฐินสามัคคี" (เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๗) 
ณ วัดภูมโนรมย์ วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ จะมีงานกฐินสามัคคี ๒๐ ปี จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร (จภ.ม.) ขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมทำบุญ

กฐินสามัคคี ยี่สิบปี จภ.ม.

ทุกท่านตั้งตารอ มาร่วมก่อผลกรรมดี

วัดภูมโนรมย์ มาชื่นชมทำความดี

กฐินสามัคคี นำชีวีสุขนิรันดร์

ขอเชิญร่วมอุทิศ ด้วยดวงจิตที่เสกสรรค์

ชาติหน้าสู่สวรรค์ มาลงขันร่วมทำบุญ

หนึ่งปีมีครั้งเดียว อย่าเสียเที่ยวมาเกื้อหนุน

ขอกราบขอบพระคุณ ขอผลบุญนิพพานเอย

มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์

ประธานสถานศึกษาฯ จภ.ม.
๒๒ กันยายน ๒๕๕๗







วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ จะมีพิธีถวาย "พระศรีรัตนมโณรมย์"






เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ ผมได้มีโอกาสขึ้นมาชมสถานที่ก่อสร้างพระใหญ่ ณ ภูมโนรมย์ นับว่าเป็นวาสนา ครับ 
















เกี่ยวกับเรื่องเล่า (ที่ฟังด้วยหูของผมเอง) 
   เมื่อปี ๒๕๕๕ น่าจะประมาณช่วงเข้าพรรษา ผู้เขียนในฐานะประธานตรวจการจ้างการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราช (ณ ภูผาเจีย วิทยาเขตมุกดาหาร ม.อุบลฯ) และ ดร.ฉัตรภูมิ วิรัตน์จันทร์ (กรรมการตรวจการจ้างฯ) ได้มีโอกาสไปดูสถานที่ก่อสร้างพระใหญ่ (ณ ภูมโนรมย์ มุกดาหาร) ได้เจอกันนายช่าง (วิศวกรผู้ควบคุมงาน)  ผู้เขียนจำชื่อท่านไม่ได้ เป็นชายร่างท่วมใหญ่ผิวดำ เห็นบอกว่าเป็นคนใต้ (ภาคใต้) เมื่อยืนคุยกันเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการเจาะหินทำฐานรากองค์พระใหญ่  (ทั้งนี้ เนื่องจากการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราช ก็จะต้องเจาะหิน (ณ ภูผาเจีย) เพื่อจัดทำฐานรากอาคารเช่นกัน  นายช่างเล่าให้ฟังต่อว่าการทำฐานรากที่ภูมโนรมย์ค่อนข้างจะมีปัญหาอุปสรรคพอสมควร เนื่องจากเป็นหินและพื้นที่ลาดชัน การทำงานในช่วงนั้นที่พักคนงานก็พักใกล้บนภูมโนรมย์ เจอปัญหาเรื่องการทำงานค่อนข้างมา คนงานได้รับอุบัติเหตุบ้าง คนงานทะเลาะกันบ้าง ต่อไปนี้ เป็นคำพูดของนายช่างท่านดังกล่าว 

"มีอยู่คืนหนึ่งผมฝันว่ามีคนหนุ่มนุ่งห่มขาวมาหาผมแล้วถามผมว่ามาทำอะไรกัน ผมก็ตอบไปว่ามาคุมงานก่อสร้างครับ  หลายคืนต่อมาผมฝันอีก มีคนแก่นุ่งห่มขาวมาหาอีก เตือนให้ระมัดระวังในการก่อสร้าง   ผมเองไม่คอยจะเชื่อเรื่องราวแบบนี้สักเท่าไรนัก ทำงานไปสักระยะหนึ่งปัญหาก็เกิดขึ้น อย่างที่เล่าให้ฟังไปแล้วว่าการทำงานไม่ค่อยจะราบรื่น ผู้รับงานขุดเจาะหินฐานรากจะหยุดการเจาะในทุกวันพระ ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร  ปรากฏว่าหลายคืนต่อมาผมฝันอีกเช่นเคยคือ เจอกับคนหนุ่มคนแก่เด็กที่นุ่งห่มขาวมาหาเป็นประจำ จนในที่สุดผมเองลองทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ คือ ทุกวันพระผมจะปฏิบัติธรรม (นั่งสมาธิสวดมนต์) นุ่งห่มขาวเช่นกัน ปรากฏว่าการทำงานราบรื่น (และที่สำคัญผมให้คนงานก่อสร้างออกไปพักที่อื่น เวลาเลิกงานจะได้ไม่มาดื่มเหล้าในแถวบริเวณเขตก่อสร้างจะได้มีได้มาทะเลาะกันมีเรื่องมีราวกัน)  และประการสำคัญคือ บริษัทของผมได้รับการพิจารณาให้ทำงานก่อสร้างต่อในสัญญาที่สอง  และอีกเรื่องที่สำคัญ คือ ในความฝันของผมที่คนนุ่งห่มขาวมาบอก คือ ณ ที่แห่งนี้ (ภูมโนรมย์) เป็นสถานที่เชื่อมต่อของสามโลก คือ บาดาล มนุษย์และสวรรค์" 

ครับ ที่เล่าและพยายามเขียนบันทึกตามข้างต้นนั้น เป็นสิ่งผู้เขียนได้ฟังมาด้วยตนเอง ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านได้พิจารณาด้วยสติและปัญญาของท่านเองนะครับ ผู้เขียนเป็นเพียงผู้ที่บันทึกและถ่ายทอดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็นภพโลกใดก็ตามแต่ "ความดี" เป็นสิ่งที่ต้องการของทั้งสามโลก "ความดีที่จากจิตของเรา จะทำให้เกิดสิ่งดีๆ ตามมาในที่สุด และความดีดังกล่าวจะอยู่ยั่งยืนไปตลอดกาลทั้งสามโลก"

มณญูพงศ์ ศรีวิรัตน์
ผู้เขียนบันทึก 


































































































  




วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

Friends M6(2) 101

โครงการ "มอหกรุ่นสองร้อยเอ็ดวิทยาลัยร่วมใจสามสิบปีสร้างสรรค์สิ่งดีต่อสังคม" ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗
จบมาสามสิบปี รวมจิตดีเพื่อสังคม
พวกเรามาชื่นชม กราบพนมร้อยดวงใจ


รอวอแหล่งเรียนรู้ พระคุณครูผู้ยิ่งใหญ่
ร้อยเอ็ดวิทยาลัย หลอมรวมใจใฝ่สร้างสรรค์


บัดนี้เพื่อนพร้อมเพรียง มาร้อยเรียงพร้อมหน้ากัน
เพื่อนมิตรเรารักกัน สร้างสัมพันธ์อย่างยั่งยืน


จบมาอาจจะนาน ใจประสานทุกวันคืน
รวมใจจิตระรื่น ร่วมชื่นมื่นสรรสร้างดี


ปีนี้ถือสำคัญ พร้อมใจกันสามสิบปี
มาร่วมให้มากมี  สุขฤดีได้เจอกัน


ทุกคนคือเพื่อนมิตร มาผูกจิตรักนิรันดร์
ปีนี้เชิญรวมกัน เสกสร้างสรรค์สิ่งดีเอย


ตุ้ย
ม.๖/๑๑ ร้อยเอ็ดวิทยาลัยรุ่นสอง
มาถึงตอนนี้ขออนุญาตนำเสนอภาพเมื่อนานมาแล้ว เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ระลึกถึงความหลัง














































































“เพื่อน” => “เพื่อนตาย”

 เพื่อนมากมาย หลายอย่าง บ้างก็ดี
 เพื่อนไม่ดี มีบ้าง อย่างรู้กัน
 เพื่อนวัยเด็ก เล็กมาก ยากเจอกัน
 เพื่อนวัยมันส์ สรรแต่ง แย่งกันดี


 เพื่อนทำงาน วานไหว้ ให้ช่วยกัน
 ร่วมสร้างสรรค์ มั่นเพียร เรียนรู้ดี
 เพื่อนชรา หาสู่ รู้เรื่องดี
 เพื่อนไม่มี หนีจาก พรากห่างกัน


 เพื่อนอยู่ใกล้ ไม่ห่าง ต่างไม่เห็น
 เพื่อนจำเป็น เข้าออก บอกสำคัญ
 เพื่อนที่ว่า พาช่วย ด้วยทุกวัน
 เพื่อนใกล้กัน นั่นคือ ลมหายใจ


 เพื่อนของเรา เก่าใหม่ ใฝ่ให้รู้
 เพื่อนค้ำชู ดูแล และใส่ใจ
 เพื่อนอันนี้ มีดี กว่าใครใคร
 เพื่อนเข้าใจ ให้แน่ แท้เพื่อนเอย


 ตุ้ย
 ๗ มิถุนายน ๒๕๕๖


 

พวกเราต่างเพื่อนมิตร ร้อยเอ็ดวิทยาลัย
 เพื่อนฝูงมารวมใจ ผูกมัดใจเป็นเพื่อนกัน
 เพื่อนมอหกรอวอ ต่างเฝ้ารอมาสังสรรค์
 ทุกคนมาพร้อมกัน ร่วมสุขสันต์นิรันดร์เอย
ตุ้ย
๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๖
สุดท้ายในตอนนี้ หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ช่วยกันนำภาพเก่าที่ทุกคนมีอยู่มาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน แล้วจะทำให้ความผูกพันของพวกเรายั่งยืนนาน

ดังนั้น ในช่วงนี้ขอให้เพื่อนๆ ฟังเพลงนี้ครับ "วันวานยังหวานอยู่"