วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไปทัศนาศึกษากัมพูชากับ ชสอ. ได้อะไรบ้าง?

มุ่งหน้าสู่อรัญฯ 
แดนเขตขันธ์กัมพูชา
อดีตไม่เคยมา 
โอกาสพามาชายแดน

ชีวิตต้องเดินทาง 
ไปที่ต่างห่างไกลแสน
ต้องเที่ยวไปทั่วแดน 
เมืองชายแดนยิ่งน่าไป

เพื่อนำสู่อาเซียน 
เชื่อมต่อเพื่อนจากแดนไกล
อาเซียนอยู่ไม่ไกล 
แห่งแรกไป "อรัญฯ" เอย




อีกเรื่องที่น่าจะรู้ นะครับ กัมพูชา เป็นประเทศกำลังพัฒนาได้รับการยกเว้นภาษีจากกลุ่มประเทศ EU ในเรื่องของเสื้อผ้า ดังนั้น จึงมีโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่กัมพูชาหลายร้อยโรงงาน (ประมาณ ๕๐๐ โรงงาน) ประเทศจีนก็มาลงทุนเยอะมาก ค่าแรงก็ประมาณเดือนละ ๒๘๐๐ บาท ๓๐๐๐ บาท โดยประมาณ เมื่อผลิตเสร็จแล้วก็ส่งขายที่ยุโรปอย่างเดียว ดังนั้น จะเห็นว่า หากค่าแรงขั้นต่ำ ๓๐๐ บาทต่อวัน ทำให้เป็นแรงจูงใจให้คนกัมพูชาเข้ามาทำงานในประเทศไทย ครับ


ได้ทราบจากไกด์เช่นกันว่า เมืองพระตะบอง เป็นเมืองการเกษตรของกัมพูชาที่สำคัญมาก โดยพืชผักผลไม้จากเมืองนี้จะไม่ใช้สารเคมี แต่อย่างไรก็ตาม จะราคาค่อนข้างแพงกว่าผลไม้ที่มาจากประเทศไทย (อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหตุผลว่า ทำไมผลไม้ไทยจึงถุกกว่า หรือว่าอาจจะเป็นเพราะใช้สารเคมี อันนี้ล้อเล่น ครับ ไม่ทราบจริงๆ )

วัดนี้ก็เป็นวัดเก่าแก่ที่พระตะบอง สิ่งหนึ่งให้ทราบว่า ช้างนั้้นเป็นพาหนะที่สำคัญอย่างยิ่ง และภายในวัดนี้ก็มีโรงเรียนภายในวัด ซึ่งก็เหมือนๆ กับวัดในประเทศไทยหลายๆ แห่งที่มีโรงเรียนอยู่ด้วยกัน เพราะจะต้องให้ความสำคัญกับด้านการศึกษา


น้ำมันที่กัมพูชา ราคาประมาณลิตรละ ๕๘ บาท สูงกว่าเมืองไทยของเรามากๆ ค่าแรงตำกว่าเมืองไทย แต่ค่าครองชีพสูงกว่าเมืองไทย (ดังนั้น เมืองไทยของเราจะต้องพยายามบริหารจัดการให้มีความสมดุลในเรื่องดังกล่าว)








สถานที่แห่งนี้เป็น Casino ด้วย เขานำสิ่งนี้มาจัดวางไว้กลาง LOBBY ต้องมีความหมายสักอย่าง อันนี้ผมขอเดาว่า "ไม่ว่าคนเล่นจะเป็นอย่างไร แต่เจ้าของ Casino มีทั้ง ๔ หน้า ๘ ลูกตา ย่อมเห็นได้ทั้งหมด และมียักษ์เฝ้าด้วย ไม่มีทางที่คนเล่นจะได้อะไรออกไป" เดาเฉยๆๆๆ นะครับ อ้างอิง http://www.nagaworld.com/



ทุ่งสังหาร Killing Fields 
มีประวัติเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ด้านสงครามของประเทศกัมพูชา ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า “ความขัดแย้ง ความแตกแยก นำมาสู่สงคราม” ความขัดแย้งอาจจะเกิดจากสาเหตุหลายอย่าง ด้านความคิดเห็น ด้านความต้องการอำนาจ และอื่นๆ 
      ดังนั้น ประเทศไทยของเราหากว่า ยังมีความขัดแย้ง ความแตกแยกกันที่หากนับว่าจะมากยิ่งๆ ขึ้น สักวันก็อาจจะนำไปสู่เรื่องของสงครามก็ได้ ซึ่งในปัจจุบันคนไทยก็เริ่มจะเห็นแล้วว่า เราก็มี “สงครามน้ำลายของนักการเมือง” 
      คำถามคือ แก้ยากหรือไม่ในเรื่องสงครามน้ำลายของนักการเมือง ทั้งที่ในความจริงนักการเมืองต่างก็เข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่จัดขึ้นมากมาย (ซึ่งหลักสูตรเหล่านั้นล้วนใช้เงินงบประมาณมากมายที่เป็นภาษีของประชาชน มีการศึกษาดูงานต่างประเทศเกือบทุกหลักสูตร) แล้วไงละครับ อบรมแล้วเป็นไงบ้าง ผลของการอบรม ประชาชนได้อะไรบ้างมีใครที่จะตอบอธิบายได้บ้าง บ้างครั้งหากนำเงินเหล่านั้นกลับมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากไร้ด้อยโอกาสบ้างก็จะดี นะครับ
เพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับทุ่งสังหารได้ที่ www.cekillingfield.com

ทุ่งสังหารชีวิต 
หากเราคิดเป็นบทเรียน
ทำให้คอยย้ำเตือน 
ให้บ้านเมืองได้งดงาม

หากมีความแตกแยก 
อาจต้องแลกด้วยสงคราม 
คนเราต้องเป็นยาม 
คอยติดตามนักการเมือง

นักการเมืองที่ดี 
เป็นศักดิ์ศรีของบ้านเมือง
เมืองไทยจะรุ่งเรือง 
ความขุ่นเคืองหมดไปเอย


ณ กัมพูชา เช้าวันนี้ (๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖) เข้าชมพระราชวังของกัมพูชา 

ชมพระราชวัง 
เรื่องความหลังมาช้านาน
กัมพูชาตำนาน 
ถูกกล่าวขานมานานนม

มีสิ่งที่สำคัญ 
ล้วนผูกพันต่างชื่นชม
ผู้คนต่างถิ่นชม 
อภิรมย์พระราชวัง



มากัมพูชา (เพื่อรองรับอาเซียน) ทำให้ทราบจากไกด์นำเที่ยวว่า ที่มาของชื่อ "พนมเปญ" มาจากไหน คือ เมื่อประมาณ ๕๐๐ กว่าปีที่ผ่านมาบริเวณของกรุงพนมเปญในปัจจุบัน มีท่อนไม้ขนาดใหญ่ไหลมากับแม่น้ำไขง ปรากฏว่าท่อนไม้ดังกล่าวก็ไม่ไหลไปไหนสักที่จนมี คุณยายท่านหนึ่งชื่อว่า "เปญ" ซึ่งเป็นเศรษฐีนีได้ให้คนงานนำท่อนไม้ขึ้นมาจากน้ำ จึงได้เห็นว่ามีพระพุทธรูปจำนวน ๕ องค์อยู่ในท่อนน้ำ แล้วยาย "เปญ" ก็ได้ใช้เงินส่วนตัวจ้างคนนำดินมาทำเป็นภูเขาเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมกันกราบไหว้ สักการะ ซึ่ง "พนม" แปลว่าภูเขา ชาวบ้านก็เลยเรียกสถานที่ดังกล่าวว่า "พนมเปญ" โดยปัจจุบันเป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปดังกล่าว และวัดนี้ไม่มีพระสงฆ์จำวัด (ซึ่งจะเหมือนกับวัดพระแก้วของประเทศไทย)




แผนที่การเดินทาง น่าจะประมาณ ๑๐๐๐ กิโลเมตร 

เดินทางอันแสนเหนื่อย 

นั่งจนเมื่อยยังไม่ถึง
ขับรถไม่ต้องบึ่ง 
อาจจะถึงอันตราย

นั่งรถอันยาวนาน 
ไม่สำราญต้องทำใจ
อยากถึงให้ไวไว 
ถึงเส้นชัยทันเวลา

นั่งให้ไม่เป็นทุกข์ 
ให้สนุกและหรรษา
ต้องพักอันสายตา 
พร้อมหลับตานั่งรถเอย




เด็กหญิงกัมพูชาคนนี้ ยิ้มเก่ง พูดเก่ง (ภาษาอังกฤษ ก็สามารถพูดสื่อสารเพื่อขายของได้) เดินตามคนซื้อตลอด ผมไม่ได้ซื้อ แต่ให้เงินไปเลย ๒๐๐๐ เรียล 
       ดังนั้น จะเห็นว่ากัมพูชาเรื่องภาษาอังกฤษ เด็กๆ ห่างไกลความเจริญ ยังใช้ภาษาอังกฤษเพื่อรองรับอาเซียน

หากว่าต้องขายของ 
คงจะต้องเก่งการยิ้ม
อีกทั้งให้ลองชิม 
แต่อย่าอิ่มกระหยิ่มใจ

ขายของต้องอดทน 
ให้ผู้คนได้ถูกใจ
อีกทั้งต้องใส่ใจ 
จะนำชัย "ขายของเอย"

เด็กเล็กจะเติบใหญ่ 
พร้อมก้าวไกลไปข้างหน้า
สักวันโอกาสมา 
เพื่อนำพาให้ได้ดี

เป็นเด็กต้องขยัน 
พร้อมต้องหมั่นทำความดี
ข้างหน้าของชีวี 
พบสิ่งดีแน่นอนเอย


บันใดของหน้าบ้าน 
เป็นทางผ่านสู่ที่สูง
บันใดคอยผดุง 
พร้อมชักจูงแขกมาหา

บันใดจะสูงต่ำ 
จะงามล้ำทุกเวลา
เจ้าบ้านต้องนำพา 
และรักษาบันใดเอย




SIEM REAP
คือ อะไรกันครับ หลายท่านอาจจะเป็นได้ยินชื่อดังกล่าว ก่อนอื่น SIEM คนไทยคงจะทราบดีว่าหมายถึงอะไร แต่กล่าวสำหรับ REAP หากแปลจากภาษาอังกฤษเป็นไทย จะมีความหมายว่า “เก็บเกี่ยว” หรือได้รับผลตอบแทน ด้วยเหตุดังกล่าว SIEM REAP เอาเป็นว่าแล้วแต่ละท่านให้แปลหรือให้ความหมายว่าอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญคือ ณ ที่ SIEM REAP นี้มี “นครวัด นครธม” ครับ ซึ่ง “นครวัด นครธม” เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ดังนั้น จึงเป็นสิ่งมนุษย์เราควรจะมาดูและศึกษาเรียนรู้ว่าที่นี้เป็นอย่างไร แล้วให้ข้อคิดอย่างไรบ้าง






นครวัดน่าชม 
นครธมยิ่งน่าดู
ผู้คนทั่วโลกรู้ 
ขอเชิดชูและบูชา

หนึ่งในเจ็ดของดี 
อันเป็นศรีกัมพูชา
ชีวิตหนึ่งต้องมา 
เพื่อพบพาอลังการ

นครวัดอัครา 
สร้างขึ้นมาเวลานาน
ศาสนาสถาน 
เป็นตำนานอันยิ่งใหญ่

นครธมทางเหนือ 
ถูกสร้างเพื่อเป็นแห่งใหม่
เป็นแหล่งอีกไม่ไกล 
ควรจะไปเพื่อชื่นชม

สองแห่งได้ถูกจัด 
นครวัดนครธม
ขอเชิญท่านมาชม 
อภิรมย์หรรษาเอย


ก้อนหินมหึมา 
ถูกตัดมาสร้างปราสาท
ก่อนเคยเรืองอำนาจ 
นามปราสาท "นครวัด"

ศาสนาสถาน 
เป็นตำนานจักรวรรดิ์
พระมหากษัตริย์ 
ได้ทรงตรัสให้จัดสร้าง

บูชาพระนารายณ์ 
หินเรียงรายเป็นแบบอย่าง
ถึงแม้จะเคยร้าง 
เป็นตัวอย่างความศรัทธา

หินใหญ่ล้วนต่างหนัก 
เหมือนกับยักษ์สร้างจัดหา
ยิ่งใหญ่ตระหง่านตา 
เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เป็นเทวสถาน 
เพื่อสืบสานเสริมความคิด
เหมือนกับเนรมิต 
ฟ้าลิขิตให้ได้มา




นครหินมาทางเหนือ 
ถูกสร้างเพื่อเป็นแห่งใหม่
ตั้งอยู่ไม่ห่างไกล 
พนาไพรอันงามตา

นามว่า "นครธม" 
สร้างพนมแด่เทวา
บางส่วนนครา 
สร้างขึ้นมาว่า"บายอน" 

"บายอน" เป็นปราสาท 
นาคราชมาเฝ้าวอน
อัปสรางามงอน 
ออกมาฟ้อนสวยงามจริง

ทั้วโลกออกมาชม 
นครธมสร้างใหญ่ยิ่ง
พวกเราต้องไม่ทิ้ง 
ไม่หยุดนิ่งมาชื่นชม

ปราสาทมีหลายที่ 
ต่างอีกมีชือ "ตาพรหม"
ต้องมานครธม 
ไม่ระทมที่ได้มา
ไปเที่ยวกัมพูชา 
ได้กลับมาอย่างมีสุข
ได้เที่ยวอย่างสนุก 
ถึงแม้ทุกข์กับเดินทาง

เริ่มผ่านที่ปอยเปต 
อันเป็นเขตแดนก้าวย่าง
ทุกอย่างต้องปล่อยวาง 
เพื่อเดินทางไปพนา

ต้องผ่านพระตะบอง 
เขตปกครองกัมพูชา
หลายท่านเคยผ่านมา 
คงต้องหาอันตะบอง

มาถึงพนมเปญ 
ถึงตอนเย็นไม่ได้มอง
เมืองหลวงไม่มีสอง 
กษัตริย์ครองมาช้านาน

วันรุ่งมุ่งไปหา 
เพื่อสืบหาทุุ่งสังหาร
ที่นี่ถูกกล่าวขาน 
เป็นตำนานที่น่าเศร้า

พนมเปญน่าเที่ยว 
แห่งที่เดียวมีภูเขา
ฟังผู้คนเคยเล่า 
ว่าภูเขาชื่อยาย "เปญ"

วันสองไปเสียมเรียบ 
ต้องพร้อมเพียบให้ถึงเย็น
เดินทางอาจยากเข็ญ 
ไม่ต้องเว้นเสียเวลา

เสียมเรียบมีของชม 
นครธมนครา
เมืองสร้างจากศิลา 
ยิ่งใหญ่มาเก้าร้อยปี

นครวัดเก่ากว่า 
ถูกสร้างมาเพื่อสิ่งดี
บูชาคือวิถี 
เป็นที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์

มาเที่ยวกัมพูชา 
ที่กล่าวมาคงได้คิด
ครั้งหนึ่งในชีวิต 
คงต้องคิดเพื่อไปเอย

มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ ม.อุบลฯ จำกัด


อ้างอิงรูปภาพ click ชมได้เลย



สรุปเป็นทางการจากการร่วมเดินทางไปทัศนาศึกษากับ ชสอ. เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558

1. ทำให้ทราบว่าหากมีของดีที่คนอื่นๆ ยังไม่มีจะต้องรีบเร่งพัฒนาปรับปรุงให้ดีๆ ยิ่งขึ้นไป
2. ทำให้ทราบว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะโดยข้อเท็จจริงกัมพูชาได้พัฒนาเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวให้กับผู้มีอาชีพที่เกี่ยวข้องได้ค่อนข้างดี "ภาษาอังกฤษดี ขายของดีเป็นร้อยเท่า" 
3. ทำให้ทราบว่าจะทำการประการใดๆ จะต้องมี "ศรัทธา" เป็นอันดับแรกสุดถึงสามารถทำการสิ่งใดได้ลุ่ล่วง ดั่งการสร้าง "นครวัด นครธม" 
4. ทำให้ทราบว่าการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ดีงามสมควรที่จะส่งเสริมอนุรักษ์ไว้นานแสนนาน ดังนั้น หากประเทศไทยแห่งไหนที่มีธรรมชาติสวยงามจะต้องส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อรองรับอาเซียน เช่น สามพันโบกที่อุบลราชธานี สามหมื่นรูที่อุบลราชธานี เป็นต้น

หมายเหตุ








วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โครงการ "อุทยานบึงบัวอุบลราชธานี (หนองขอน)"

โครงการ "อุทยานบึงบัวอุบลราชธานี (หนองขอน)"
หลักการ


         ปี พ.ศ.๒๕๖๐ จะเป็นปีมหามงคลอีกวาระหนึ่งที่ปวงชนชาวไทยทุกคนทุกหมู่เหล่าจะได้ถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ที่จะทรงพระเจริญพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พสกนิกรชาวไทยจะได้จัดทำจัดสร้างโครงการกิจกรรมต่างๆ เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านที่ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวไทยในการเป็นมิ่งขวัญและได้พระราชทานแนวทางการพัฒนาประเทศไทยในด้านต่างๆ อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์ท่านได้พระราชทานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จังหวัดอุบลราชธานีจะมีอายุครบ ๒๒๕ ในการถูกสถาปนาเป็น “เมืองอุบลราชธานี” ดังนั้น ในปีมหามงคลดังกล่าวจึงสมควรอย่างยิ่งที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าในจังหวัดอุบลราชธานีจะต้องจัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติ ๙๐ พรรษา มหาราชา

วัตถุประสงค์
๑.เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา มหาราชา ในปี พ.ศ.๒๕๖๐
๒.เพื่อเป็นการฉลองการสถาปนาเป็น “เมืองอุบลราชธานี” ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ อายุ ๒๒๕ ปี
๓.เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมจิตร่วมใจกันสามัคคีถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
๔.เพื่อจัดสร้างกิจกรรมโครงการตามข้อ ๑-๓

กิจกรรม 

เนื่องจากสถาบันที่สำคัญของประเทศไทยประกอบด้วยชาติ ศาสนา และมหากษัตริย์

๑. สถาบันพระมหากษัตริย์  เห็นควรจัดสร้างหอเฉลิมพระเกียรติ “นพเก้าเจ้าแผ่นดิน” ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ  ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา โดยหอดังกล่าวจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวพระราชประวัติฯ และพระราชกรณียกิจที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินฯ จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘ จนถึง ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๖

อุบลฯ จะก้าวหน้า  ทุกคนมาร่วมสานจิต
ออกมาร่วมผูกมิตร  อย่างใกล้ชิดด้วยจิตใจ

อุบลฯ ในวันหน้า  ต้องนำพาเพื่อก้าวไป
ห้าปีอีกไม่ไกล  ถวายไท้องค์ราชัน

สองห้าหกศูนย์  ลูกแม่มูลพร้อมใจกัน
เป็นปีเรารู้กัน  เก้าสิบพรรษาพ่อหลวงเรา

หอเฉลิมพระเกียรติ ตระหง่านเสียดฟ้าสูงเจ้า
รัชกาลที่เก้า  "นพเก้าเจ้าแผ่นดิน"

อุบลฯ มาร่วมสร้าง พร้อมทุกอย่างเพื่อแผ่นดิน
หวังว่าคงได้ยิน  ทุกทั่วถิ่นต้องออกมา

สองห้าหกศูนย์  เมืองแม่มูลสองสองห้า
เป็นปีรู้ทั่วล้า  จากเป็นมาเมืองอุบลฯ

อุบลฯ สร้างตำนาน  ให้กล่าวขานทุกแห่งหน
ดอกบัวเราทุกคน  ถวายตนเพื่อ"พ่อหลวง" เอย

๒. ศาสนา ณ ตำบลหนองขอน จังหวัดอุบลราชธานี
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันทโท)

เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ.๒๓๙๙ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะโรง ณ บ้านหนองไหล ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี



หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล  

เกิดจันทร์วันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๐๒ ที่บ้านข่าโคม ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี


หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ

เกิดวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๒๐ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ ณ บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันทโท) เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ "๓ พระอรหันต์ ณ หนองขอน" ทั้ง ๓ ท่านเป็นพระอรหันต์ที่เป็นอาจารย์และศิษย์ โดยสองท่านแรกนั้นมีถิ่นกำหนดที่ "หนองขอน" แต่ทั้ง ๓ พระอรหันต์ล้วนเป็นคนอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจเป็นอย่างมากสำหรับคนอุบลราชธานี ที่ควรจะต้องหวนกับมาให้ความสำคัญในเรื่อง

          สรุป เพื่อให้เรื่องราวของ "๓ พระอรหันต์ ณ หนองขอน" มีความสมบูรณ์อาจจะมีการพิจารณาจัดสร้างรูปปั้นเหมือน ๓ พระอรหันต์ ขนาดใหญ่ ดังนี้
 ๑. บ้านหนองไหล พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันทโท)
 ๒. บ้านข่าโคม หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
 ๓. หนองขอน (อุทยานบึงบัว)  หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ
โดยที่ ณ อุทยานบึงบัว (หนองขอน) จะจัดสร้าง "อนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น" ซึ่งประกอบด้วย
ชั้นที่ ๑. สถานที่ปฏิบัติธรรมและวิปัสสนา
ชั้นที่ ๒. หอเชิดชูเกียรติผู้สร้างบ้านแปงเมืองอุบลราชธานี
ชั้นที่ ๓. หอประวัติหลวงปู่มั่น และคำสอนหลวงปู่มั่น
        ๔. รูปหล่อเหมือนหลวงปู่มั่น (ยืน) สูงประมาณ ๖๕ เมตร








อุทยานบึงบัว      รู้กันทั่วที่หนองขอน

อยากจะขอวิงวอน   เอื้ออาทรมาร่วมจิต


ทุกอย่างต้องเริ่มต้น  คนอุบลฯ เริ่มน้อยนิด 
แต่หากเข้าใจกิจ    เสริมความคิดจะยิ่งใหญ่

ร่วมปฏิสังขรณ์     อันหนองขอนอยู่ไม่ไกล 
คนอุบลฯ รวมใจ   เราต้องไปสร้างความดี

คูณูปมาจารย์     นามเรียกขานพระอุบาลี
หนองไหลมีของดี  เป็นแหล่งที่เริ่มสร้างสรรค์

มาที่บ้านข่าโคม   เหล่าญาติโยมมารวมกัน
บ้านเกิดรู้ทั่วกัน    อรหันต์หลวงปู่เสาร์

หลวงปู่มั่นยิ่งใหญ่   มาน้อมใจพร้อมพวกเรา
คือศิษย์หลวงปู่เสาร์  เรามาเฝ้าเหล่าหลวงปู่

สามแห่งน่าพัฒนา   พวกเรามาร่วมกันดู
เป็นแห่งให้ความรู้   มาเชิดชูหนองขอนเอย



            
  ๓.   สถาบัน “ชาติ”
   เนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเมืองแห่งดอกบัว ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมเอกลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี อันนำไปสู่ความสำคัญระดับชาติ ในเบื้องต้นอาจจะมีการพัฒนา “บัวอุบล” ดังนี้
               บัวอุบลฯ BUA UBON
B = Beauty สวยงาม
U = Upgrade ยกระดับ ทำให้ดีขึ้น
A = Atop บนยอด สุดยอด สูงสุด

U = Usable มีประโยชน์
B = Bright สีสดใส
O = Optimal เหมาะสมที่สุด ดีที่สุด
N =National ประจำชาติ ระดับชาติ
   ดังนั้น BUA UBON  ต้องสวยงามถูกทำให้ดีขึ้นสูงสุดโดยพัฒนาให้มีประโยชน์สีสดใสที่ดีที่สุดในระดับชาติ


             กล่าวสำหรับสถาบันชาตินับว่ามีความสำคัญยิ่ง โดยการพัฒนาชาตินั้นจะต้องเกิดจากการเรียนรู้ในด้านต่างๆ ซึ่ง ณ อุทยานบึงบัวอุบลราชธานี (หนองขอน) สามารถที่จะจัดตั้ง "มหาวิชชาลัย ณ หนองขอน" เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน โดยที่
เรียนรู้ การทำมาหากิน
                - ด้านพันธุ์พืช (เช่น บัว สมุนไพรท้องถิ่น เป็นต้น)
                - ด้านพันธุ์สัตว์น้ำจืด (เช่น ปลา เป็นต้น)
                - ด้านอื่นๆ ที่ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินการ
เรียนรู้ การทำมาหาอยู่
                - ด้านการพัฒนาสุขภาพกาย
                - ด้านการพัฒนาสุขภาพจิต (วิปัสสนา)


มณูญพงศ์ ศรีวิรัตน์
ภาควิชาคณิตศาสตร์ สถิติและคอมพิวเตอร์ 
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ผู้ร่างโครงการ

อ้างอิง