วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

VIVA

คำๆ นี้ เป็นภาษาสเปนที่แปลว่า “ขอให้มีชีวิตยืนยาว” ผู้เขียนคิดว่าเป็นคำที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลย เพราะอะไรละครับ มนุษย์เราในปัจจุบันต่างก็ค้นคว้าค้นหาวิจัยว่ามีสิ่งใดที่จะทำให้ชีวิตของมนุษย์เรามีระยะเวลาที่นานที่สุด มีชีวิตที่ยืนยาวมากที่สุด ใช้ทั้งเรื่องของวิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ ความเชื่อต่างๆ นานา
ชีวิตของมนุษย์เกิดมานั้นคิดว่ายากแล้ว การที่มีจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย จะต้องเรียนรู้ จะต้องปรับตัวในด้านต่างๆ เพื่อความอยู่รอด หลายๆ ท่านอาจจะโชคดีที่เกิดมาแล้วมีทุกอย่างที่ครบถ้วนสมบูรณ์ หลายๆ ท่านก็อาจจะโชคไม่ดีพอ กล่าวคือ ไม่ค่อยจะมีอะไรที่สมบูรณ์ ซึ่งจะต้องต่อสู้ในเส้นทางของการดำรงชีวิต

อย่างที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนหลีกหนีไม่พ้น จะเร็วจะช้าก็ขึ้นอยู่ผลการกระทำ (ผลกรรม) ของแต่ละท่าน หลายๆ ท่านเมื่อเกิดมาแล้วรับรองได้ว่า ไม่อยากจะแก่ ไม่อยากจะเจ็บ ไม่อยากจะตาย กล่าวง่ายๆ คือ อยากจะ “VIVA

แล้วในความเป็นจริงท่านคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่มนุษย์เราจะอยู่ในโลกนี้อย่างยาวนาน เซลล์ (หรือที่หมายถึงธาตุขนาดเล็กๆ ในร่างกายของเรา) ต่างก็มีเกิดและตายไปทุกขณะเวลา ผิวหนังใบหน้าและส่วนอื่นๆ มีการตายและเกิดขึ้นมาแทนกันไป มีการเสื่อมตายไป ทุกส่วนของร่างกายเราเกิด แล้วก็เสื่อมแก่ไปตามกาลเวลา อันไหนที่ยังไม่ตายไป ก็เกิดอาการที่เสื่อมทำให้เจ็บป่วย แล้วในที่สุดเซลล์เล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องตายไปในสิ้น อันทำให้ร่างกายของมนุษย์เราดับสูญในที่สุด

โดยส่วนมากแล้ว เมื่อมีชีวิตอยู่นั้นมนุษย์เรามักจะอธิฐานหรือมีความอยาก มีความประสงค์ มีความต้องการ ที่จะเกิดใหม่ให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม รวยกว่าเดิม สวยกว่าเดิม หล่อกว่าเดิม เรียนเก่งกว่าเดิม สรุปคือ ดีกว่าเดิมในทุกๆ เรื่อง ทุกๆ ด้าน แต่อาจจะมีบางท่านที่อธิฐานไม่ขอเกิดอีกแล้ว อยากจะหยุดแล้วในความเป็นมนุษย์ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับความอยากจะ VIVA

ใครที่อยากจะ VIVA ก็ต้องพยายามรักษาตัวเองทั้งทางด้านจิตใจและร่างกาย ไม่ทำร้ายจิตใจของตนเอง (รวมทั้งจิตใจของคนอื่นๆ) ไม่ทำร้ายร่างกายของตัวเอง (รวมทั้งทำร้ายร่างกายของคนอื่นๆ) คำว่า “ไม่ทำร้ายจิตใจและร่างกายของตนเอง” เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก (ซึ่งผู้เขียนก็ยังทำไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็จะพยายาม และตั้งใจว่า “จะไม่ทำร้ายจิตใจและร่างกายของเราเอง) เพราะตรงกับการที่เรารักษาศีล ๕ ด้วย

กล่าวสำหรับคำว่า VIVA นั้นมีเพลงๆ หนึ่งที่กล่าวถึง โดยมีท่อนหนึ่งของเพลง คือ “Viva forever, I'll be waiting” ซึ่งเป็นเพลงของเกาะอังกฤษของวงสุภาพสตรีที่ชื่อว่า Spice Girlsลองฟังเพลงนี้ดูครับว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อท่านได้ฟังแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างครับ มีประโยคหนึ่งที่น่าสนใจ คือ “Everlasting, like the sun” อันหมายถึง นิรันดร์เช่นดวงอาทิตย์ แล้วในชีวิตจริงของมนุษย์เราจะมีอะไรที่เป็นเช่นนั้นบ้าง เวลาของชีวิตเราคงจะไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้ หากมีบุญวาสนาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติใช้กรรมที่ทำมา ซึ่งหากโชคดีก็อาจจะได้เกิดเป็นมนุษย์เพื่อทำประโยชน์ทำบุญต่อไป หากโชคไม่ดี (ทำแต่กรรมไม่ดี) ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดเป็นอะไรอีก

ครับ VIVA สามารถที่จะเป็นได้หากเราต้องการจะเป็นภายใต้กฎธรรมชาติที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม หากท่านใดต้องการที่จะมี VIVA มากๆ ก็อย่าใช้ VISA มากด้วยก็แล้วกัน (รูดป๊ด รูดป๊ด ใช้สิ่งที่เป็นอนาคตมากๆ แล้วปัจจุบันจะสั้นลงนะครับ)

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

สมรส

เมื่อคืนวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๕ ผู้เขียนได้ไปร่วมงานมงคลสมรสของเพื่อนโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย (ม.๖ รุ่น ๒) ซึ่งโดยปกติทุกๆ ปี พวกเราเพื่อนโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย (ม.๖ รุ่น ๒) จะจัดงานเลี้ยงรุ่นโรงเรียนในช่วงของวันหยุดของปีใหม่ อย่างไรก็ดีในปีนี้ พวกเราก็เลยถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันรวมรุ่นเลี้ยงรุ่นพร้อมแสดงความยินดีกับเพื่อนไปด้วย สำหรับเพื่อนของผู้เขียนนั้นเป็นเพื่อนชาย (หากเป็นเพื่อนหญิงคงอาจจะเลยวันอันควรไปแล้ว) ที่แต่งกับรุ่นน้องอายุห่างกัน ๒๐ ปี (ก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าจะรุ่นน้องหรือไม่)

เพื่อนๆ ของผู้เขียนก็เลยรวมตัวกันก่อนเข้างาน โดยเมื่อพร้อมก็ไปลงทะเบียนและเขียนคำอวยพรพร้อมกัน โดยเพื่อนๆ ให้ผู้เขียนเป็นคนที่เขียนนำก่อน ช่วงเสี้ยวของวินาทีทำให้ผู้เขียนคิดว่าจะเขียนว่าอะไรดี ก็เลยเขียนคำว่า "สมรส"

มาถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าเขียนเพียงคำว่า "สมรส" เท่านั้นเหรอ ด้วยเวลาที่เร่งรีบที่มีผู้คนเพื่อนๆ รออยู่ด้านหลัง ผู้เขียนก็เลยเขียนขยายต่อไปเป็นดังนี้

สม คือ ขอให้สมปรารถนาทุกเรื่องในชีวิตคู่

รส คือ ขอให้มีรสชาติของความสุขในชีวิตคู่

ที่นี้เมื่อผู้เขียนเข้าไปในงานก็เลยนึกคิดต่อว่า "เราน่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับ คำว่า สมรส" เพิ่มเติมก็น่าจะดี ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้ ดังนั้น จึงขอเริ่มด้วยคำว่า " สม" ก่อน

"สม" หมายถึง เหมาะ พอดี ร่วมกัน เหมือนกัน เป็นดั่ง โดยคำว่า "สม" เรามักจะไม่ใช้หรือเห็นเป็นคำโดดๆ หรือเดี๋ยวๆ ซึ่งโดยส่วนมากเราจะพบเห็นเป็นว่า "สม" นั้นมักอยู่ด้านหน้าของคำอื่นๆ เช่น

สมหวัง สมประสงค์ สมนึก คือ เป็นดั่งที่หวังไว้
สมใจ สมฤดี คือ เป็นเหมือนที่ใจได้ตั้งไว้
สมชาย คือ เป็นชายอย่างเหมาะพอดี เป็นต้น
แต่บางครั้ง คำว่า "สม" หากอยู่ด้านหน้าของคำอื่นก็อาจจะความหมายไม่ค่อยดีสักเท่าไรนัก เช่น
สมน้ำหน้า คือ (ผู้เขียนไม่ขอออกความเห็น)
สมเพช คือ (ผู้เขียนไม่ขอออกความเห็น) เป็นต้น

สำหรับ "รส" ท่านผู้อ่านคงจะทราบดีว่าหมายถึงอะไร ซึ่งโดยส่วนมากแล้วมักจะเกี่ยวกับการกิน (รับประทานที่ใช้ประสาทของลิ้นรับรู้) อันเป็นเรื่องของรสชาติ ประกอบด้วย รสเผ็ด รสเค็ม รสขม รสเปรี้ยว รสหวาน รสจืด (ไม่แน่ใจว่าเขาเรียกว่ารสหรือไม่) รสเด็ด (คงจะหมายถึงรสชาติที่เอร็ดอร่อยอย่างมาก) แต่ก็ยังมี "รส" อีกอย่างหนึ่งที่อาจจะไม่เกี่ยวกับการใช้ประสาทของลิ้น รสที่ว่าคือ "รสนิยม" อันหมายถึง ความชอบ ความพอดี ความพอใจ ความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

ดังนั้น จากความหมายข้างต้นของคำว่า "สม" และ "รส" หากว่าเรานำมาใช้รวมกันโดยให้ "สม" อยู่ด้านหน้าของคำว่า "รส" ก็จะมีความหมาย เป็นดังนี้ (แต่หากว่าเอา "รส" ขึ้นก่อน "สม" แล้ว ผู้เขียนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหมายถึงอะไร)

สมรส คือ สองสิ่ง (ชายกับหญิง หรือ ชายกับชาย หรือ หญิงกับหญิง) ที่มีความเหมาะสม เหมือนกัน พอดีกัน มีจิตใจร่วมกันพร้อมที่จะเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกันภายใต้สถานการณ์ที่มีหลากหลาย (หลากหลายรสชาติ : หวาน มัน เค็ม เปรี้ยว ขม จืด แต่ไม่ควรที่จะเรียงลำดับของชีวิตสมรสตามนี้นะครับ หวาน มัน เค็ม เปรี้ยว ขม จืด)

ครับ สุดท้ายนี้ หากท่านใดที่สมรสแล้วก็จง “สมรส” ต่อไปด้วยรสชาติของความหวานในชีวิตตลอดไป และท่านใดที่สมรสแล้วรสชาติมันขมก็เติมความหวานเข้าไป ส่วนท่านใดที่ยังไม่ “สมรส” ก็ขอให้ “สม” ก่อนก็แล้วกันครับ